สถานที่สําคัญของโลก: คุณกำลังดูกระทู้
การท่องเที่ยวไปทั่วโลกถือเป็นงานอดิเรกที่น่าสนุกและตื่นเต้น และทุกวันนี้การท่องเที่ยวนั้นเต็มไปด้วยความสะดวกสบายมากขึ้น เราสามารถไปที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ตั้งแต่ป่าร้อนชื้นทางตอนใต้ หรือจะเป็นแผ่นดินน้ำแข็งที่ด้านเหนือสุดของโลกก็ตาม
แต่รู้ไหมว่ายังมีสถานที่ลึกลับบนโลกอีกมาก ที่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายใน ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตามที อาจเป็นเพราะสถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยอันตราย หรือไม่ก็อาจจะกุมความลับระดับชาติบางอย่างเอาไว้ก็เป็นได้
1. ถ้ำลัสโก ประเทศฝรั่งเศส (Lascaux Caves)
ถ้ำลัสโก เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
เชื่อว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์โบราณยุคหิน
บนผนังถ้ำมีงานเขียนเป็นภาพวาดรูปมนุษย์ สัตว์ รูปร่างต่าง ๆ
และการพิมพ์รอยมือ ที่มีอายุอย่างต่ำประมาณ 15,000 ปีก่อนคริสตกาล
ถ้ำลัสโกถูกเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว จนกระทั่งเมื่อปี 1963
ทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าภาพเขียนบนผนังเริ่มจางหาย
ทั้งนี้เป็นเพราะนักท่องเที่ยวมือบอนบางรายนั่นเอง
ทางการจึงสั่งปิดถ้ำแห่งนี้เป็นการถาวร
ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาเหยียบด้านในได้อีก นอกจากบางคนที่ได้รับการยกเว้น
รวมถึงรายการที่มาถ่ายทำสารคดีต่าง ๆ
2. เกาะงูคลั่ง ประเทศบราซิล (Ilha da Queimada Grande)
อิลยาดาเกย์
มาดากรังจี หรือเกาะงูคลั่ง เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่นอกชายฝั่งรัฐเซาเปาลู
ประเทศบราซิล ที่ได้ชื่อว่า เกาะงูคลั่ง
เพราะเป็นเกาะที่มีงูพิษร้ายแรงจำนวนมากอาศัยอยู่ คุณสามารถพบงู 1
ตัวได้ในทุก ๆ พื้นที่ 1 ตารางเมตรบนเกาะ โดยเฉพาะงูพิษชนิดหนึ่งชื่อ
โกลเดนแลนซ์เฮด (golden lancehead)
เป็นงูพิษที่มีความรุนแรงมากกว่างูพิษบนแผ่นดินใหญ่ถึงห้าเท่า
และจัดว่าเป็นงูถิ่นเดียวที่มีถิ่นอาศัยอยู่บนเกาะเท่านั้น ดังนั้น
ทางรัฐบาลบราซิลจึงประกาศให้เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่หวงห้าม
ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเด็ดขาด ยกเว้นแต่นักวิทยาศาสตร์ที่นาน ๆ
ครั้งจะไปเยือนเกาะ เพื่อสำรวจเกี่ยวกับเรื่องชีววิทยา
3. เมานท์ เวเทอร์ สหรัฐอเมริกา (Mount Weather)
สุดยอดฐานที่มั่นลับของกองทัพอเมริกัน
ลึกลงไปใต้ดินนั้นเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
สำหรับให้เจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นายปฏิบัติงานในกองบัญชาการทางยุทธศาสตร์
โดยอาศัยอยู่กินและนอนได้เป็นแรมปีโดยไม่ต้องโผล่มาเหนือพื้นดิน ทั้งนี้
กองบัญชาการดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่ว่า หากเกิดสงคราม
ภัยพิบัติ หรือเหตุฉุกเฉินใด ๆ ขึ้นบนโลก หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่
และข้อมูลสำคัญของประเทศ ก็จะยังคงอยู่ตลอดกาลในกองบัญชาการแห่งนี้
แน่นอนว่าสถานที่อย่างนี้
ไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าไปย่างกรายอย่างเด็ดขาด
4. หอจดหมายเหตุลับของวาติกัน นครวาติกัน (Vatican Secret Archives)
หอจดหมายเหตุแห่งนี้ตั้งอยู่ในห้องใต้ดินของหอสมุดวาติกัน
เป็นศูนย์กลางที่เก็บข้อมูลเอกสารสำคัญ ทั้งแบบเปิดและปกปิดหลายชิ้น
ถึงแม้สถานที่แห่งนี้ จะมีคำว่า “ลับ” อยู่ด้วย
แต่เอกสารที่ถูกเก็บอยู่ภายในนั้นไม่ได้เป็นความลับเสมอไป
เพียงแต่มันถูกเก็บอยู่ในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว
และไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้ามาเปิดอ่านได้เหมือนหนังสือในห้องสมุด
เพราะเกรงว่าเอกสารเก่าแก่อาจถูกทำลายหรือถูกขโมยได้
5. เกาะเซนติเนลเหนือ ประเทศอินเดีย (North Sentinel Island)
เกาะเซนติเนลเหนือ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล มหาสมุทรอินเดีย
มีความสวยงามตามธรรมชาติที่น่าทึ่ง
แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามมิให้ใครก็ตามเข้าใกล้เกาะแห่งนี้
ในระยะ 5 กิโลเมตรจากตัวเกาะ
เพราะมีชนเผ่าหนึ่งบนเกาะที่พร้อมจะคร่าทุกชีวิต
ที่บังอาจย่างกรายเข้ามาใกล้เกาะซึ่งพวกเขาหวงแหน
ทำให้ทางการมีข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่านี้น้อยมาก
แต่คาดว่าน่าจะมีประชากรอยู่ราว 500 คน
6. แอเรีย 51 สหรัฐอเมริกา (Area 51)
แอเรีย 51 เป็นชื่อเรียกฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
ที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐเนวาดา
อันที่จริงก็น่าจะเหมือนกับฐานทัพอากาศทั่วไป
แต่ด้วยความเข้มงวดและลึกลับของมัน
ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้หรือแวะเวียนเยี่ยมชม ทำให้หลายคนตีความไปต่าง ๆ
นานาว่า สถานที่แห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ
โดยเฉพาะเรื่องความลับเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโอ
7. วิหารหีบแห่งพันธสัญญา ประเทศเอธิโอเปีย (The Chapel of the Ark of the Covenant)
วิหารหีบแห่งพันธสัญญา เป็นอาคารหลังเล็ก ๆ ในประเทศเอธิโอเปีย
เล่ากันว่าภายในนั้นเป็นที่เก็บหีบแห่งพันธสัญญา
ที่บรรจุแผ่นศิลาจารึกบัญญัติ 10 ประการ โถใส่มานา
และไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูม
ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวิหารแห่งนี้
ยกเว้นพระรูปหนึ่งที่ได้เข้าไป
และอาศัยอยู่ภายในนั้นตลอดทั้งชีวิตเพื่อปกปักษ์รักษาหีบแห่งพันธสัญญาให้ปลอดภัย ทั้งนี้เคยมีมนุษย์ผู้โชคดีบางรายได้เข้าไปในอาคารเมื่อปี 2011
เพื่อซ่อมแซมหลังคารั่ว
8. เมโทร-2 ประเทศรัสเซีย (Moscow Metro-2)
เมโทร-2 เป็นชื่อเรียกสายรถไฟฟ้าใต้ดินลับในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
ซึ่งทางการรัสเซียปฏิเสธการมีอยู่ของมัน แต่จากข้อมูลอันน้อยนิดพบว่า
เมโทร-2 ถูกสร้างขึ้นในสมัยของสตาลิน
และเชื่อกันว่ามันประกอบด้วยอุโมงค์ลับยิบย่อยมากมายที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารสำคัญของประเทศ
และหลายคนก็แน่ใจว่ามันกุมความลับระดับชาติเอาไว้มากมาย
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเพี้ยน ๆ อีกเพียบ อย่างเช่น
การทดลองทางพันธุวิศวกรรม มีการตัดต่อยีนสัตว์ต่าง ๆ
จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดและนำมาทิ้งไว้ในเมโทร-2 หรือแม้แต่ข่าวลือที่ว่า
มีการนำศพซึ่งถูกแช่แข็งของสตาลินมาเก็บไว้ที่นี่ด้วย
9. ห้องนิรภัยลับของคริสตจักรมอร์มอน สหรัฐอเมริกา (Mormon Church Secret Vault)
คริสตจักรมอร์มอน หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ
ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus
Christ of Latter-day Saints) เป็นกลุ่มศาสนิกชนที่มีประวัติยาวนาน
และด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงมีหนังสือจดหมายเหตุ
รวมถึงม้วนไมโครฟิล์มที่บรรจุข้อมูลมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930
และเพื่อที่จะให้ข้อมูลเหล่านี้คงอยู่ไปตลอดกาล
คริสตจักรมอร์มอนจึงต้องเฟ้นหาสถานที่สำหรับเก็บข้อมูลที่ดีที่สุด
พวกเขาเลือกที่จะสร้างห้องนิรภัยลับในภูเขาหินแกรนิตชื่อ Little Cottonwood
Canyon ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
และไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าใกล้ห้องนิรภัยนี้โดยเด็ดขาด
ว่ากันว่าในปัจจุบัน มีม้วนไมโครฟิล์มที่เก็บข้อมูลมากกว่า 100,000 ชิ้น
และที่เป็นหน้ากระดาษอีกมากกว่า 100,000 แผ่น
10. เกาะซึร์ทเซย์ ประเทศไอซ์แลนด์ (Surtsey)
เป็นเกาะภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล
ที่ใช้เวลาปะทุนานถึงเกือบ 5 ปี
ตอนนี้มันตั้งตระหง่านอยู่ที่กลางมหาสมุทรใกล้กับประเทศไอซ์แลนด์
แต่สหประชาชาติมีมติว่า
ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้โดยเด็ดขาด
ยกเว้นแต่นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยบางรายที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับความก้าวหน้าและวิวัฒนาการทางนิเวศวิทยา โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์
ด้วยความที่ลาวาจากการระเบิดภูเขาไฟนั้นเอง
ทำให้ทัศนียภาพบนเกาะสวยงามแปลกตาอย่างมาก
และในขณะเดียวกันก็เป็นอันตรายสำหรับคนที่จะมาเกาะนี้
เพราะทุกวันนี้ยังมีขี้เถ้าลอยปลิวว่อนอยู่
แต่รู้ไหมว่ายังมีสถานที่ลึกลับบนโลกอีกมาก ที่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายใน ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตามที อาจเป็นเพราะสถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยอันตราย หรือไม่ก็อาจจะกุมความลับระดับชาติบางอย่างเอาไว้ก็เป็นได้ถ้ำลัสโก เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เชื่อว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์โบราณยุคหิน บนผนังถ้ำมีงานเขียนเป็นภาพวาดรูปมนุษย์ สัตว์ รูปร่างต่าง ๆ และการพิมพ์รอยมือ ที่มีอายุอย่างต่ำประมาณ 15,000 ปีก่อนคริสตกาล ถ้ำลัสโกถูกเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว จนกระทั่งเมื่อปี 1963 ทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าภาพเขียนบนผนังเริ่มจางหาย ทั้งนี้เป็นเพราะนักท่องเที่ยวมือบอนบางรายนั่นเอง ทางการจึงสั่งปิดถ้ำแห่งนี้เป็นการถาวร ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาเหยียบด้านในได้อีก นอกจากบางคนที่ได้รับการยกเว้น รวมถึงรายการที่มาถ่ายทำสารคดีต่าง ๆอิลยาดาเกย์ มาดากรังจี หรือเกาะงูคลั่ง เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่นอกชายฝั่งรัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล ที่ได้ชื่อว่า เกาะงูคลั่ง เพราะเป็นเกาะที่มีงูพิษร้ายแรงจำนวนมากอาศัยอยู่ คุณสามารถพบงู 1 ตัวได้ในทุก ๆ พื้นที่ 1 ตารางเมตรบนเกาะ โดยเฉพาะงูพิษชนิดหนึ่งชื่อ โกลเดนแลนซ์เฮด (golden lancehead) เป็นงูพิษที่มีความรุนแรงมากกว่างูพิษบนแผ่นดินใหญ่ถึงห้าเท่า และจัดว่าเป็นงูถิ่นเดียวที่มีถิ่นอาศัยอยู่บนเกาะเท่านั้น ดังนั้น ทางรัฐบาลบราซิลจึงประกาศให้เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่หวงห้าม ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเด็ดขาด ยกเว้นแต่นักวิทยาศาสตร์ที่นาน ๆ ครั้งจะไปเยือนเกาะ เพื่อสำรวจเกี่ยวกับเรื่องชีววิทยาสุดยอดฐานที่มั่นลับของกองทัพอเมริกัน ลึกลงไปใต้ดินนั้นเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สำหรับให้เจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นายปฏิบัติงานในกองบัญชาการทางยุทธศาสตร์ โดยอาศัยอยู่กินและนอนได้เป็นแรมปีโดยไม่ต้องโผล่มาเหนือพื้นดิน ทั้งนี้ กองบัญชาการดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่ว่า หากเกิดสงคราม ภัยพิบัติ หรือเหตุฉุกเฉินใด ๆ ขึ้นบนโลก หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่ และข้อมูลสำคัญของประเทศ ก็จะยังคงอยู่ตลอดกาลในกองบัญชาการแห่งนี้ แน่นอนว่าสถานที่อย่างนี้ ไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าไปย่างกรายอย่างเด็ดขาดหอจดหมายเหตุแห่งนี้ตั้งอยู่ในห้องใต้ดินของหอสมุดวาติกัน เป็นศูนย์กลางที่เก็บข้อมูลเอกสารสำคัญ ทั้งแบบเปิดและปกปิดหลายชิ้น ถึงแม้สถานที่แห่งนี้ จะมีคำว่า “ลับ” อยู่ด้วย แต่เอกสารที่ถูกเก็บอยู่ภายในนั้นไม่ได้เป็นความลับเสมอไป เพียงแต่มันถูกเก็บอยู่ในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว และไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้ามาเปิดอ่านได้เหมือนหนังสือในห้องสมุด เพราะเกรงว่าเอกสารเก่าแก่อาจถูกทำลายหรือถูกขโมยได้เกาะเซนติเนลเหนือ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล มหาสมุทรอินเดีย มีความสวยงามตามธรรมชาติที่น่าทึ่ง แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามมิให้ใครก็ตามเข้าใกล้เกาะแห่งนี้ ในระยะ 5 กิโลเมตรจากตัวเกาะ เพราะมีชนเผ่าหนึ่งบนเกาะที่พร้อมจะคร่าทุกชีวิต ที่บังอาจย่างกรายเข้ามาใกล้เกาะซึ่งพวกเขาหวงแหน ทำให้ทางการมีข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่านี้น้อยมาก แต่คาดว่าน่าจะมีประชากรอยู่ราว 500 คนแอเรีย 51 เป็นชื่อเรียกฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐเนวาดา อันที่จริงก็น่าจะเหมือนกับฐานทัพอากาศทั่วไป แต่ด้วยความเข้มงวดและลึกลับของมัน ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้หรือแวะเวียนเยี่ยมชม ทำให้หลายคนตีความไปต่าง ๆ นานาว่า สถานที่แห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องความลับเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโอวิหารหีบแห่งพันธสัญญา เป็นอาคารหลังเล็ก ๆ ในประเทศเอธิโอเปีย เล่ากันว่าภายในนั้นเป็นที่เก็บหีบแห่งพันธสัญญา ที่บรรจุแผ่นศิลาจารึกบัญญัติ 10 ประการ โถใส่มานา และไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูม ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวิหารแห่งนี้ ยกเว้นพระรูปหนึ่งที่ได้เข้าไป และอาศัยอยู่ภายในนั้นตลอดทั้งชีวิตเพื่อปกปักษ์รักษาหีบแห่งพันธสัญญาให้ปลอดภัย ทั้งนี้เคยมีมนุษย์ผู้โชคดีบางรายได้เข้าไปในอาคารเมื่อปี 2011 เพื่อซ่อมแซมหลังคารั่วเมโทร-2 เป็นชื่อเรียกสายรถไฟฟ้าใต้ดินลับในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งทางการรัสเซียปฏิเสธการมีอยู่ของมัน แต่จากข้อมูลอันน้อยนิดพบว่า เมโทร-2 ถูกสร้างขึ้นในสมัยของสตาลิน และเชื่อกันว่ามันประกอบด้วยอุโมงค์ลับยิบย่อยมากมายที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารสำคัญของประเทศ และหลายคนก็แน่ใจว่ามันกุมความลับระดับชาติเอาไว้มากมาย นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเพี้ยน ๆ อีกเพียบ อย่างเช่น การทดลองทางพันธุวิศวกรรม มีการตัดต่อยีนสัตว์ต่าง ๆ จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดและนำมาทิ้งไว้ในเมโทร-2 หรือแม้แต่ข่าวลือที่ว่า มีการนำศพซึ่งถูกแช่แข็งของสตาลินมาเก็บไว้ที่นี่ด้วยคริสตจักรมอร์มอน หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) เป็นกลุ่มศาสนิกชนที่มีประวัติยาวนาน และด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงมีหนังสือจดหมายเหตุ รวมถึงม้วนไมโครฟิล์มที่บรรจุข้อมูลมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 และเพื่อที่จะให้ข้อมูลเหล่านี้คงอยู่ไปตลอดกาล คริสตจักรมอร์มอนจึงต้องเฟ้นหาสถานที่สำหรับเก็บข้อมูลที่ดีที่สุด พวกเขาเลือกที่จะสร้างห้องนิรภัยลับในภูเขาหินแกรนิตชื่อ Little Cottonwood Canyon ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา และไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าใกล้ห้องนิรภัยนี้โดยเด็ดขาด ว่ากันว่าในปัจจุบัน มีม้วนไมโครฟิล์มที่เก็บข้อมูลมากกว่า 100,000 ชิ้น และที่เป็นหน้ากระดาษอีกมากกว่า 100,000 แผ่นเป็นเกาะภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล ที่ใช้เวลาปะทุนานถึงเกือบ 5 ปี ตอนนี้มันตั้งตระหง่านอยู่ที่กลางมหาสมุทรใกล้กับประเทศไอซ์แลนด์ แต่สหประชาชาติมีมติว่า ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้โดยเด็ดขาด ยกเว้นแต่นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยบางรายที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับความก้าวหน้าและวิวัฒนาการทางนิเวศวิทยา โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ด้วยความที่ลาวาจากการระเบิดภูเขาไฟนั้นเอง ทำให้ทัศนียภาพบนเกาะสวยงามแปลกตาอย่างมาก และในขณะเดียวกันก็เป็นอันตรายสำหรับคนที่จะมาเกาะนี้ เพราะทุกวันนี้ยังมีขี้เถ้าลอยปลิวว่อนอยู่
[Update] 10 สถานที่เที่ยวทั่วโลกสุดมหัศจรรย์ | สถานที่สําคัญของโลก – Sonduongpaper
สวรรค์ของนักถ่ายภาพที่ธรรมชาติสร้างให้แห่งนี้ ชื่อว่า “The Wave” ตั้งอยู่กลางทะเลทรายบริเวณพรมแดนระหว่างรัฐ Utah และ Arizona เห็นสีสันสะดุดตาแบบนี้ แท้ที่จริงแล้ว The Wave คือเขาหินทรายที่ถูกแรงลมกัดกร่อน เหมือนเกลียวคลื่นสีเหลืองส้มสุดร้อนแรง
รูปร่างแปลกตาของเนินเขาหินทราย และสีสันจัดจ้านตัดกับท้องฟ้าใส ๆ นี่เองทำให้นักท่องเที่ยวต้องหลงเสน่ห์ The Wave แต่การจะได้เข้าไปยลโฉมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทางการจะออกใบอนุญาตให้เข้าชม (Hiking Permit) เพียง 20 คนต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ การเดินทางเข้าไปชมโฉมหินเกลียวคลื่น ต้องเดินเท้าผ่านทะเลทรายซึ่งมีระยะทางไปกลับกว่า 10 กม. ถึงอย่างนั้น นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่รักการถ่ายภาพก็ใฝ่ฝันจะมาที่นี่สักครั้งในชีวิต
The Wave เหมาะมากที่จะไปช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นมิถุนายน และช่วงปลายกันยายนถึงต้นพฤศจิกายน เพราะเป็นฤดูร้อนมีแสงเจิดจ้าจากพระอาทิตย์เป็นตัวช่วย เหมาะกับการได้ภาพสวย ๆ ลองจินตนาการถึงเกลียวคลื่นสีจัดจ้านตัดกับท้องฟ้าสวยสดของฤดูร้อน ที่นี่คงเป็นหนึ่งในที่เที่ยวรอบโลกที่ทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม เริ่มอยากจัดกระเป๋า สะพายกล้อง ออกเดินทางฝ่าทะเลทรายมาที่นี่กันแล้วใช่ไหม งั้นลุยเลย
การขอใบอนุญาตเข้าชม (The Wave Hiking Permit)หน่วยงานที่ออก Permit คือ Bureau of Land Manage (BLM) โดยการเข้าชม The Wave ถูกจำกัดไว้ที่ 20 คนต่อวัน Permit จะออกให้ผ่านทาง 2 ระบบ ดังนี้
- Lottery System: Permit สำหรับ 10 คนจะถูกออกให้ล่วงหน้า 3 เดือนจากวันเดินทาง โดยผู้สนใจสามารถสมัครได้ ที่นี่
- Walk-In: Permit ที่เหลือสำหรับวันรุ่งขึ้นอีก 10 คน จะถูกกันไว้ให้คนที่มายื่นใบสมัครที่ BLM office ที่เมือง Kanab (745 E. Highway 89, Kanab, UT, 84741) โดยผู้สมัครต้องมายื่นใบสมัครก่อน 9 โมงเช้า ในบางครั้งอาจเป็นไปได้ที่มีคนสละสิทธิ์ (ตรวจสอบ) แต่คาดว่าโอกาสจะเกิดยากมากค่ะ
ท่องไปใน “อาร์เมเนีย” ประเทศศาสนาคริสต์แห่งแรกของโลก
สาธารณรัฐอาร์มีเนีย หรือประเทศอาร์เมเนีย ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และเป็นประเทศแรกในโลก ที่มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ อาร์เมเนีย จึงมีสถานที่สำคัญที่เชื่อมโยงกับศาสนาคริสต์ เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งของโลกที่น่าไปเยือน AbdulThaiTube จะพาคุณไปรู้จัก อาร์เมเนียให้มากขึ้น ผ่าน 10 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอาร์เมเนียครับ
สารบัญ
00:00 ท่องไปใน “อาร์เมเนีย” ประเทศศาสนาคริสต์แห่งแรกของโลก
00:38 1.กรุงเยเรวาน (YEREVAN)
02:24 2.มหาวิหารเอจเมียอัตซิน (Etchmiadzin Cathedral)
03:53 3.วิหารเกกฮาร์ด (Geghard Monastery)
05:20 4.วิหารการ์นี (Garni Temple)
06:30 5.อารามซานาฮิน (Sanahin Monastery)
07:22 6.อารามฮัคพัท (Haghpat Monastery)
07:59 7.หมู่อารามโนราแวงค์ (Noravank Monastery Complex)
09:35 8.ทะเลสาบเซวาน (Lake of Sevan)
10:51 9.หมู่บ้านคันซอเรสค์ (Khndzoresk Village)
11:33 10.อารามทาเตฟ (Tatev Monastery)
สถานที่ท่องเที่ยว อาร์เมเนีย ประวัติศาสตร์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สาธารณรัฐอาร์มีเนีย กรุงเยเรวาน YEREVAN มหาวิหารเอจเมียอัตซิน วิหารเกกฮาร์ด มรดกโลก วิหารการ์นี Kotayk อารามซานาฮิน ยูเนสโก อารามฮัคพัท หมู่อารามโนราแวงค์ ทะเลสาบเซวาน หมู่บ้านคันซอเรสค์ อารามทาเตฟ
✪ กดติดตามช่อง
https://goo.gl/ogRJJL
✪ สมัครสมาชิก Members Fan Club Abdul
https://www.youtube.com/channel/UCgbFlQTcX5a37uUMv2EZl7A/join
✪ ติดต่อโฆษณา หรือ Sponsor ช่อง ได้ทาง
https://www.facebook.com/abdulthaitube
✪ จ้างอับดุลย์พากษ์เสียงได้นะครับ
https://www.facebook.com/abdulthaitube/posts/1769821226457306
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
ห้าศาสนาสำคัญของโลก เข้าใจได้ใน 10 นาที – John Bellaimey
รับชมบทเรียนเต็มๆ: http://ed.ted.com/lessons/thefivemajorworldreligionsjohnbellaimey
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะพยายามหาคำตอบให้คำถามจำพวก \”เรามาจากไหน\” และ \”ฉันจะใช้ชีวิตให้มีความหมายได้อย่างไร\” คำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่เช่นนี้เป็นแกนของศาสนาสำคัญของโลกห้าศาสนา แต่ทั้งห้าศาสนาไม่ได้สัมพันธ์กันเพียงแค่ความศรัทธาเท่านั้น จอห์น เบลไลมีย์อธิบายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวพันกันของศาสนาฮินดู, ศาสนายูดาห์, ศาสนาพุทธ, ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม
สอนโดย John Bellaimey, แอนนิเมชั่นโดย TEDEd.
สารคดี สำรวจโลก ตอน ความลับประเทศจีน
ประเทศจีนเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดและเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ความเชื่อที่ทำให้ผู้หญิงตกอยู่ภายใต้ความกดดันสูงยังคงอยู่ เจาะลึกถึงบทบาท หน้าที่ และความคิดของสตรีชาวจีนในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไปพร้อมกัน ใน สารคดี สำรวจโลก ตอน ความลับประเทศจีน
Good TV ดูผ่านดาวเทียม ไม่ยุ่งยาก จานทึบ KU Band เปลี่ยนกล่อง ดูได้ทันที ดูฟรี ไม่มีรายเดือน
💻 ดูสารคดี ดีที่สุด ชัดที่สุด ที่ Good TV http://tv.co.th/
☎️ Good TV โทร 020263399
📌สั่งซื้อกล่อง Good TV ได้ง่ายๆ 📌
Line Good TV👉 https://line.me/R/ti/p/%40goodtv
10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จากทั่วโลก ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ~ LUPAS
บนโลกใบนี้มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่มากมาย ซึ่งแต่ละทีก็จะมีความพิเศษเฉพาะตัว
และในวันนี้ครับ เราจะมาคุณมาพบกับ 10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จากทั่วโลก ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ~ LUPAS
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 10 : Basilica of San Vitale (มหาวิหารซานวิตาเล่)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 9 : Golden Temple (วิหารทอง) หรือ Harmandir Sahib
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 8 : Saint Peter’s Basilica (มหาวิหารนักบุญเปโตร)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 7 : Western Wall (กำแพงประจิม)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 6 : Ise Grand Shrine (ศาลเจ้าอิเสะ)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 5 : Kashi Vishwanath Temple (วัดกาสีวิศวนาถ)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 4 : Great Mosque of Mecca (มัสยิดอัลฮะรอม)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 3 : Church of the Holy Sepulchre (โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 2 : The Emerald Buddha Temple (วัดพระแก้ว
8 สถานที่สวยงามดั่งเทพนิยาย ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงบนโลก
____________________________________________________
____________________________________________________
แชลแนลสำหรับคนรักอนิเมะ : https://goo.gl/iK3Sz6
____________________________________________________
____________________________________________________
พูดคุยกันได้ที่ Facebook : https://goo.gl/ebVbXt
____________________________________________________
____________________________________________________
8 สถานที่สวยงามดั่งเทพนิยาย ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงบนโลก
____________________________________________________
____________________________________________________
1.เกาะโซโคตร้า (Socotra Island)
2.The Door to Hell ประตูสู่นรกแห่งเติร์กเมนิสถาน
3.Hobbiton หมู่บ้านฮอบบิตัน ที่นิวซีแลนด์
4.Cano Crystales แม่น้ำคาโนคริสตอล แม่น้ำที่สวยงามที่สุดในโลก – โคลัมเบีย
5.Igloo Village : ฟินแลนด์ หมู่บ้านอิคลู สุดยอดที่พักชมแสงออโรร่า ณ ขั้วโลกเหนือ
6.Neuschwanstein ปราสาทซินเดอเรลล่า : เยอรมัน
7. The Crooked Forrest : โปแลนด์ ป่าสนประหลาดแห่งโปแลนด์
8 .Majlis al Jinn, the Cave of Wonders : ถ้ำอาละดิน แห่งโอมาน
____________________________________________________
____________________________________________________
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : https://th.wikipedia.org / https://mymint888.wordpress.com
/ http://travel.thaiza.com/TheDoortoHell / http://travel.kapook.com/view81615.html
/ https://sites.google.com/site/pannigar44759/canocrystales /
https://nongplarpapern.wordpress.com/name6neuschwanstein /
http://banscience.blogspot.com/2014/04/majlisaljinn.html
____________________________________________________
____________________________________________________
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ สถานที่สําคัญของโลก