[Update] 40 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ทำให้คุณต้องไปแล้วไปอีก | สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่น่าสนใจ – Sonduongpaper

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่น่าสนใจ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Yoshikazu TAKADA [CC BY-SA 2.0] from flickr.com/photos/Yoshikazu TAKADA

 

ประเทศญี่ปุ่นนอกจากความน่าสนใจด้านความเจริญก้าวหน้าแล้ว ก็ยังเป็นประเทศที่มีลักษณะทางภูมิประเทศที่ค่อนข้างพิเศษแตกต่างจากประเทศอื่นๆของโลก คือมีลักษณะเป็นเกาะที่มีเทือกเขาสูงมากกว่า 75% ของพื้นที่ มีอุณภูมิและสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งหมด 4 ฤดู ผนวกกับศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประเทศนี้ ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของญี่ปุ่นที่น่าสนใจมากมาย กระจายตัวกันอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งแม้จะเป็นสถานที่เดียวกัน แต่ก็ยังมีมนเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลด้วย

ในบทความนี้เราจะรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่นมาให้ชมกันทั้งหมด 40 แห่ง ซึ่งก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายประเภท แตกต่างกันไปทั้งศิลปะวัฒนธรรม ธรรมชาติ และแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่เที่ยวเจ๋งๆในประเทศญี่ปุ่นจะมีอะไรบ้าง กับ 40 สุดยอดที่เที่ยวยอดฮิตทั่วญี่ปุ่น

>> จองที่พักญี่ปุ่น ราคาพิเศษ กับ Traveloka <<

 

 

1. ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง(Fushimi Inari Shrine)

ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

ศาลเจ้าจิ้งจอกแดงเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริทำให้เป็นภาพที่แปลกตาจึงไม่แปลกที่จะได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นตามเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่างๆอยู่ตลอดเวลา

ข้อมูลเที่ยวศาลเจ้าจิ้งจอกแดง

 

 

2. วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง(Kinkakuji)

ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

วัดคินคะคุจิหรือวัดทองเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองเกียวโต เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น มีอาคารไม้ที่ทาสีทองอยู่ริมบึงน้ำ ที่โดดเด่นและสวยงามกว่าที่ไหนๆในญี่ปุ่น ซึ่งจะมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ทั้งสวนดอกซากุระ หิมะขาวโพลน ใบไม้แดง และสีเขียวชอุ่มในฤดูร้อน นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สวยงามให้เดินชมกันด้วย

ข้อมูลเที่ยววัดคินคะคุจิหรือวัดทอง

 

 

3. ปราสาทฮิเมจิ(Himeji Castle)

ที่ตั้ง: เมืองฮิเมจิ(Himeji) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้(UNESCO) มีอาณาบริเวณกว้างขวางรวมทั้งสวนที่มีต้นซากุระที่สวยงามมากจนติดหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระบานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเลยทีเดียว

ข้อมูลเที่ยวปราสาทฮิเมจิ(Himeji Castle)

 

 

4. หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)

ที่ตั้ง: เมืองโทยาม่า(Toyama) ภูมิภาคชุบุ(Chubu)

หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะเป็นหมู่บ้านมรดกโลก(UNESCO) ที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามแปลกตาของหลังคาบ้าน แบบญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งจะมีบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลทั้ง 4 เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะมีงานเทศกาลเปิดไฟส่องที่บ้านแต่ละหลังทำให้ยิ่งสวยงามมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลการเที่ยวหมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ

 

 

5. ทะเลสาบคาวากูชิโกะ(Lake Kawaguchiko)

ที่ตั้ง: จังหวัดยามานาชิ(Yamanashi) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)

ทะเลสาบคาวากูจิโกะเป็นหนึ่งใน 5 ทะเลสาบที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิแบบใกล้ๆ แต่เป็นเพียงทะเลสาบแห่งเดียวที่สามารถเดินทางไปถึงได้ง่ายที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ เพราะมีทั้งสถานีรถไฟและรถบัสตั้งอยู่ ทำให้เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวเมืองโตเกียว โดยมีพื้นที่บริเวณชายฝั่งทิศตะวันออกของทะเลสาบเป็นที่พัก และออนเซนที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามได้อย่างชัดเจน

ข้อมูลการเที่ยวทะเลสาบคาวากูชิโกะ

 

 

6. ปราสาทมัตสึโมโตะ(Matsumoto Castle)

ที่ตั้ง: เมืองมัตซุโมโต้(Matsumoto) จังหวัดนากาโน่(Nagano) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)

ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นปราสาทที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุุ่น เพราะเป็นปราสาทหลังดั้งเดิมที่ยังไม่เคยถูกทำลายมาก่อน แต่กลับคงความสมบูรณ์และสวยงามของปราสาทเอาไว้ได้ ทั้งๆที่มีอายุมากกว่า 400 ปีแล้ว มีการใช้สีดำเพื่อให้ดูขลัง มีอาคารหอคอย 2 อาคารที่สร้างเชื่อมต่อกัน มีความสูง 6 ชั้น รอบๆปราสาทจะมีสวนต้นซากุระที่จะออกดอกสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ข้อมูลเที่ยวปราสาทมัตสึโมโตะ

 

 

7. ศาลเจ้ากลางทะเล อิสึกุชิมะ แห่งเกาะมิยาจิมะ(Miyajima Itsukushima Shrine)

photos by Floyd Manzano from flickr.com/photos/[email protected]/13472768395( cc by 2.0 )

ที่ตั้ง: เมืองฮิโรชิม่า(Hiroshima) ภูมิภาค ชูโกกุ(Chugoku)

ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ แห่งเกาะมิยาจิมะ หรือบางทีก็เรียกว่า ศาลเจ้ามิยาจิมะ เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังจาก อาคารศาลเจ้าและประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนดูเหมือนลอยอยู่ในน้ำในช่วงที่น้ำขึ้น ในส่วนของศาลเจ้าจะประกอบไปด้วยหลายอาคาร เช่น อาคารภาวนา อาคารหลัก และโรงละครโนะ ซึ่งจะเชื่อมต่อกันด้วยทางระเบียงทางเดินที่มีเสาด้านล่างอยู่ในทะเลเพื่อรับน้ำหนัก จึงเหมือนเป็นศาลเจ้าลอยน้ำ ที่มีสีแดงตัดกับสีน้ำเงินของน้ำทะเลอย่างโดดเด่น

ข้อมูลเที่ยวศาลเจ้าอิสึกุชิมะ

 

 

8. วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส(Kiyomizu-dera)

ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใสเป็นหนึ่งในวัดที่ดังที่สุดของเมืองเกียวโต ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก(UNESCO) มีอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่ริมภูเขาสูงจากพื้นถึง 13 เมตรโดยไม่ใช้ตะปูในการสร้างเลย โดยจะมีระเบียงที่ยื่นออกไปสำหรับชมวิวเมืองเกียวโตได้ด้วย นอกจากนี้ที่บริเวณทางเข้าของวัดยังมีถนนคนเดินที่มีบรรยากาศเมืองเก่าของเกียวโตให้เดินเล่นกันด้วย

ข้อมูลเที่ยววัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส

 

9. สวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)

ที่ตั้ง: จังหวัดอิบารากิ(Ibaraki) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

สวนฮิตาชิ(Hitachi Park) เป็นสวนริมทะเลขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงด้านทุ่งดอกไม้ที่สวยงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเฉพาะทุ่งต้นโคเชีย(Kochia)ที่โดยปกติจะมีสีเขียวก็สวยงามแปลกตาอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนเป็นสีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ยิ่งสวยงามอลังการมากขึ้นไปใหญ่ นอกจากนี้ก็ยังมีทุ่งดอกไม้อย่างอื่นที่สวยงามอลังการไม้แพ้กันอีกหลายชนิดตามแต่ละช่วงเวลา ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 130 กิโลเมตร

ข้อมูลเที่ยวสวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค

 

 

10. ห้าแยกชิบูย่า และย่านชินจูกุ(Shinjuku)

ที่ตั้ง: จังหวัดโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

บริเวณใจกลางเมืองโตเกียวเป็นแลนมาร์คของความเป็นมหานครยุคใหม่ของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง โดยเฉพาะบริเวณห้าแยกชิบูย่าที่กลายเป็นสัญญลักษณ์สำคัญจุดหนึ่งของเมืองโตเกียว รวมไปถึงย่านช้อปปิ้งกลางเมืองอย่างชินจูกุที่เป็นหนึ่งในย่านชื่อดังของเมืองโตเกียว ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาหลักหลายล้านคนในแต่ละปี

ข้อมูลเที่ยวย่านชินจูกุ และ ข้อมูลเที่ยวย่านชิบูย่า

 

 

11. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

ที่ตั้ง: เมืองโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

โดทงบูริ หรือ ดงโทบุริ เป็นย่านกลางคืนที่คึกคักมากที่สุดของเมืองโอซาก้า ที่มีสัญญลักษณ์ของเมืองนี้อยู่ นั่นก็คือป้ายปูยักษ์ และป้ายนักวิ่งกูลิโกะ โดยจะมีแม่น้ำอยู่ตรงกลาง ซึ่งรอบๆก็จะมีแหล่งช้อปปิ้งมากมายเรียงรายกันไปแทบทุกทิศทุกทางเลย เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้มาแถวนี้ก็เหมือนยังมาไม่ถึงโอซาก้านั่นเอง

ข้อมูลเที่ยวย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

 

 

12. วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาสากุซะ หรือวัดโคมแดง

ที่ตั้ง: เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

วัดเซนโซจิเป็นวัดชื่อดังที่สุดของเมืองโตเกียว อยู่ที่ย่านอาสากุซะ มีสัญญลักษณ์เป็นโคมสีแดงขนาดใหญ่ที่ประตูทางเข้า มีถนนด้านหน้าวัดที่เต็มไปด้วยร้านรวงขายขนมและของที่ระลึก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคึกคักมากตลอดทั้งวันของเมืองโตเกียว

ข้อมูลการเที่ยววัดเซนโซจิ หรือ วัดอาสากุซะ หรือวัดโคมแดง

 

 

13. ตลาดปลาซึกิจิ(Tsukiji Fish Market)

ที่ตั้ง: เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

ตลาดปลาซึกิจิ เป็นตลาดค้าส่งปลา, อาหารทะเล, ผักและผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว รวมทั้งยังมีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย เนื่องจากมีการซื้อขายสินค้าทะเลกว่า 2000 ตันต่อวัน จึงเหมาะกับการมาเดินชมบรรยากาศของตลาดแบบญี่ปุ่นชิมอาหารหรือซื้อของฝากจากทะเล โดยเฉพาะซูชิทั้งหลาย นอกจากนี้ยังมีการประมูลปลาทูน่าที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ด้วย

ข้อมูลเที่ยวตลาดปลาซึกิจิ

 

 

14. โตเกียว ดิสนีย์แลนด์(Tokyo Disneyland) และโตเกียวดิสนีย์ซี(Tokyo Disney Sea)

ที่ตั้ง: เมืองชิบะ(Chiba)ที่อยู่ติดกับโตเกียว ภูมิภาคคันโต(Kanto)

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกชื่อดังที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2013 มีจำนวนมากถึง 17.3 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงเป็นตัวการันตีถึงความเจ๋งของที่นี่ได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์

 

 

15. กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ(Tateyama Kurobe Alpine)

ที่ตั้ง: เมืองโทยาม่า(Toyama) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)

กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ หรือ Snow Wall จะเกิดจากการทับถมของหิมะที่สูงมากถึง 20 เมตรเลยทีเดียว โดยจะเกิดปรากฏการณ์นี้เฉพาะในฤดูใบไม้ผลิช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน-กลางเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งในพื้นที่ส่วนอื่นๆของญี่ปุ่นถือว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้ต่างจะบานสะพรั่งกันอย่างสวยงาม นอกจากนี้บริเวณนี้ยังสามารถเข้าชมในฤดูอื่นๆที่จะมีความสวยงามแตกต่างกันไปด้วย เช่นการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และการชมทุ่งดอกไม้ในฤดูร้อน

ข้อมูลเที่ยวกำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ

 

 

16. พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ โอซาก้า(Kaiyukan Osaka Aquarium)

ที่ตั้ง: เมืองโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

See also  พรีวิว Xiaomi 11T เทียบ 11T Pro ชุดกล้องเหมือนกันแต่แตกต่างกัน สเปกโคตรโหด เพียง 13,990.- | โทรศัพท์เสี่ยวมี่

พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ โอซาก้าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์น้ำที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเหมาะกับการใช้เวลาดูสัตว์น้ำที่นี่ซักครึ่งวัน หรือถ้ามีความสนใจอยู่แล้ว อาจจะอยู่ได้เกือบทั้งวันเลยทีเดียว ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างโดยเฉพาะแท้งค์ยักษ์ที่มีฉลามวาฬอาศัยอยู่

ข้อมูลการเที่ยวพิพิธภัณท์สัตว์น้ำ โอซาก้า

 

 

17. ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm)

ที่ตั้ง: เมืองฟูราโน่(Furano) ภูมิภาคฮอกไกโด(Hokkaido)

ที่ภูมิภาคฮอกไกโด จะนิยมปลูกดอกไม้กันในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะดอกลาเวนเดอร์ ที่ปลูกกันมานานเกือบ 100 ปีแล้ว และจุดชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของฮอกไกโดคือที่ ฟาร์มโทมิตะ(Farm Tomita) ซึ่งมีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ(Tokachi mountain) ที่เปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย

ข้อมูลเที่ยวทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ ฟาร์มโทมิตะ

 

 

18. สวนเค็นโรคุเอ็น(Kenrokuen Garden)

ที่ตั้ง: เมืองคานาซาวะ(Kanazawa) จังหวัดอิชิคาว่า(Ishikawa) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)

สวนเค็นโรคุเอ็นเป็นสวนที่มีความสวยงามติดหนึ่งใน 3 สวนสวยของประเทศญี่ปุ่น เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ภายในมีการจัดแต่งสวนแบ่งออกเป็น 6 แบบด้วยกัน มีการใช้เทคนิคขั้นสูงหลายอย่างตามสวนสไตล์เซน รวมทั้งสวนนี้จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะเห็นต้นไม้สีแดงภายในสวนที่ถูกเลือกในตำแหน่งที่ลงตัวมากด้วย

ข้อมูลเที่ยวสวนเค็นโรคุเอ็น

 

19. สวนกวางนารา(Nara Park)

ที่ตั้ง: เมืองนารา(Nara) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

สวนนารา เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของในตัวเมืองนาราที่รวมเอาแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของเมืองมาอยู่ในบริเวณเดียวกันนี้หลายแห่งด้วยกัน แต่หนึ่งในไฮไลท์สำคัฐของที่นี่ก็คือเหล่ากวางน้อยที่เดินกันอยู่เต็มสวนเลยทีเดียว ซึ่งในบริเวณนี้จะมีร้านขนมเซมเบ่ สำหรับเลี้ยงกวางที่จะเดินตามมากินอาหารของเราด้วย

ข้อมูลเที่ยวสวนกวางนารา

 

 

20. สวนลิงจิโกคุดานิ(Jigokudani Yaen Park)

ที่ตั้ง: เมืองนากาโน่(Nagano) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)

สถานที่สำหรับดูลิงแช่ออนเซนท่ามกลางหิมะที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแปลกของญี่ปุ่น ตั้งอยู่กลางหุบเขาจิโกคุดานิ มีบ่อน้ำที่สร้างขึ้นสำหรับเจ้าลิงทั้งหลาย ซึ่งจากประตูทางเข้าสวนเดินเข้าไปเพียง 5 นาที นักท่องเที่ยวจะพบเห็นลิงตลอดเส้นทางที่ไปยังสระน้ำ โดยพวกมันจะจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มีความคุ้นเคยกับมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามห้ามเข้าไปจับหรือให้อาหารโดยเด็ดขาด

ข้อมูลเที่ยวสวนลิงจิโกคุดานิ

 

 

21. ภูเขาไฟฟูจิ Mt. Fuji (Shizuoka/Yamanashi)

ที่ตั้ง: จังหวัดชิซุโอกะ(Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ(Yamanashi)

ภูเขาไฟฟูจิเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กหลักของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดด้วย มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้จากระยะทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร ทำให้การเที่ยวภูเขาไฟฟูจิแบบที่ต้องการวิวฟูจิ จึงกินอาณาบริเวณกว้างมาก แต่แหล่งท่องเที่ยวหลักๆจะอยู่ที่ทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ(Fuji Kawagushiko) และทะเลสาบเมืองฮาโกเน่(Hakone Lake) หรือไม่งั้นก็จะเป็นกิจกรรมการปีนภูเขาไฟฟูจิที่เป็นที่นิยมมากเช่นกัน

ข้อมูลการเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ

 

 

22. เกาะภูเขาไฟซากุระจิมะ(Sakurajima)

ที่ตั้ง: จังหวัดคาโกชิม่า(Kagoshima) และภูมิภาคคิวชู(Kyushu)

ภูเขาไฟซากุระจิมะ เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่มากที่สุดลูกหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล และจากการระเบิดครั้งใหญ่อีกครั้งเมื่อปี 1914 ทำให้เกาะเชื่อมต่อกับแผ่นดินอีกฝั่งของคาบสมุทรโอซุมิ แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังคงมีการปะทุให้เห็นเป็นกลุ่มควันและขี้เถ้าอยู่เรื่อยๆตลอดเวลา บางครั้งถึงกับปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองคาโกชิมะเลยทีเดียว

ข้อมูลการเที่ยวเกาะซากุระจิมะ

 

 

23. เมืองชนบท อาราชิยาม่า(Arashiyama)

ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

เมืองชนบทอาราชิยาม่าเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเกียวโต ที่มีเสน่ห์อยู่ที่ความลงตัวระหว่างความสวยงามทางธรรมชาติและบ้านเมืองตามชนบทของญี่ปุ่น มีแหล่งท่องเที่ยวฮิตๆคือ วัด ศาลเจ้า ป่าไผ่ สวนลิง และการนั่งรถไฟชมวิวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่เรียกกันว่า Sagano Romantic Train

ข้อมูลการเที่ยวเมืองอาราชิยาม่า

 

 

24. เทือกภูเขาไฟอะโซะ(Aso Mountain)

ที่ตั้ง: จังหวัดคุมาโมโต้(Kumamoto) และจังหวัดโออิตะ(Oita) ภูมิภาคคิวชู(Kyushu)

ภูเขาไฟอะโซะ(Aso Mountain)เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นตามากอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่มีสภาพเป็นเนินเขา ทุ่งหญ้า กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ทำให้มีจุดชมวิวที่สวยงามอยู่มากมาย ที่บริเวณตอนกลางของภูเขาอะโซะจะมีปากปล่องที่ยังไม่ดับ จะมีน้ำอยู่ภายในที่มีไอเดือดอยู่ตลอดเวลา สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมได้

ข้อมูลการเที่ยวภูเขาไฟอะโซะ

 

 

25. สวนและพิพิธภัณท์สันติภาพฮิโรชิม่า Hiroshima Peace Park

ที่ตั้ง: เมืองฮิโรชิม่า(Hiroshima) ภูมิภาคชูโกกุ(Chugoku)

สวนสันติภาพฮิโรชิม่าเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กินพื้นที่ประมาณ 120,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิม่า(Hiroshima)ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศเป็นอนุสรณ์สถานให้กับการทิ้งระเบิดปรมาณูเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และพิพิธภัณฑ์ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆคือส่วนที่จะจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรชิม่า และอีกส่วนจะเกี่ยวกับการถูกทิ้งระเบิด ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์โดยละเอียด และเนื่องจากญี่ปุ่นเป็นเพียงประเทศเดียวในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่เคยถูกทิ้งระเบิดนิวเคลีย จึงเป็นที่สนใจคนผู้คนทั่วโลกที่เดินทางมาที่นี่

ข้อมูลเที่ยวสวนและพิพิธภัณท์สันติภาพฮิโรชิม่า Hiroshima Peace Park

 

 

26. ย่านฮาราจูกุ(Harajuku)

ที่ตั้ง: จังหวัดโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

ย่านฮาราจูกุ(Harajuku) เป็นย่านแฟชั่นแปลกหลากสไตล์ของบรรดาเหล่าวัยรุ่น ชิคๆ เก๋ๆ ที่มีให้ดูกันเพียบ ย่านนี้อยู่ระหว่างชินจูกุและชิบูย่า เป็นเหมือนศูนย์รวมของวันรุ่นญี่ปุ่นที่มีสไตล์การแต่งตัวและแฟชั่นที่จัดจ้านไม่ซ้ำใคร ถนน Takeshita Dori เส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ขนมเครปและร้านอาหาร ซึ่งเป็นเหมือนจุดนัดพบและเดินเล่นของบรรดาเหล่าวัยทีน ที่แต่งตัวแบบคอสเพลย์, แต่งตามตัวการ์ตูนแอนนิเมะ หรือเป็นแนวพังค์ก็พบได้ที่ย่านนี้

ข้อมูลเที่ยวย่านฮาราจูกุ

 

 

27. ลานสกีในญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหิมะตกได้ในหลายพื้นที่เกือบทั่วประเทศ จึงทำให้มีสกีรีสอร์ทกระจายตัวกันอยู่หลายร้อยแห่ง อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นยังถูกจัดว่ามีหิมะที่คุณภาพสูง(Powder Snow) จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวมากมายจะเลือกเดินทางมาเล่นสกีกันที่นี่ โดยสกีรีสอร์ทที่ได้รับการโหวตว่ามีคุณภาพของหิมะสูงโดยเฉพาะที่เกาะฮอกไกโด เช่น Niseko, Rusutsu, Kiroro, และ Asahidake แต่ก็ไม่ใช่ว่าในภูมิภาคอื่นๆจะด้อยกว่าเพราะแต่ละแห่งก็จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องขนาดของลานสกี หรือความยากง่ายในการเดินทางไป เอาเป็นว่าใกล้ที่ไหนไปที่นั่นก็ไม่น่าจะผิดพลาดแต่อย่างใด

 

 

28. ย่านมินาโตะ มิเรอิ (Minato Mirai)

ที่ตั้ง: เมืองโยโกฮาม่า(ํYogohama) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

ย่านมินาโตะ มิเรอิ เป็นย่านริมทะเลของเมืองโยโกฮาม่าซึ่งเป็นเมืองท่าหลักที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงโตเกียว ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น landmark หลักของเมืองโยโกฮาม่าไปแล้ว ด้วยตึกสูงรูปทรงสวย ที่ตั้งตระหง่านริมทะเลอยู่มากมาย ที่ให้บรรยากาศระหว่างความเก่าและใหม่ผสมกันอย่างลงตัว

ข้อมูลเที่ยวย่านริมทะเล มินาโตะ มิเรอิ (Minato Mirai)

 

 

29 ป้อมดาวห้าแฉก โงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)

ที่ตั้ง: เมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate) ภูมิภาคฮอกไกโด(Hokkaido)

ป้อมโงเรียวกาคุ หรือ “ป้อมดาว 5 แฉก” เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่รูปดาวเนื่องจากต้องการเพิ่มพื้นที่ในการวางปืนใหญ่นั่นเอง ซึ่งจะมองเห็นได้จากมุมสูง เป็นป้อมสร้างตามสไตล์ตะวันตก สร้างขึ้นในปีสุดท้ายของสมัยเอโดะ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ที่มีความสวยงามแตกต่างกันไปทั้ง 4 ฤดู มีทั้งดอกซากุระบาน ความเขียวชอุ่มของใบไม้ สีเหลืองแดงของช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และความขาวโพลนของหิมะในฤดูหนาว

ข้อมูลเที่ยวป้อมห้าแฉก โงเรียวกาคุ

 

 

30. สวนสนุกยูนิเวอแซล สตูดิโอ Universal Studio Japan

ที่ตั้ง: จังหวัดโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

สวนสนุก USJ เป็นสวนสนุกแห่งแรกของยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ ที่เปิดในเอเชีย และเป็นสวนสนุกที่มีคนมาเที่ยวมากเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น รองจาก Tokyo Disney Resort และยังมีโซนเครื่องต่างๆมากมายที่อัพเดตต่อเนื่องตลอดเวลา ล่าสุดก็คือโซนแฮร์รี่ พอตเตอร์

ข้อมูลเที่ยวสวนสนุก Universal Studio Japan

 

 

31. ศาลเจ้าเมจิ จิงกู (Meiji-jingu Shrine)

ที่ตั้ง: ย่านฮาราจูกุ(Harajuku) เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

ศาลเจ้าเมจิ จิงกูเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองโตเกียว อยู่ติดกับสถานีรถไฟฮาราจูกุ มีพื้นที่สวนล้อมรอบขนาดใหญ่เหมือนกับเป็นป่าใจกลางเมือง ว่ากันว่าภายในมีต้นไม้อยู่มากกว่า 1 แสนต้น ชาวเมืองโตเกียวจะนิยมมาไหว้พระขอพรกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆเช่น วันปีใหม่

ข้อมูลการเที่ยวศาลเจ้าเมจิ จิงกู

 

 

32. วัดซันจูซันเก็นโด หรือวัดเจ้าแม่กวนอิมพันมือ (Sanjusangendo Temple)

ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

วัดซันจูซันเก็นโดเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่าพันปี อยู่ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ภายในวัดมีพระพุทธรูปของเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ขนาดเท่าคนจริง จำนวนมากถึง 1001 องค์ตั้งวางเรียงรายอยู่ภายในวิหารที่เป็นอาคารไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น

ข้อมูลการเที่ยววัดซันจูซันเก็นโด

 

33. พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ(Nagasaki Atomic Bomb Museum)

ที่ตั้ง: จังหวัดนางาซากิ(Nagasaki) ภูมิภาคคิวชู(Kyushu)

See also  โรควิตกกังวลและโรคตื่นตระหนก | โรค มี อะไร บ้าง

พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิเป็นอีกหนึ่งแหล่งศึกษาเกี่ยวกับผลของสงครามและระเบิดนิวเคลีย มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ และรูปถ่ายของสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการถูกทิ้งระเบิดปรมาณู และด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่เคยถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทำให้เป็นที่สนใจของคนทั่วโลกไปด้วย

ข้อมูลเที่ยวพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ

 

 

34. ปราสาทนิโจ(Nijo Castle)

ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

ปราสาทนิโจเป็นปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก(UNESCO) ที่จริงน่าจะเรียกว่าพระราชวังมากกว่า เพราะไม่ได้เป็นหอคอยแบบปราสาทอื่นๆของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางของเมืองเกียวโต ภายในมีการจัดแสดงห้องต่างๆของจักรพรรดิญี่ปุ่น รวมทั้งสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงามให้ชมกันด้วย

ข้อมูลเที่ยวปราสาทนิโจ

 

 

35.  พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ(Churaumi Aquarium)

ที่ตั้ง: เกาะโอกินาว่า

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีแท้งค์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ภายในนอกจากจะมีปลาทะเลหายากมากมายแล้ว ยังมีปลาฉลามวาฬอยู่ถึง 3 ตัวด้วยกัน

ข้อมูลเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ

 

 

36. คิบูเนะ(Kibune)

ที่ตั้ง: จังหวัดเกียวโต(Kyoto), ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

คิบูเนะเป็นเมืองชนบทเล็กๆที่อยู่ในภูเขาทางตอนเหนือของเกียวโต มีชื่อเสียงด้านความงามตามธรรมชาติที่ผสานกับศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โดยมีศาลเจ้าคิบูเนะที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ด้วย มีชื่อมาจากตำนานที่ว่าเทพเจ้าได้เดินทางจากเมืองโอซาก้าโดยใช้เรือสีเหลือง ล่องตามแม่น้ำขึ้นมาที่ภูเขาทางเหนือของเกียวโต และมาถึงปลายทางที่เมืองแห่งนี้ จึงเรียกตั้งชื่อเมืองตามตำนานว่า คิบูเนะ หรือ เรือสีเหลือง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของเมืองคิบูเนะ ได้ที่นี่

 

 

37. วัดโทไดจิ(Todaiji)

 

ที่ตั้ง: เมืองนารา(Nara) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

วัดโทไดจิหรือวัดพระใหญ่แห่งเมืองนารา เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนารา มีอายุมากกว่า 1,300 ปี อีกทั้งอาคารวิหารหลักยังเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย โดยที่ภายในก็จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกต่างหาก นอกจากนี้ที่ด้านหน้าประตูทางเข้าวัดจะมีกวางน้อยมารอกินอาหารอีกฝูงใหญ่เลยทีเดียว

ข้อมูลเที่ยววัดโทไดจิ

 

 

38. ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market)

ที่ตั้ง: ตัวเมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)

ตลาดนิชิกิเป็นตลาดที่รวมเอาอาหารหลากหลายประเภท ทั้งของสด และของหมักดองจนได้ชื่อว่าเป็นครัวหลักของเมืองเกียวโต เป็นตลาดที่คนท้องถิ่นจะมาแวะจับจ่ายใช้สอยกัน จึงอาจจะไม่มีร้านค้าเช่นของฝากของที่ระลึกมากนักแต่จะได้บรรยากาศของตลาดญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

ข้อมูลการเที่ยวตลาดนิชิกิ

 

 

39.สวนชินจูกุเงียวเอน(Shinjuku Gyoen)

ที่ตั้ง: เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)

สวนชินจูกุเงียวเอนเป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ที่ของเมืองโตเกียวตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านชินจูกุ มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะมีดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มสวน กลายเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระยอดนิยมของชาวโตเกียว

ข้อมูลเที่ยวสวนชินจูกุเงียวเอน

 

 

40. เกาะร้างฮาชิมะ (Hashima Island, 軍艦島)

ที่ตั้ง: จังหวัด นางาซากิ(Nagasaki), ภูมิภาคคิวชู(Kyushu)

ถึงจะเป็นเกาะร้างแต่ก็มีชื่อเสียงและมีหนังดังๆหลายเรื่องมาถ่ายทำหรือใช้เป็นแรงบันดาลใจในหนัง เช่น 007 Skyfall
(2013) และ หนังผีไทย ฮาชิมะโปรเจค โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ด้วย สร้างขึ้นเพื่อเป็นเหมืองแร่ถ่านหินที่มีคนงานอยู่หลายหมื่นคนจนสร้างเมืองขึ้นมาบนเกาะแต่ถูกทิ้งร้างเอาไว้เมื่อเหมืองปิดตัวลงตั้งแต่ปี 1974

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของเกาะร้างฮาชิมะ ได้ที่นี่

 

ครบแล้วกับ 40 สถานที่ท่องเที่ยวสุดเจ๋งในประเทศญี่ปุ่น หวังว่าบทความนี้จะช่วยเป็นไอเดียให้กับหลายๆคนที่กำลังหาที่เที่ยวใหม่ๆกันอยู่ หรือถ้าใครเคยไปที่ไหนแล้ว อยากเพิ่มเข้าไปในลิสน์นี้ คอมเม้นมาแชร์กันได้เลยนะ

 

 

[Update] 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของมาเก๊า ไปแล้วต้องเก็บให้ครบ | สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่น่าสนใจ – Sonduongpaper

อัพเดตใหม่ 14 ที่เที่ยวน่าไปของมาเก๊า

 

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของมาเก๊าจะมีอยู่หลายแบบ ทั้งแบบโบราณสถาน เช่นโบสถ์ศาสนาคริสต่างๆ ป้อมปราการทางทหาร หมู่บ้านวัฒนธรรม และวัดพุทธแบบจีน รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างใหม่ๆอย่างเช่นคาสิโนที่มีเมืองช้อปปิ้งสไตล์เมืองวินิส ประเทศอิตาลี ลองมาดุสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต 12 แห่งของมาเก๊ากันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ใครกำลังวางแผนไปเที่ยวมาเก๊าสามารถดูเอาไว้เป็นตัวเลือกกันได้เลย

 

>> จองที่พักมาเก๊า ราคาพิเศษ กับ Traveloka <<

 

1. ซากโบสถ์ เซ็นต์พอล St. Paul 

ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล(Ruins of St. Paul’s) เป็นโบสถ์ที่หลงเหลือเพียงซากด้านหน้าของอาคาร ซึ่งทางขึ้นไปจะเป็นบันไดหิน และซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจะอยู่ด้านบนสุด เป็นเหมือนสัญลักษ์ของมาเก๊า
อยู่ที่ใจกลางเมืองมาเก๊า
รถบัสสาย 3, 3X, 4, 6A, 8A, 18A, 19, 26A, 33, N1A

 

2. จตุรัสเซนาโด้ Senado Square

เซนาโด สแควร์(Senado Square) เป็นจตุรัสใจกลางเมืองมาเก๊า รายล้อมไปด้วยตึกรามบ้านช่องและโบสถ์สไตล์ยุโรปซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกส มีร้านค้าเปิดกันอยู่ทั้งสองข้างทาง เป็นทางเดินคดเคี้ยวเลี้ยวไปตามทางที่จะไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ
อยู่ที่ใจกลางเมืองมาเก๊า
รถบัสสาย 3, 3X, 4, 6A, 8A, 18A, 19, 26A, 33, N1A

 

3. ห้างสไตล์อิตาลี ที่เวเนเชี่ยน(The Venetian Shoppes)

ห้างสไตล์เวนิส(The Venetian Macao)เป็นคาสิโนคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่สุดของมาเก๊าอยู่ที่และมีโซนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นอาคารที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วย แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงของเวเนเชี่ยนสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปคือโซนที่เป็นห้าง ซึ่งออกแบบและตกแต่งให้เหมือนกับสไตล์เมืองเวนิสของประเทศอิตาลี ซึ่งสร้างออกมาได้สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
อยู่ที่ย่านไทปา(Taipa)
รถบัสสาย 25, 25x, 26A, 35, MT1, MT2, MT3, และ MT4

 

4. วัดอาม่า(A Ma Temple)

วัดอาม่า(A-Ma Temple) เป็นวัดที่มีอยู่มายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะมีเมืองมาเก๊าเกิดขึ้น จึงทำให้เป็นวัดที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่ง เชื่อกันว่าที่มาของชื่อมาเก๊านั้น มาจากบริเวณวัดอาม่าแห่งนี้นี่เอง ในอดีตจะมีอ่าวที่ชื่อว่า A Ma Goa (อาม่าก๊อก) แปลว่า อ่าวของอาม่า จึงเพี้ยนมาเป็นชื่อ มาเก๊า ในปัจจุบัน
อยู่ติดทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขตเมืองมาเก๊า
รถบัสสาย 1, 2, 5, 6B, 7, 10, 10A, 11, 18, 21A, 26, 28B, 55, MT4, N3

 

5. ป้อมปราการเกีย(Guia Fortress)

ป้อมปราการเกีย(Guia Fortress) เป็นป้อมปราการเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของมาเก๊า ทำให้มองเห็นวิวได้ทั่วทั้งบริเวณเมือง ทะเล ไปจนถึงประเทศจีน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1622 โดยชาวโปรตุเกส ที่ด้านบนยังหลงเหลือโบสถ์เล็กๆ Chapel of Our Lady of Guia ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่ด้วย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย
อยู่ตอนกลางของโซนเมืองมาเก๊า
รถบัสสาย 2, 2A, 6A, 12, 17, 18, 18A, 19, 22, 23, 25, 25X และ 32

 

6. ป้อมปราการมองเต(Monte Fort)

ป้อมปราการมองเต(Monte Fort)ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้กับซากประตูโบสถ์เซนต์พอล สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1616 เพื่อใช้เป็นฐานในการป้องกันโบสถ์เซนต์พอลจากเหล่าโจรสลัด ต่อมาจึงได้ใช้เป็นป้อมปืนใหญ่ของทหาร ฐานของป้อมปืนใหญ่เป็นทรงสี่เหลียม และป้อมปราการก็จะอยู่ประจำแต่ละมุม แต่ตามจุดต่างๆก็จะมีปืนใหญ่ตั้งเอาไว้ให้ชม

See also  การกลายพันธุ์ของโควิด-19 | ไทยแลนด์ New normal | การกลาย

 

7. พิพิธภัณท์มาเก๊า(Macao Museum)

พิพิธภัณท์มาเก๊า(Macao Museum) ตั้งอยู่ที่เดียวกับป้อมปราการปืนใหญ่มองเต แต่เดิมนั้นบริเวณนี้จะเป็นฐานทัพทหารและสำนักงานกรมอุตุวิทยา ต่อมาในปี 1998 ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมเรื่องราวในประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตในแต่ละยุคแต่ละสมัยของมาเก๊าเอาไว้ให้ได้ชมกัน และถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2005

 

8. รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมกลางทะเล(Kun Iam Statue)

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม(Kun Iam Statue)ตั้งอยู่กลางทะเลบริเวณ Outer Harbour ทางใต้ของฝั่งมาเก๊า เป็นรูปปั้นยืนสูง 20 เมตรบนฐานดอกบัวอีก 4 เมตร ยื่นออกไปทางทะเลเป็นระยะทาง 60 เมตร เป็นรูปปั้นทองสำริดมีรูปแบบที่ผสมกันระหว่างจีนและยุโรป จนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของมาเก๊า ซึ่งโดดเด่นมากจนกลายเป็นหนึ่งในสัญญลักษณ์ของมาเก๊า

อยู่ทางตอนใต้ของฝั่งมาเก๊า

มีรถบัสสาย 10A, 17

 

9. Macau Fisherman’s Wharf

มาเก๊า ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ(Macau Fisherman’s Wharf) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่โดยแต่ละโซนก็จะแบ่งออกเป็นธีมต่างๆ ซึ่งถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ คือ โซนของท่าเรือแห่งราชวงศ์ (Dynasty Wharf) บริเวณนี้จะมีอาคารสถาปัตยกรรมของจีนในยุคราชวงศ์ถัง เป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณแบบจีนในช่วงราชวงศ์ถัง, โซนประเทศตะวันออกผสมผสานกับประเทศแถบตะวันตก (East Meets West) พื้นที่บริเวณนี้จะห้อมล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออกอยู่รวมกัน เช่น โคลอสเซียมจำลอง, อาคารสไตล์อียิปโบราณ, ตึกช้อปปิ้งทรงยุโรป, และโซนท่าเรือแห่งตำนาน (Legend Wharf) เป็นพื้นที่ของร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และคาสิโน

ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองมาเก๊า

รถบัสสาย 1A, 3, 3A, 10, 10B, 10X, 28A, 28B, 28BX, 32, AP1, N1A

 

10. หมู่บ้านวัฒนธรรม A Ma และวัดทินหัว(Tin Hau) (A Ma Cultural Village)

หมู่บ้านวัฒนธรรม(A Ma Cultural Village)เป็นส่วนต่อขยายจากวัดอาม่าหรือวัดทินหัว(Tin Hua) คนไทยเรียกว่าเจ้าแม่ทับทิม เดิมซึ่งเป็นวัดเล็กๆอยู่บนเขาจนกลายเป็นคอมเพล็กของวัดสไตล์จีนขนาดใหญ่ด้วยเงินบริจาคทั้งหมด ที่มีรายละเอียดต่างๆที่งดงามมาก ตั้งแต่ เสาหินแกะสลัก ซุ้มประตูหิน รูปปั้นหินอ่อนแกะสลักต่าง ไปจนถึงบันได

อยู่ตอนกลางของย่านโคโลอาน(Coloane)

มีรถบัสสาย 15, 21A, 25, 26, 26A, 50, N3 ผ่านจากนั้นให้ต่อด้วยรถตู้ที่จะพาไปส่งบนเขาฟรี

 

11. หอคอยมาเก๊า(Macau Tower)

หอคอยมาเก๊า(Macau Tower)มีจุดชมวิวที่ความสูง 223 เมตร แบบพาโนรามิค 360 องศา และกิจกรรมท้าความสูงอีกหลายอย่าง นอกจากนี้ก็ยังมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามจนเป็นหนึ่งในสัญญลักษณ์ของมาเก๊าด้วย

ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝั่งมาเก๊า

มีรถบัสสาย 9A, 18, 23, 26, 32, MT4

12. หมู่บ้านโคโลอาน Coloane village

หมู่บ้านโคโลอาน Coloane village หมู่บ้านเล็กๆน่ารักริมทะเล มีพื้นที่ประมาณ 8 ตร.กม. เท่านั้น อยู่ทางตอนใต้สุดของมาเก๊า บ้านเรือนต่างๆเป็นบ้านเก่า มีตรอกซอกซอยเล็กๆเต็มไปหมด บ้านแต่ละหลังก็ยังคงอนุรักษ์อาคารดั้งเดิมเอาไว้ สามารถเดินชมหมู่บ้านเรียบไปกับทางเดินริมทะเลได้ บรรยากาศจะเงียบสงบกว่าที่หมู่บ้านไทปา ระหว่างเส้นทางเดินจะมีโบสถ์และวัดเล็กๆสามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมได้

อยู่ทางตอนใต้ของเกาะไทปา

มีรถบัสสาย 26A, 15, 21A และ 25

 

>> จองที่พักมาเก๊า ราคาพิเศษ กับ Traveloka <<


9 สถานที่เที่ยวในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจ


คลิปนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 9 สถานที่เที่ยวในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจ
ซึ่งจริงๆ แล้วเซี่ยงไฮ้ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายเลย เพียงแต่สถานที่ที่ผมหยิบมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้เป็นที่ที่ผมกับต๋งคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ได้มีโอกาสได้ไปเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกครับ

โดยจากการที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองนี้ 6 วัน 5 คืนเต็มๆ ผมอยากจะบอกทุกคนเหลือเกินว่าเซี่ยงไฮ้เนี่ยเป็นเมืองที่น่าเที่ยวกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลยครับ ใครที่ยังไม่เคยไปมาก่อน ลองดูคลิปนี้จนจบแล้วตัดสินใจดูนะครับว่าจะไปดีหรือเปล่า แต่เชื่อผมเถอะ \”เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ไม่ไปไม่รู้ ดูดีกว่าที่คิด\” ครับ

สามารถติดตามอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ www.amazingcouple.net
หรือสามารถติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมอย่างใกล้ชิดได้ที่ Facebook Fanpage \”ภรรยาหา สามีใช้\”

Special thanks for Music from https://www.bensound.com/royaltyfreemusic

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

9 สถานที่เที่ยวในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจ

พาเที่ยว ‘เฟิ่งหวง’ หนึ่งในเมืองโบราณของจีน ที่รับรองใครได้มาเยือนเป็นต้องหลงรัก


ลีลามีสัปดาห์นี้ (28 เม.ย. 62) เราบินตรงมาที่ เฟิ่งหวง (Fenghuang) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ ณ มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ที่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณเอาไว้ โดยเฉพาะชาวม้ง ชนเผ่าที่ตั้งรกรากอยู่ที่นี่มาหลายร้อยปี เมืองแห่งนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาเปิดประสบการณ์เที่ยวไปพร้อมกันเลย
เฟิ่งหวง เมืองโบราณที่โอบล้อมไปด้วยความทันสมัย โดยมีแม่น้ำถัวเจียงคั่นอยู่กลางเมือง การจะข้ามฝั่งระหว่าง 2 ฝั่ง จึงต้องใช้การข้ามสะพาน บริเวณนี้จึงเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามทีเดียว
บ้านเมืองใน เฟิ่งหวง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ให้บรรยากาศของวิถีชีวิตอันแสนเรียบง่ายและสงบ
ร้านอาหารที่เรามาทานในวันนี้ก็เป็นร้านอาหารของชาวม้ง ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ ‘ของดำ’ โดยแต่ละเมนูของชาวม้งจะเน้นการใช้วัตถุดิบที่มีสีดำ และการต้อนรับที่ดูแปลกตาอย่างการร้องเพลงประสานเสียงและป้อนสุราให้แขกที่มาเยือน
เมนูสีดำของชาวม้งจะมีอะไรบ้าง ว่าแล้วก็มาดูกันเลย! เมนูมีดังนี้…หมูคุโรบุตะรมควัน, ขาหมูพะโล้, หมั่นโถวจิ้มนมข้นหวาน, ไก่ย่าง, เลือดดำนิ่งกับข้าวเหนียว, ไก่ต้มสมุนไพร และซุปผักและกระดูกหมู

ติดตามลีลามี (28 เม.ย. 2562) รายการท่องเที่ยวสุดพรีเมียมเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2lBezc2
หรือทาง Facebook https://www.facebook.com/becteroTV/

พาเที่ยว 'เฟิ่งหวง' หนึ่งในเมืองโบราณของจีน ที่รับรองใครได้มาเยือนเป็นต้องหลงรัก

15 ที่เที่ยวโคราช


วันนี้เราจะมานำเสนอ 15 ที่เที่ยวโคราช หรือ จังหวัดนครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็น Unseen หรือสถานที่ห้ามพลาดของจังหวัดแห่งนี้ให้ทุกท่านได้ฟินกันไปเต็มๆ พร้อมแล้วลุยกันเลย

15 ที่เที่ยวโคราช

ผ่าทฤษฎี “คนไทยมาจากไหน?”


คนไทยมาจากไหน? คนไทยมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ใด? ยังเป็นปัญหาที่มีคำตอบแตกต่างกันไปหลายแนว และวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ 5 ทฤษฎี คนไทยมาจากไหน? ว่าแต่ละทฤษฎีจะมีความเป็นมาและน่าเชื่อถืออย่างไร ก็ขอให้ผู้ฟังพิจารณาตามกันไป จะมีทฤษฎีอะไรบ้าง ไปฟังกันเลยครับ

ข้อมูลอ้างอิง
สายชล สัตยานุรักษ์. การวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ : ประวัติศาสตร์สังคมไทย ฉบับสมบูรณ์. สกว. 2558.
กาญจนี ละอองศรี, พิเศษ เจียรจันทร์พงษ์ “แนวคิดเรื่องถิ่นกำเนิดไทย และการก่อตัวของชุมชน” ในเอกสารการสอน ประวัติศาสตร์ไทย หน่วยที่ 18. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สันต์ ท. โกมนบุตร แปล. จดหมายเหตุลาลูแบร์, ราชอาณาจักรสยาม. กรุงเทพ : ก้าวหน้า. 2510.
และอื่นๆ

ผ่าทฤษฎี “คนไทยมาจากไหน?”

10สถานที่เที่ยวในเชียงขวางที่ชาวต่างชาติสนใจหลายที่สุด,The most popular tourist attractions in XKH


The most popular tourist attractions in Xieng Khouang,Laosສະຖານທີ່ທ່ອງທ່ຽວຍອດນິຍົມຂອງແຂວງຊຽງຂວາງ,ປະເທດລາວสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแขวงเชียงขวาง,ประเทศลาวทุ่งไหหินเชียงขวางแหล่งท่องเที่ยว เมืองพวนเชียงขวางທ່ຽວແຂວງຊຽງຂວາງປະເທດລາວน้องอ้น สาวลาวเหนือທົ່ງໄຫຫີນ1

10สถานที่เที่ยวในเชียงขวางที่ชาวต่างชาติสนใจหลายที่สุด,The most popular tourist attractions in XKH

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่น่าสนใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *