[Update] ที่เที่ยวโซล : 10 ที่เที่ยวในโซลเกาหลีใต้ | ที่เที่ยวในเกาหลี – Sonduongpaper

ใครที่กำลังไปโซล เกาหลีใต้ แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหน เรามีที่เที่ยวแนะนำในโซล เกาหลีใต้มาให้บอกกัน

หมู่บ้านบุกชอนฮานก (Bukchon Hanok Village)

หมู่บ้านเกาหลีโบราณอันโด่งดังในประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ระหว่าง พระราชวังเคียงบกกุง พระราชวังชางด๊อกกุง และอารามหลวงจองเมียว

หมู่บ้านประกอบด้วยตรอกซอกซอยอันเป็นที่ตั้งของบ้านแบบดั้งเดิมกว่าร้อยหลัง และเป็นที่เก็บรักษาสภาพแวดล้อมของเมืองไว้ เพื่อเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอนที่มีอายุกว่า 600 ปี

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบของหมู่บ้านได้แก่ Bukchon Traditional Culture Center, Seoul Museum of Chicken Art, บรรดาร้านค้ามากมายได้ ร้านอาหาร, ร้านชา เป็นต้น เพื่อเป็นการเรียนรู้และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี

ตั้งอยู่ที่  Seoul-si Jongno-gu Gahoe-dong, Jae-dong, Samcheong-dong, Gye-dong, Wonseo-dong

เว็บไซต์: bukchon.seoul.go.kr

การเดินทาง
สถานีรถไฟใต้ดิน สาย 3 ลงที่ Anguk Station เดินออกทางออกที่ 2 เดินตรงไปอีก 300 เมตร เลี้ยวเข้าไปในซอย 11 Gahoe-dong หรือ 31 Gahoe-dong

ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)

การตกแต่งตัวอาคาร รวมไปถึงสินค้าที่ขายในย่านนี้ ยังคงศิลปวัฒนธรรมแบบเกาหลีโบราณ เป็นแหล่งขายของเก่าขึ้นชื่อของเมือง เป็นถนนแอนติค (Antique)

การเดินเล่นไปตามถนนอินซาดงในระยะทาง 700 เมตรแห่งนี้ ทำให้เราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม, งานหัตถกรรม และงานศิลป์ต่างๆ และยังมีความสวยงามของการแต่งร้านค้าต่างๆ ที่มีการออกแบบตกแต่งได้อย่างสวยงามในสไตล์สมัยใหม่แปลกตา ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับวัฒนธรรมดั้งเดิม

ตั้งอยู่ที่  Seoul-si Jongno-gu Insa-dong

เว็บไซต์: www.insainfo.or.kr

การเดินทาง

รถไฟใต้ดิน สาย 3 ไปที่ Anguk Station เดินไปทางออกที่ 6 เดินตรงไป 100 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย

รถไฟใต้ดิน สาย 1 ไปที่ Jonggak Station เดินไปออกที่ทางออกที่ 3 เดินตรงไป 300 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นเดินตรงไปอีก 100 เมตร ก็จะเข้าสู่ Insa-dong alleyway

พระราชวังเคียงบกคุง (Gyeongbokgung Palace)

เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในสมัยโบราณมีอายุกว่า 600 ปี เป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเกาหลี ในเขตพระราชวังยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน และในบริเวณเดียวกันก็เป็นที่ตั้งของทำเนียบและบ้านพักของประธานาธิบดีเกาหลี

และยังถือว่าเป็นพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุด นอกจากการเดินเยี่ยมชมประติมากรรมร่วมสมัยแล้ว เรายังสามารถชมพิธีการเปลี่ยนเวรราชองค์รักษ์อีกด้วย พิธีนี้เป็นพิธีเปลี่ยนเวรของราชองค์รักษ์ในราชวงศ์โชซอน โดยจะจัดขึ้นทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในเวลา 11.00น. 14.00น. และ 15.30น. ที่ประตูควางฮวามุน ประตูแทฮันมุน และประตูดนฮวามุน

ตั้งอยู่ที่ Seoul-si Jongno-gu Sejong-ro 1-1

Homepage Gyeongbokgung Palace / Gwanghwamun Square

เวลาทำการ  ปิดทำการทุกวันอังคาร

มีนาคม-ตุลาคม 9:00–18:00 (โปรดเข้าชมก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง)

พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ 9:00–17:00 (โปรดเข้าชมก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง)

ค่าเข้าชม

รายบุคคล อายุ 19 ขึ้นไป 3,000 วอน / อายุ 7-18 ปี 1,500 วอน

เข้าชมเป็นหมู่คณะ อายุ 19 ขึ้นไป 2,400 วอน / อายุ 7-18 ปี 1,200 วอน
– เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี
– เข้าชมเป็นหมู่คณะ อายุ 19 ขึ้นไป ต้องไม่ต่ำกว่า 20 คน / อายุ 7-18 ขึ้นไป ต้องไม่ต่ำกว่า 10 คน

การเดินทาง

ใช้รถไฟใต้ดินสายที่ 3 มาลงสถานี Gyeongbokgung และออกทางออกที่ 5

ใช้รถไฟใต้ดินสายที่ 5 มาลงสถานี Ganghwamun และออกทางออกที่ 1 เดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร

ตลาดนัมเดมุน (Namdaemun Market)

ถือเป็นตลาดดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี และเป็นตลาดศูนย์กลางการค้าส่ง ที่มีสินค้าหลากหลายในราคาที่ไม่แพง ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องใช้ภายในบ้าน อาหาร เครื่องแก้ว เครื่องใช้ เครื่องประดับ ของขวัญ เครื่องกีฬา กระเป๋า เสื้อผ้า เป็นต้น

ตั้งอยู่ที่  Seoul-si Jung-gu Namchang-dong 49

เว็บไซต์: www.ndm.me 

เวลาเปิดทำการ 11:00–3:00 ปิดทำการทุกวันอาทิตย์

การเดินทาง

รถไฟใต้ดิน สาย 4 ลงที่ Hoehyeon Station เดินออกทางออกที่ 5

หอคอยกรุงโซล (N’ Seoul Tower)

เป็นจุดชมวิวหลัก และเป็น 1 ใน 18 หอคอยสูงที่สุดของโลก กิจกรรมยอดนิยมจนเสมือนจะเป็นประเพณีของคู่รัก ที่มาเยือนหอคอยแห่งนี้ คือ การคล้องกุญแจแห่งรัก

โดยแยกเป็น 3 โซน ได้แก่ Tower, Plaza และ Lobby เป็นจุดที่สามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของกรุงโซลยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมี Teddy Bear Museum, หอดูดาว, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งโลก จัดแสดงวัตถุโบราณมากกว่า 20,000 ชิ้นจาก 150 ประเทศ, สวนสนุก, ภัตตาหาร และโรงภาพยนตร์ 3 มิติ

ตั้งอยู่ที่ Seoul-si Yongsan-gu Yongsandong 2-ga San 1-3

Homepage nseoultower.co.kr

เวลาทำการ เปิดทุกวัน

อาทิตย์-พฤหัสบดี หอดูดาว 10:00–23:00/ ภัตตาหาร 11:00–23:00/ Teddy Bear Museum 10:00–22:00

ศุกร์-เสาร์ หอดูดาว 10:00–24:00/ ภัตตาหาร 11:00–24:00/ Teddy Bear Museum 10:00–18:00

ค่าเข้าชม

หอดูดาว อายุมากกว่า 18 ปี 9,000 วอน/ อายุ 13-17 ปี 7,000 วอน/ อายุต่ำกว่า 12 ปี 5,000 วอน

Teddy bear Museum อายุมากกว่า 18 ปี 8,000 วอน/ อายุ 13-17 ปี 6,000 วอน/ อายุต่ำกว่า 12 ปี 5,000 วอน

การเดินทาง

รถไฟใต้ดินสายที่ 3 และ 4 ลงที่สถานี Chungmuro ออกทางออกที่ 2 และขึ้นรถประจำทางสาย 2 ลง N Seoul Tower (ตารางรถ 08:00 ถึง 24:00 น./ ออกทุกๆ 8 นาที/ ระยะเวลาการเดินทาง 15 นาที)

รถไฟใต้ดินสายที่ 6 ลงที่สถานี Itaewon ออกทางออกที่ 4 และขึ้นรถประจำทางสาย 3 ลง N Seoul Tower (ตารางรถ 08:00 ถึง 23:00 น./ ออกทุกๆ 10 นาที/ ระยะเวลาการเดินทาง 15 นาที)

คลองชองเกชอน (Cheonggyecheon Stream)

เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกลางเมือง มีสะพานข้ามคลองทั้งหมด 22 สะพาน

การเดินเรียบเล่นไปตามคลองชองเกชอน ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่ ประตูโอกันซูมุน (Site of Ogansumun Gate), บริเวณที่ใช้ซักผ้าในยุคโบราณ (Historic Laundry Site) และอื่นเรียงรายไปทั้งสองข้างฝั่งของคลอง นอกจากนี้สองข้างฝั่งถนนริมลำธารยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบาร์ให้นั่งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศและเสน่ห์ทั้งในยามกลางวันและยามค่ำคืน

ตั้งอยู่ที่ Seoul-si Jongno-gu Changsin1-dong

Homepage cheonggye.seoul.go.kr

เวลาเปิดทำการ ตลอดทั้งวัน หากเป็นช่วงเวลาค่ำจะได้เห็นความสวยงามของไฟประดับบริเวณน้ำพุใหญ่ตั้งอยู่ในชองเกพลาซ่า

การเดินทาง สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟใต้ดิน สาย 1-5 โดยลงตามสถานีต่อไปนี้…

สาย 1: City Hall Station, Jonggak Station, Jongno 3-ga Station, Jongno 5-ga Station, Dongdaemun Station, Sinseoldong Station

สาย 2: Euljiro 1-ga Station, Euljiro 3-ga Station, Euljiro 4-ga Station, Sindang Station, Sangwangsibni Station

สาย 3: Jongno 3-ga Station

สาย 4: Dongdaemun History & Culture Park Station

สาย 5: Gwanghwamun Station

สวนสนุกโซลแลนด์ (Seoul Land)

สวนสนุกโซลแลนด์ เป็นสวนสนุกแห่งแรกของเกาหลีที่มีทิวทัศน์สวยงามล้อมรอบด้วยภูเขา Cheonggyesan จัดรูปแบบเป็น ‘World Square’ ที่สามารถชื่นชมไปกับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของเกาหลี และทั่วทุกมุมโลก มีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ 40 rollercoasters, Black Hole 2000, Galaxy Train, Rapid Current Ride, Magic Carpet, Movie Theater, Story Land และอื่นๆ

ยังมีการจัดแสดงงานเทศกาลที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลที่ไม่ซ้ำกันในช่วงเย็น เช่น เทศกาลทิวลิป ที่จัดในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม, เทศกาลเบญจมาศเทศในเดือนกันยายนถึงตุลาคม และเทศกาลโคมไฟในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นต้น

ตั้งอยู่ที่  Gyeonggi-do Gwacheon-si Makgye-dong 33 Seoul Land

เว็บไซต์: www.seoulland.co.kr

เวลาเปิดทำการ  เวลาเปิด 09:30 เวลาปิด 18:00–22:00

ชั่วโมงในการทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนการเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.seoulland.co.kr

ค่าเข้าชม
กรุณาตรวจสอบอัตราค่าเข้าชมที่เว็บไซต์ www.seoulland.co.kr

การเดินทาง
รถไฟใต้ดิน สาย 4 ลงที่ Seoul Grand Park Station เดินออกทางออกที่ 2 จากนั้นเดินตรงผ่านสวนสาธารณะไปประมาณ 500 เมตร จะถึงวงเวียนที่มีแผนที่และป้ายบอกทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน Seoul Grand Park

การไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใน Seoul Grand Park ทำได้ 3 วิธีคือ

โดย Shuttle Train โดยเดินตรงต่อไปยังอาคารด้านหลังวงเวียน เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ และขึ้นแต่ละจุดของสถานที่ท่องเที่ยว ค่าโดยสารคนละ 800 วอนต่อจุดท่องเที่ยว

โดย Skylift หากเราเริ่มเดินไปทางขวามือของวงเวียนจะพบกับ Skylift เป็นเคเบิ้ลคาร์สำหรับเที่ยวชมในมุมสูง

โดยการเดินเท้า โดยเริ่มเดินไปทางขวามือของวงเวียนจะผ่านจุดท่องเที่ยวต่างๆ ตามลำดับดังนี้

Hobby In World อยู่ถัดจาก Skylift สวนสัตว์กรุงโซล (Seoul Zoo) เดินต่อจาก Hobby In World โดยเดินผ่านทะเลสาบและเดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร สวนสัตว์จะอยู่ขวามือของเรา พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติ (National Museum Of Contemporary Art) สามารถเดินต่อจากสวนสัตว์กรุงโซล ไปอีก 200 เมตร โซลแลนด์ (Seoul Land) อยู่ถัดจากพิพิธภัณฑ์ไปอีก 200 เมตร

พิพิธภัณฑ์แสตมป์เกาหลี (Korea Stamp World)

ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของ Seoul Central Post Office (Post Tower) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับแสตมป์ และเป็นสถานที่สำคัญในการค้นคว้าและแลกเปลี่ยนข้อมูลของเหล่านักสะสมแสตมป์ โดยการจัดแสดงประกอบไปด้วยแกลลอรี่ประวัติศาสตร์การบริการทางไปรษณีย์ แสตมป์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ตั้งอยู่ที่  Seoul-si Jung-gu Chungmuro1-ga 21 POST TOWER, B2

เวลาเปิดทำการ 09:00-18:00

เข้าชมรอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ

ปิดทำการในวันขึ้นปีใหม่, วันหยุดซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติของเกาหลี), วันชูซอก และวันหยุดแห่งชาติ

ค่าเข้าชม ฟรี

การเดินทาง
โดยรถไฟใต้ดิน สาย 4 ไปที่ Myeongdong Station เดินออกทางออกที่ 5 และเดินตรงไปที่สี่แยกไฟแดง (จุดสังเกตจะเห็นห้าง Shinsegae อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน) ที่สี่แยกไฟแดงนี้ให้เลี้ยวขวาและเดินตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร ก็ถึงตึก Seoul Central Post Office (Post Tower) อยู่ขวามือเรา สำหรับ Korea Stamp World จะอยู่ใต้ตึกนี้

ถนนซัมจองดอง-กิล (Samcheongdong-gil Street)

ถนนซัมจองดองกิล ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Gyeongbokung Palace และ Cheongwadae มีความยาวโดยประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม ที่ได้รับการออกแบบและปรับปรุงใหม่ด้วยการผสมผสานกันระหว่างแบบดั้งเดิมและการทำให้ทันสมัยได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างบรรยากาศให้สวยงามและไม่จำเจ

ตลอดสองฝั่งของถนนจะมีร้านกาแฟ, แกลเลอรี่ ร้านค้างานศิลปะและหัตถกรรม ร้านค้าสินค้าอื่นๆ ร้านอาหาร และรวมไปถึงหอแสดงผลงานทางศิลปะ

การเดินทาง
โดยรถไฟใต้ดิน สาย 3 ไปที่ Anguk Station เดินออกทางออกที่ 2 หรือเราสามารถแวะเดินเล่นที่ถนนสายนี้ หล้งจากการเยี่ยมชม Gyeongbokung Palace โดยถนนแห่งนี้จะอยู่ด้านขวาของ Gyeongbokung Palace

สวนสัตว์กรุงโซล (Seoul Zoo)

สวนสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณ Seoul Grand Park โดยรวบรวมสัตว์ที่หากยากกว่า 360 ชนิด และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กว่า 3,200 สิ่งจากทั่วโลก โดยการแบ่งโซนตามแหล่งกำเนิดและสายพันธุ์เป็นหลัก นอกเหนือการจัดแสดงปลาโลมาที่เป็นการแสดงสำคัญของสวนสัตว์แล้ว ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ที่มีพันธุ์พืชกว่า 1,300 ชนิดของพืช และผู้เข้าชมยังสามารถพักผ่อนหย่อนใจกับบริเวณต่างๆ ที่จัดไว้ได้อย่างลงตัว

ตั้งอยู่ที่  Gyeonggi-do Gwacheon-si Makgye-dong 159-1

เว็บไซต์: grandpark.seoul.go.kr

เวลาเปิดทำการ ทุกวัน  การเข้าชมรอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิดทำการ

ฤดูร้อน 09:00–19:00

ฤดูหนาว 09:00–18:00

17 กรกฎาคม–28 สิงหาคม 09:00–22:00

ค่าเข้าชม  

สวนสัตว์

ผู้ใหญ่อายุ 19 ปีขึ้นไป 3,000 วอน / แบบกลุ่ม (30 คนขึ้นไป) 2,100 วอน

เยาวชนอายุ 13-18 ปี 2,000 วอน / แบบกลุ่ม (30 คนขึ้นไป) 1,400 วอน

เด็กอายุ 4-12 ปี 1,000 วอน / แบบกลุ่ม (30 คนขึ้นไป) 700 วอน

การแสดงปลาโลมา: ผู้ใหญ่ 2,000 วอน/ วัยรุ่น 1,500 วอน/ เด็ก 1,000 วอน

การเดินทาง
รถไฟใต้ดิน สาย 4 ลงที่ Seoul Grand Park Station เดินออกทางออกที่ 2 จากนั้นเดินตรงผ่านสวนสาธารณะไปประมาณ 500 เมตร จะถึงวงเวียนที่จะมีแผนที่และป้ายบอกทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน Seoul Grand Park

การไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใน Seoul Grand Park ทำได้ 3 วิธีคือ

โดย Shuttle Train โดยเดินตรงต่อไปยังอาคารด้านหลังวงเวียน เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ และขึ้นแต่ละจุดของสถานที่ท่องเที่ยว ค่าโดยสารคนละ 800 วอนต่อจุดท่องเที่ยว

โดย Skylift หากเราเริ่มเดินไปทางขวามือของวงเวียนจะพบกับ Skylift เป็นเคเบิ้ลคาร์สำหรับเที่ยวชมในมุมสูง

โดยการเดินเท้า โดยเริ่มเดินไปทางขวามือของวงเวียนจะผ่านจุดท่องเที่ยวต่างๆ ตามลำดับดังนี้

Hobby In World อยู่ถัดจาก Skylift สวนสัตว์กรุงโซล (Seoul Zoo) เดินต่อจาก Hobby In World โดยเดินผ่านทะเลสาบและเดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร สวนสัตว์จะอยู่ขวามือของเรา

 

ภาพประกอบ http://www.hungrytrojan.com http://www.skyscrapercity.com http://www.jointtravel.com https://teacherspage.wordpress.com http://imgkid.com http://www.cntravelre.com https://benjaminexplores.wordpress.com http://www.touristlink.com http://www.pleasetakemeto.com https://carmenintheworld.wordpress.com https://sites.google.com http://writingthroughthefog.com

ที่มา http://www.jointtravel.com/

ใครว่าไปเที่ยวเกาหลีทั้งที จะมีแต่ช้อปปิ้ง เข้าผับย่านอิแทวอน หรือว่านั่งสวยๆ อยู่ในคาเฟ่เสมอไป เพราะอันที่จริงแล้วที่เกาหลีนั้น เต็มไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม ไม่ได้เน้นแค่ที่เที่ยวเกาหลีที่อยู่ในเมืองเพียงเท่านั้น

เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มีรูปกับสถานที่เที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ ในเกาหลี ทางเราขอนำเสนอ 15 ที่เที่ยวชมธรรมชาติที่เกาหลี รับรองเลยว่าดีต่อใจ ใครๆ ก็ไปได้แน่นอน ที่สำคัญคืออยากแนะนำให้จองที่เที่ยวเกาหลีกับ Traveloka Xperience ไปก่อนล่วงหน้า เพราะว่ามีแต่ข้อดี คือไม่ต้องปริ้นท์บัตรกระดาษให้ยุ่งยาก เพราะสามารถใช้ตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ที่สำคัญคือสามารถระบุวันเข้าสถานที่ได้อย่างชัดเจน เหมาะกับการใช้แพลนเที่ยวล่วงหน้า

จองที่เที่ยวชมธรรมชาติเกาหลี กับ Traveloka Xperience

ห้ามพลาด! จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และที่เที่ยวกับ Traveloka ระหว่างวันที่ 25 – 29 ก.ย. 2562 จะยิ่งได้ส่วนลดพิเศษจากงาน Epic Sale ลดกระหน่ำจัดเต็มทั้งเว็บไซต์สูงสุดถึง 80% และยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับการจองกิจกรรมและที่เที่ยวผ่าน Traveloka Xperience ลดสูงสุด 25% รีบจองและวางแผนไปเที่ยวเกาหลีแบบคุ้มค่าที่สุดกันเลย

 

1. สวนรถไฟคาพยอง (Gapyeong Rail Park) 

สำหรับคนที่เที่ยวเกาหลีบ่อยๆ จะเป็นที่รู้จักกันดีว่า “สวนรถไฟคาพยอง Gapyeong Rail Park” นั้นเป็นหนึ่งฉากสำคัญในภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง “The Letter” โดดเด่นด้วยการเป็นสวนรถไฟ ที่คุณสามารถขึ้นไปปั่นจักรยานบนทางรถไฟ เพื่อชมวิวสวยๆ สองข้างทางได้ ด้วยระยะทางรถไฟประมาณ 8 กิโลเมตร ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับวิวธรรมชาติสวยๆ สองข้างทาง โดยจะมีให้เลือกระหว่างจักรยาน 2 หรือว่า 4 ที่นั่งด้วยกัน หากใครเบื่อความวุ่นวายของเมืองหลวง ก็มาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ได้

ซื้อบัตรกิจกรรมปั่นจักรยานรางรถไฟกาพยอง กับ Traveloka Xperience

2. หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)
หากอยากได้ทั้งการชมธรรมชาติ ชมวิวของเมืองโซลอันงดงาม และได้ทั้งบรรยากาศของความโรแมนติก แนะนำให้มาที่ “หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)” เป็นหอสัญญาณที่ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน (Namsan Mountain) ถือว่าเป็นทั้งแลนด์มาร์ค และจุดชมวิวอันดับหนึ่งของกรุงโซล ด้วยความที่หอคอยเอ็นโซลนั้นตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน จึงทำให้โดยรอบมีความเป็นธรรมชาติ และสามารถมองเห็นวิวทัศนียภาพอันสวยงามของกรุงโซลได้จากหอคอยแห่งนี้

ซื้อบัตรเข้าหอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower) กับ Traveloka Xperience

 

3. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฮันฮวา อควาเรียม แพลเน็ต 63

อยากใกล้ชิดกับธรรมชาติและโลกใต้น้ำ ให้ไปที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฮันฮวา อควาเรียม แพลเน็ต 63” พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่บนตึก 63 แสควร์ เน้นความทันสมัย และความน่าสนใจเป็นหลัก มีการจำลองระบบนิเวศน์ใต้ทะเลให้คุณได้ชม และหาความรู้กันมากถึง 8 โซนด้วยกัน ซึ่งที่เที่ยวแห่งนี้ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับสัตว์น้ำมากมายหลายสายพันธุ์ และได้เรียนรู้ระบบนิเวศน์ใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้ธรรมชาติ และยังเหมาะกับนักท่องเที่ยวแนวครอบครัวอีกด้วย

ซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฮันหวา อควาเรียม แพลเน็ต 63 กับ Traveloka Xperience

4. อุทยานแห่งชาติซุนช็อนมัน (Suncheon Bay)

นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติทั้งหลาย ถ้าหากว่าไปเกาหลีแล้วเบื่อ ไม่อยากไปเดินช้อปปิ้งอีกต่อไป แนะนำให้ไปเที่ยวที่ “อุทยานแห่งชาติซุนช็อนมัน (Suncheon Bay)” ด้วยความโดดเด่นที่อุทยาน หรือว่าเขตอนุรักษ์ธรรมชาตินี้เป็นอาณาจักรแห่งต้นกก ใช่แล้ว! ฟังไม่ผิด เพราะว่าที่อุทยานแห่งชาตินี้จะเต็มไปด้วยวิวของต้นกกสวยๆ ไฮไลท์จะอยู่ที่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นกกเหล่านี้จะสูงเทียบเท่ากับตัวคน แถมยังออกดอกงดงาม เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง

ซื้อบัตรโดยสาร Korail Pass กับ Traveloka Xperience

5. เกาะนามิ (Nami Island)
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีอยู่ช่วงหนึ่ง ใครๆ ก็ไปเกาะนามิ เพราะว่าเกาะนามินั้นล้วนโด่งดังมาจากหนังเกาหลีสารพัดเรื่อง ที่มาถ่ายทำที่เกาะนามิแห่งนี้ เกาะนามินั้นเป็นเกาะที่มีรูปทรงเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบชองเพียง (Cheongpyeong Lake) สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะนามิได้แบบเช้าไปเย็นกลับ ความโดดเด่นของการไปเที่ยวเกาะนามิ ก็คือการไปถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นแป๊ะก๊วย อีกทั้งเกาะนามิเองยังโดดเด่นไปด้วยความเขียวขจีของธรรมชาติ

ซื้อทัวร์เกาะนามิ กับ Traveloka Xperience

6. สวนพฤกษศาสตร์เกาหลี (The Garden of Morning Calm)
สำหรับสถานที่เที่ยวชมธรรมชาติเกาหลีสถานีต่อไป ขอแนะนำให้ปักหมุดไว้ที่ “สวนพฤกษศาสตร์เกาหลี (The Garden of Morning Calm)” กันได้เลย เพราะที่เที่ยวชมธรรมชาติเกาหลีแห่งนี้ก็ฮอตฮิตไม่แพ้ที่เที่ยวเกาหลีอื่นๆ เลยทีเดียว สำหรับที่เที่ยวนี้ก็อยู่ในเขต Gyeonggi-do ด้านในจะเป็นสวนพฤกษศาสตร์สวยๆ เต็มไปด้วยสวน และต้นไม้มากมาย ที่ถูกตกแต่งให้มีความงดงามในสไตล์เกาหลี เป็นสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้มากกว่า 30,000 แปลงด้วยกัน และมีมุมสวยๆ ให้เลือกถ่ายรูปเพียบ!

ซื้อทัวร์สวนสวนพฤกษศาสตร์ กับ Traveloka Xperience

7. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)
ใครที่คิดว่าเกาหลีนั้นมีแต่ที่เที่ยวในเมืองเท่านั้น บอกเลยว่าคุณคิดผิด! เพราะอันที่จริงแล้วเกาหลี มีอุทยานแห่งชาติ และที่เที่ยวธรรมชาติเยอะมากๆ ซึ่งบางที่ก็อาจจะอยู่ห่างจากเมืองมาหน่อย แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การมาเที่ยวแน่นอน อย่างเช่น “อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)” แห่งนี้ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียง และขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง สำหรับอุทยานแห่งชาตินี้ก็มีขนาดใหญ่มาก ผู้คนนิยมมาปีนเขา และมาชมความงดงามของธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ซื้อบัตรทัวร์ 1 วัน ภูเขาซอรัก กับ Traveloka Xperience

8. สวนรถไฟจองดงจิน (jeongdongjin)

ปั่นจักรยานในสวนสาธารณะแบบเดิมก็คงจะดูธรรมดาไป อยากให้ลองมาปั่นจักรยานที่ “สวนรถไฟจองดงจิน (jeongdongjin)” กันดู เพราะว่าสวนรถไฟแห่งนี้ ได้ยกให้เป็นหนึ่งในสวนรถไฟที่สวยงาม และขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกอย่างเป็นที่สุด เพราะเป็นรถไฟที่วิ่งอยู่เลียบชายหาด ทำให้คุณสามารถมองเห็นชายหาดไปในระหว่างทางที่ปั่นจักรยานไปด้วยได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวชมธรรมชาติที่เกาหลี ที่เหมาะสำหรับคู่รักเป็นอย่างมาก

ซื้อทัวร์คังนึงกับ KTour Story กับ Traveloka Xperience

9. วัดนักซานซา (Naksansa Temple)

อยากได้ทั้งที่เที่ยวแนวธรรมชาติสวยๆ และอยากเติมบุญไปด้วยกันภายในที่เดียว ทางเราขอแนะนำ “วัดนักซานซา (Naksansa Temple)” อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องมาของเกาหลี เพราะเป็นวัดที่เก่าแก่มากๆ มีอายุอานามมากกว่า 1,000 ปีซะอีก เป็นวัดที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างเมืองซกโซ และเมืองยางยาง ภายในจังหวัดคังวอน ความโดดเด่นคือเป็นวัดที่สามารถมองออกไปเห็นวิวทะเลตะวันออก หรือว่าทะเลญี่ปุ่น เป็นวัดที่ให้วิวทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง เหมาะกับคนที่อยากชมวิวสวยๆ อยากสงบจิตใจ และมาฝึกนั่งสมาธิ รับรองว่ามาที่วัดนี้แล้วจะได้ทั้งหมดนี่ครบอย่างแน่นอน

ซื้อทัวร์ภูเขาซอรักและวัดนักซันซา กับ Traveloka Xperience

10. เกาะโวลมีโด (Wolmido Island)

เอาใจคนที่ชอบเที่ยวทะเลกันสักหน่อย กับเกาะโวลมีโด เป็นเกาะที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ของชายฝั่งเมืองอินชอน สามารถไปเที่ยวได้ง่ายๆ เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโซลมากนัก ไฮไลท์ของเกาะโวลมีโด ก็คือวิวทิวทัศน์อันสวยงามของชายฝั่งทะเล ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจ และเดินเล่นพร้อมกับฝั่งเสียงคลื่นกระทบชายหาดจากบนฝั่ง หรือถ้าหากใครที่ไม่อยากไปเที่ยว ทางเราก็มีทัวร์แนะนำ ด้วยการพาไปนั่งเรือให้อาหารนกนางนวลอย่างใกล้ชิด และแวะชมแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ที่ห้อมล้อมไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ที่จะทำให้คุณลืมเมืองหลวงอย่างโซลไปชั่วขณะ

ซื้อทัวร์ 1 วัน ให้อาหารนกนางนวล กับ Traveloka Xperience

11. แม่น้ำฮัน (Hangang Park)

อยากชมความงดงามของธรรมชาติ แต่ไม่อยากไปไหนไกลมากนัก “แม่น้ำฮัน (Hangang Park)” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะว่าแม่น้ำฮันนี้ เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาหลี ในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่มานั่งชมความงดงามในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน หรือว่าพักผ่อนหย่อนใจบริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮันนี้ แต่สำหรับใครที่อยากชมความงดงามของแม่น้ำฮันอย่างใกล้ชิดขึ้นไปอีก ทางเราก็แนะนำให้ลองล่องเรือชมแม่น้ำฮันไปเลยเต็มๆ 1 ชั่วโมง เพราะจะทำให้มองเห็นวิวธรรมชาติสวยๆ ตามสองข้างทางในขณะที่ล่องเรือ

ซื้อบัตรล่องเรือแม่น้ำฮันและทัวร์ภูเขานัมซาน กับ Traveloka

12. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park)

ปักหมุดไว้รอเลยสำหรับสายธรรมชาติ ไม่อยากให้พลาดที่เที่ยวชมธรรมชาติเกาหลีแห่งนี้เลยจริงๆ เพราะว่า “อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park)” เป็นอุทยานแห่งชาติอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงเรื่องความงดงาม ตั้งอยู่บนเกาะเชจู ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวทั้งชาวเกาหลีเอง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็ต่างนิยมมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ และเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย นิยมมาปีนเขาที่อุทยานแห่งชาตินี้ด้วย

13. เกาะเชจูตอนใต้

มาเกาหลีแล้วถ้าหากว่าใครมีเวลา ก็อยากให้ลองแวะมาเที่ยวที่ “เกาะเชจูตอนใต้” กันบ้าง สำหรับเกาะเชจูเองก็มีหลายส่วนด้วยกัน แนะนำให้มาเที่ยวเกาะเชจูตอนใต้ดู เพราะขึ้นชื่อเรื่องที่เที่ยวธรรมชาติเกาหลีสวยๆ มากมาย ซึ่งถ้าหากใครที่ไม่อยากมาเที่ยวเอง ทางเราก็มีทัวร์แนะนำให้มาเที่ยวที่นี่ เริ่มจากการเดินป่าไปตามเส้นทาง Mount Halla Eoseungsaengak แวะชมพิพิธภัณฑ์มีชีวิต และแวะเที่ยวที่หน้าผาลาวาหกเหลี่ยม Jusangjeoli ปิดท้ายด้วยน้ำตกจองแบง ซึ่งจะใช้เวลาตั้งแต่เช้าจรดเย็น เต็มๆ หนึ่งวัน

ซื้อทัวร์เกาะเชจูตอนใต้ กับ Traveloka Xperience

14. เกาะเชจูตะวันออก

นอกเหนือจากทัวร์เกาะเชจูตอนใต้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งทัวร์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือทัวร์เกาะเชจูตะวันออก เป็นการทัวร์เกาะเชจูที่จะทำให้คุณได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมหลัก อย่างเช่นการขี่ม้า และการเยี่ยมชมหมู่บ้าน Seongeup Folk นอกจากนั้นยังมีที่เที่ยวธรรมชาติเกาหลีอย่าง หาดกวางชิงิ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก และปิดท้ายด้วยการเดินป่าในถ้ำ Manjang ที่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยกัน เหมาะกับคนที่อยากได้ทั้งการทัวร์แบบธรรมชาติ และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นไปพร้อมกัน

ซื้อทัวร์เกาะเชจูตะวันออก กับ Traveloka Xperience

15. น้ำตกชองบัง (Jeongbang Waterfall)

นอกเหนือจากส่วนที่เป็นทะเลแล้ว บนเกาะเชจูนั้นก็มีความหลากหลายในเรื่องของภูมิประเทศ ซึ่งก็จะมีน้ำตกอยู่บนเกาะนั้นเช่นกัน ซึ่งน้ำตกที่ว่านั้นก็คือ “น้ำตกชองบัง (Jeongbang Waterfall)” หรือที่เรียกกันว่าเป็นน้ำตกมังกร ที่มาจากตำนานโบราณ เชื่อว่าที่น้ำตกนี้มีมังกรอาศัยอยู่ และน้ำตกที่ไหลออกมานั้นก็เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ความโดดเด่นของน้ำตกชองบัง ก็คือการเป็นน้ำตกเดียวที่น้ำไหลลงสู่มหาสมุทร ซึ่งในทุกปีก็จะมีการจัดงานเทศกาลที่น้ำตกนี้

ซื้อทัวร์เกาะเชจูตอนใต้ กับ Traveloka Xperience

ใครที่เที่ยวในเมืองโซลจนเบื่อแล้ว ทางเราก็ขอนำเสนอที่เที่ยวชมธรรมชาติรูปแบบใหม่ๆ ที่ถึงแม้จะเขยิบออกจากตัวเมืองมาอีกหน่อย แต่รับรองเลยว่าความงดงามที่คุณจะได้รับ และประสบการณ์แปลกใหม่ในการไปเที่ยวที่เที่ยวเกาหลีใหม่ๆ จะคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ที่สำคัญอย่าลืมจองที่เที่ยวมาล่วงหน้ากับ Traveloka Xperience เพราะจะช่วยให้การแพลนเที่ยวล่วงหน้าของคุณ ง่ายกว่าที่เคย นอกเหนือจากที่เที่ยวเกาหลีแล้วนั้น ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ให้เลือกจองอีกเพียบ!