อาณาจักร พุกาม: คุณกำลังดูกระทู้
ปราสาทพนมรุ้ง ที่เราไม่เคยรู้ I ประวัติศาสตร์นอกตำรา EP. 107
เทวสถานที่ผู้คนมักไม่รู้ว่า ทิพย์วิมานอันเป็นที่สถิตย์ขององค์ศิวะเทพนี้ ถูกสถาปนาขึ้นท่ามกลางบริบท และความเป็นมาอย่างไร หาคำตอบได้ในประวัติศาสตร์นอกตำรา
ขอบพระคุณข้อมูล และภาพประกอบจากหนังสือ “ปราสาทพนมรุ้ง” กรมศิลปากร 2543
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
อาณาจักรพุกาม
ประวัติศาสตร์ \”ชาวพยู\” ชนชาติและอาณาจักรโบราณของพม่า
ในช่วงศตวรรษที่ 6 ขณะที่ชาวมอญกำลังสร้างเมืองของตนอยู่ทางตอนใต้ของพม่านั้น ทางตอนกลางของพม่า ก็ได้ปรากฏกลุ่มชนกลุ่มใหม่ ที่ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและนครรัฐ พวกเขาคือ ชาวพยู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษสำคัญของชาวพม่า ความเจริญของชนชาติพยูที่มีมาตั้งแต่แต่นาน ก่อนที่จะเป็นพม่า/พุกามในสมัยต่อมา และต่อมาก็เสื่อมสลายไปเหลือแต่เพียงร่องรอยของอารยธรรม ให้คนรุ่นหลังได้เข้าไปสัมผัสและศึกษาต่อไป วันนี้เราจึงของนำทุกท่านไปทำความรู้จักกับชาวปยูกันครับ
ข้อมูลอ้างอิง
กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์. (2550). พระราชพงศาวดารพม่า. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ศรีปัญญา.
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. (2544). พม่า ประวัติศาสตร์และการเมือง. กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำ ราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
หม่องทินอ่อง. (2556). ประวัติศาสตร์พม่า. แปลจาก A History of Burma. โดย เพ็ชรี สุมิตร. กรุงเทพ : มูลนิธิโครงการตำ ราสังคมศาสตร์และ มนุษยศาสตร์.
ดี. จี. อี. ฮอลล์. เขียน แปลโดย วรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และคณะ. ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เล่ม 1. กรุงเทพ:มูลนิธิโครงการตำราฯ. 2526.
จอห์น เอฟ เคดี้ เขียน, ภรณี กาญจนัษฐิติ และ ชื่นจิตต์ อำไพพรรณ แปล. ไทย พม่า ลาว และกัมพูชา. กรุงเทพ:โครงการตำราฯ. 2520.
นพปฎล ธารวานิช. บทความ “พยูแหล่งมรดกโลกที่น่าหลงใหลของเมียนมา”
สุภัทรดิศ ดิศกุล. ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ถึง พ.ศ. 2000. กรุงเทพฯ: สามลัดดา. 2549
พงศาวดารมอญพม่า คัดจากฉบับพิมพ์ครั้งแรกในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๗
เมืองโบราณอาณาจักรพยู มรดกโลกแห่งแรกของพม่า (ออนไลน์). แหล่งที่มา https://travel.mthai.com/worldtravel/87302.html
ศาสนานี้ไม่มีศาสดา มีแต่ความเลวอย่างที่สุดต่อมนุษย์
กษัตริย์ =คือกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์รวมถึงผู้ที่มีเชื้อกษัตริย์ทั้งหลายในอดีตของอินเดีย พราม = คือนักบวช แภทต์ = คือคนที่มีฐานะ และชาติตระกูลคนมีความรู้ คนมีการศึกษาคนรวย(ผู้ดีเก่า) ศูทต์ = คือชาวไร่ชาวนา พ่อค้าแม่ค้า และนักการค้า ทั้งหลาย พนง.ลูกจ้าง คนรับจ้าง จนถึง กัมกรแบกหาม… จันฑาน = คือคนร่อนเร่ วนิพกเนจร ขอทานนักโทษ โจรผู้ร้ายคนนอกกฏหมายโสเภณีหญิงกลางคืน…นี้คือ5วรรณะที่แบ่งแยกของศาสนาพรามหรือเกือบทั้งประเทศ ในอินเดียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังแบ่งแยกกันอยู่นะครับ โดยเฉพาะไครถือพุทธในอินเดียมักถูกกล่าวหาว่าป็นจันฑานมาก่อน เพราะศาสนาพุทธไม่แบ่งแยกวรรณะคนบ่างส่วนในอินเดียที่ถูกเหยีอดจึงเข้าพึ่งพระะุทธศาสนา ฉนั้นคนอินเดียที่ถือพุทธจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นจันฑานมาก่อน คนที่ถือพุทธในอินเดียจึงไม่แสดงตนว่าเป็นพุทธ ผมเคยอ่านและดูในคริป คริปหนึ่งที่กล่าวถึงเรื่องนี้ใด้อย่างน่าเชื่อถือมากๆ ซึ่งไม่เหมือนเมืองไทยนะครับทุกคนเท่าเทียมกันหมดทุกศาสนาโดยเฉพาะไม่ว่าจน รึรวยตายไปก็เผาหมด….แค่นั่นละชีวิต
แสดงน้อยลง
ขุนนางมีวรรณะตากหากคือวรรณขุนนางที่มีเชื้อสายขุนนางเก่าแก่สืบทอดกันมาแต่ครั้งบรรพชนที่เรียกว่าตระกูลขุนนางไงครับ และแบ่งออกอีกคือขุนนางเชื้อเจ้า ส่วนมากคนสมัยก่อน จะคิดว่าขุนนางนั้นคือวรรณะกษัตริย์ทั้งสิ้น…ซึ้งกลุ่มขุนนางนี้ข้อนี้พระพุทธองค์ไม่ใด้กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกซะด้วยซิ.คนสมัยก่อนจึงพยายามส่งลูกหลานให้ร่ำเรียนมีวิชาความรู้ต่างๆตามยุคสมัยเพื่อจะใด้เข้ารับราชการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลแห่งองค์กษัตริย์เจ้าไงละครับเพราะมีความเชื่อผิดๆมาตลอดว่าข้าราชการนั้นเป็นเจ้าคนนายคน ที่จริงไม่ใช่ ข้าราชการทหารตำรวจบันดาชนชั้นปกครองขุนน้ำขุนนางคือผู้รับใช้ประชนคือผู้เสียสละตนทำงานแทนองค์กษัตร…เพื่อให้เข้าถึงประชาชน
ถ้าคนวรรณะจัณฑาลมีโอกาสได้มาสัมผัสประเทศที่เขาไม่แบ่งวรรณะ เช่น ประเทศไทยของเรา พวกเขาคงไม่อยากกลับไปอยู่ประเทศของตัวเองอีกแน่ๆ เป็นเราคงย้ายไปอยู่ประเทศอื่นไปเลย วรรณะไม่มีในโลก อุปโลกน์กันขึ้นมาเพื่อแยกคนรวยออกจากคนจน มีแค่ในประเทศอินเดียกับปากีสถานสองประเทศแค่นั้นละมั๊งที่ยังมีระบอบนี้
มีเพื่อนเป็นอิสลามที่เคร่งม้ากๆๆๆๆเคยถามเค้าว่าที่ฆ่ากันนี่มีด้วยเรอะคำสอน ..เค้าตอบว่าพวกนั้นมันบิดเบือนคำสอนโว้ย..ไม่มีหรอกบอกให้ฆ่าใคร..มีแต่สมัยโบราณมีการสู้รบ..อยู่ดีๆมันจะเอามีดมาฆ่าฟันเราจะอยู่นิ่งป่าวว่ะ..เค้าให้สู้..ลุย..เอออันนั้นคือป้องกันตัวเองโว้ย..ปัจจุบันไม่มีสงครามเหมือนโบราณ..ก็จะไปฆ่ากันทำไมว่ะ..ศาสดาเค้าไม่ได้สอนแบบนั่น..ไอ้ที่ลุยฆ่ากันปัจจุบันแม่งมั่วบิดคำสอน..ข้อมูลที่กล่าวมาข้างบนได้รับทราบจากเพื่อนๆที่ร่วมอบรมของหน่วยงานราชการด้วยกัน..ป๋าๆเฮียๆอยู่วันนั้นมีหลายคนจาก ปัตตานี ยะลา สตูล..ศาสนาอิสลามเค้าก็สอนคนของเค้าดี..เพื่อนทุกคนที่เป็นอิสลาม..ไม่เห็นใครไม่ดีสักคน..น่ารักม้วกกกก..ทุกคนอีกต่างหาก…ข้อมูลจากเพื่อนกลุ่มที่นับถืออิสลามค้าบ..แต่ส่วนตัวเราพุทธนะ..ก็นั่งกินข้าวร่วมแต่แยกช้อนจานอาหาร..แต่คุยเรียนอบรมโต๊ะกลุ่มเดียวกัน
เปิดตำนานผู้สร้างและผู้สาปอาณาจักรขอม
เปิดตำนานผู้สร้างและผู้สาปอาณาจักรขอม
ต้นกำเนิดเมืองขอม
ต้นกำเนิดอารยธรรมขอม
อาณาจักรฟูนัน เป็น อาณาจักรเก่าแก่ของขอมโบราณที่สร้างขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๖ คำว่า “ฟูนัน” เพี้ยนมาจากคำว่า พนม หมายถึงภูเขา เนื่องจากอาณาจักรขอมที่สร้างขึ้นทางตอนใต้ของแหลมอินโดจีนมักตั้งอยู่บน ภูเขา เป็นการสร้างเมืองขึ้นตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูลัทธิไศวะนิกาย และไวณพนิกายที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย จึงสร้างเมืองบนไว้ภูเขาวิหารจำลอง (กษัตริย์ขอมเรียกพระองค์เองว่ากูรุงพนม ซึ่งมีความหมายว่า ราชาแห่งขุนเขา)
ใน พุทธศตวรรษที่ ๑๐ นั้น พราหมณ์โกญธัญญะจากอินเดียได้เดินทางมาครองอาณาจักรขอมแห่งนี้ ได้สร้างแบบแผนของราชสำนักตามอย่างอินเดีย ซึ่งมีตำนานเล่าถึงราชวงศ์ขอมไว้ว่า ราชวงศ์ขอมนั้นเกิดจากพราหมณ์คนหนึ่งสมสู่กับนางนาค ซึ่งเป็นพระธิดาของพญานาค ที่ถือว่าเป็นบรรพบุรุษของชนชาติขอม ราชวงศ์นี้ได้มีกษัตริย์ครองอาณาจักรฟูนันต่อมาจนถึงพ.ศ.๑๑๐๐ มีพระนามกษัตริย์ที่ปรากฏชื่อคือพระเจ้าโกณฑิณยะชัยวรมัน และพระเจ้ารุทรวรมัน ศิลปขอมที่เกิดขึ้นในยุคนี้เรียก ศิลปขอมแบบพนมดา สร้างระหว่าง พ.ศ.๑๑๐๐๑๑๕๐ เมือง หลวงของอาณาจักรฟูนันนั้น เรียก นอกอร กกทะโหลก ซึ่งหมายถึง เมืองพระนครที่ตั้งอยู่บนขุนเขาและต้นไม้สูงนั่นเอง และได้รับอิทธิพลมีความเชื่อในเรื่อง พญานาค
อาณาจักรขอม พญานาค ผู้สร้างและผู้สาปอาณาจักรขอม
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ อาณาจักร พุกาม