แพลนเที่ยวเกาหลี: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
7 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ยอดฮิต ถ่ายรูปลง IG ได้รัวๆ
เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงทั้งที แพลนเที่ยวไปชม ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ก็ต้องมาค่ะ บอกเลยว่าช่วงเวลาที่ต้นไม้จะผลัดใบเปลี่ยนเป็นโทนสีส้ม แดง เหลือง ดูสดใส เป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกสุดๆ ให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศฟินๆ แบบที่มีแค่ปีละครั้งเท่านั้นเอง โดยตามปกติใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลีจะอยู่ในช่วงประมาณเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน แล้วแต่สภาพอากาศ ใครเตรียมลางานไปเที่ยวก็ต้องรีบจับจองที่นั่ง ทัวร์เกาหลี กันหน่อย เดี๋ยวจะพลาด! ซึ่งครั้งนี้ มัชรูมทราเวล มีพิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีและจุดถ่ายรูปยอดฮิตในเกาหลีมาฝาก รับรองว่าไปแล้วไม่ตกเทรนด์ ได้รูปมาลงไอจีสวยๆ ปังๆ พร้อมแล้วก็ไปกันเลย!
1. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน
ถ้าพูดถึงจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี สวยๆ หนึ่งในนั้นต้องมี อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ในเมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด ทางฝั่งตะวันออกของเกาหลี ที่นี่สวยงามด้วยวิวทิวทัศน์ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตามฉายาที่ได้รับว่า สวิตเซอร์แลนด์เกาหลี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บรรดาต้นไม้และต้นเมเปิ้ลต่างๆ ที่อยู่รอบอุทยานก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลือง แจกความสดใสและสวยงามสลับกันทั่วทั้งภูเขา
ส่วนใหญ่ชาวเกาหลีจะนิยมมาท่องเที่ยวและปีนเขากันค่ะ แต่สำหรับใครที่มีเวลาไม่มากก็สามารถโดยสารเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาได้ ใครอยากไปรับลมเย็นๆ บนยอดเขา พร้อมชมทิวทัศน์ของขุนเขาแบบ 360 องศา เก็บภาพความประทับใจสวยๆ กับคนที่คุณรักไปด้วย ขอแนะนำเลยค่าา
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,500 วอน / เด็ก (อายุ 14-19 ปี) 1,000 วอน / เด็ก (อายุ 8-13 ปี) 500 วอน
เคเบิ้ลคาร์: Round Trip ผู้ใหญ่ 10,000 วอน / เด็ก (อายุต่ำกว่า 14 ปี) 6,000 วอน
เวลาทำการ: 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: ขึ้นรถบัสที่สถานี Dong Seoul Bus Terminal (รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Gangbyeon) ไปลงยังสถานี Sokcho Intercity Bus Terminal แล้วโดยสารรถเมล์สาย 7 หรือ 7-1 ลงที่ป้ายสุดท้าย Seoraksan Sogongwon
พิกัด:
2. อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน
อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้กรุงโซล ที่เราสามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามได้นั่นก็คือที่ อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน ภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของกรุงโซล ที่โอบล้อมด้วยพรรณไม้ต่างๆ กว่า 1,300 ชนิด และเป็นสถานที่เก่าแก่ที่เป็นที่ตั้งของวัดและป้อมปราการตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลา
ที่นี่เป็นนิยมมากๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า ปีนเขา ชมธรรมชาติ เนื่องจากมีหลากหลายเส้นทางและหลายยอดเขาให้เลือกท้าทายความสามารถกัน ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ภาพใบไม้เปลี่ยนสีสันสดใสปกคลุมภูเขาทั้งลูกแล้ว จากจุดชมวิวบนยอดเขายังสามารถมองเห็นกรุงโซลและแม่น้ำฮันได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ใครชอบปีนเขา ชอบเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ จดไว้ในลิสต์ที่เที่ยวชม ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี เลยค่ะ!
เวลาทำการ: 09.00 – 15.00 น.
การเดินทาง:
Bukhansan National Park – นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 มาลงที่สถานี Gireum Station ทางออก 3 แล้วโดยสารรถเมล์สาย 110B หรือ 143 ลงที่ป้ายสุดท้าย
ป้อมปราการ Bukhansanseong Fortress – นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี Gupabal Station ทางออก 1 แล้วโดยสารรถเมล์สาย 704 (Bukhansanseong Fortress) แล้วลงที่ป้ายหน้าทางเข้า Bukhansan Mountain
พิกัด:
3. เกาะนามิ
มาถึงจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ใครมา ทัวร์เกาหลี ต้อง-ห้าม-พลาด!! นั่นก็คือ เกาะนามิ อันแสนโด่งดังจากซีรี่ย์เรื่อง Winter Love Song เป็นเกาะเล็กๆ รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว อยู่ห่างจากกรุงโซลเพียง 60 นาที แต่สวยงามเลอค่าเหมาะแก่การมาแชะภาพเป็นที่สุด โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นแปะก๊วยที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามทางเดินก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด บรรดาต้นเมเปิ้ลต่างๆ ก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดง กระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ ไม่ว่าจะเดินเล่น ถ่ายรูป ขี่จักรยาน หรือแค่นั่งปิกนิกใต้ต้นไม้กับครอบครัวก็ฟินสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Gyeongchun มาลงที่สถานี Gapyeong แล้วต่อรถบัสที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ หรือแท็กซี่ไปท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากตามตารางเวลาดังนี้
07.30 – 09.00 น. (ทุกๆ 30 นาที)
09.00 – 18.00 น. (ทุกๆ 10-20 นาที)
18.00 – 21.40 น. (ทุกๆ 30 นาที)
*ตารางเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงช่วงเทศกาล
พิกัด:
4. สะพานแขวนมาจังโฮซู
ถ้าพูดถึงจุดชมวิวและถ่ายรูป ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี ที่ฮิตสุดๆ นั่นก็คือ สะพานแขวนมาจังโฮซู แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองพาจู ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็น สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในเกาหลี แล้ว ภายในพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตรของทะเลสาบมาจัง ก็ยังทำการรีโนเวทเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในรูปแบบ Outro Theme Park อันประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางปีนเขา พื้นที่แคมปิ้ง กิจกรรมทางน้ำต่างๆ หอดูดาว คาเฟ่และร้านอาหารมากมาย เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ใครมา ทัวร์เกาหลี ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะบรรยากาศดีสุดๆ
พิกัด:
5. พระราชวังเคียงบกกุง
ใครอยากมีรูปสวยๆ สวมชุดฮันบกอยู่ท่ามกลางใบไม้แดง ในบรรยากาศสุดคลาสสิกประหนึ่งเป็นองค์หญิงในวังหลวง ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 นี้ ต้องมาที่ พระราชวังเคียงบกกุง นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์เกาหลีที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแล้ว ในช่วงนี้จะมีความงดงามมากเป็นพิเศษ เพราะมีสีสันของบรรดาต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล มาช่วยแต่งแต้มให้พระราชวังหลวงแห่งนี้ดูมีเสน่ห์และน่าเยี่ยมชมมากขึ้น จะมาเดินเล่นชิลๆ หรือจะ เช่าชุดฮันบกในเกาหลี แวะถ่ายรูปตรงจุดไหนก็ฟิน
เวลาทำการ: 09.00 – 17.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 16.00 น.) / ปิดทำการทุกวันอังคาร
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,000 วอน / เด็ก (7-18 ปี) 1,500 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี Gyeongbokgung ทางออก 5
พิกัด:
6. พระราชวังชางด็อกกุง
พระราชวังชางด็อกกุง อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในโซลที่ใครมา ทัวร์เกาหลี ไม่ควรพลาด ที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงแห่งที่สองที่ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1997 บรรยากาศรอบๆ มีความงดงาม คลาสสิก และค่อนข้างเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยสีสันสดใสของต้นไม้ต่างๆ ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสี โดยเฉพาะภายใน สวนฮูวอน หรือที่เรียกกันว่าสวนลับ ทางเดินอาจจะชันหน่อย แต่ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ดีงาม แถมได้ฟีลเหมือนเข้าไปอยู่ในละครย้อนยุคอีกต่างหาก ถ้ายิ่งสวมชุดฮันบกสวยๆ เข้าไปเก็บภาพประทับใจกันด้วยนะ 10 10 10 ไปเลยจ้า!!
เวลาทำการ: 09.00 – 17.30 น. / ปิดทำการทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม: พระราชวัง 3,000 วอน / สวนฮูวอน 5,000 วอน
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี Anguk ทางออก 3 แล้วเดินตรงมาอีกประมาณ 300 เมตร
พิกัด:
7. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา
ปิดท้ายกันที่ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเกาหลี และยังเป็นจุดถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในกรุงโซลอีกด้วย ทั้งสถาปัตยกรรมอลังการล้อมด้วยทิวทัศน์สวยๆ ผสมกับสีสันสดใสของต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิ้ลที่อยู่รอบๆ ยิ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องลิสต์ไว้ในทริป ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี เลยค่ะ
เวลาทำการ: 10.00 – 17.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 มาลงที่สถานี Ewha Woman’s University ทางออก 2 หรือ 3
พิกัด:
ชอบ บทความ
มัชรูมทราเวล
ทำไงดี…?
1.
กด
แชร์
ต่อ
ให้เพื่อนอ่านบ้าง
คลิก
Like
และ
ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/
2.Likeติดตามเราได้ที่ Facebook
—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม
ทัวร์เกาหลี
ให้เลือกมากที่สุด
โทร.
02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id
: @mushroomtravel
7 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ยอดฮิต ถ่ายรูปลง IG ได้รัวๆ
was last modified: by
[Update] อันยองทริป 3 วัน 4 คืน บินเดี่ยวเที่ยวเกาหลี ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้แบบชิลล์ๆ | แพลนเที่ยวเกาหลี – Sonduongpaper
อันยองฮาเซโย~ ทักทายกันเป็นภาษาเกาหลีกันสักหน่อย ช่วงนี้กำลังอินกับซีรี่ย์เกาหลีอย่างหนักหน่วง เรียกได้ว่ามีเพื่อนเป็นซีรี่ย์เกาหลีในยามเหงาเลยก็ว่าได้ และเจ้าซีรี่ย์เกาหลีนี่แหละที่เป็นต้นเหตุให้ทริปเกาหลีครั้งนี้เกิดขึ้น แต่การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเองคนเดียว เน้นเที่ยวแบบชิลล์ๆ สูดบรรยากาศความเป็นเกาหลีจริงๆ และแน่นอนว่าจะไปแอบส่องโอปป้าเกาหลีด้วยแหละ ลองตามาดูเลยกับทริป 4 วัน 3 คืน เที่ยวเกาหลี ฉบับผู้หญิงเที่ยวคนเดียว
Day1
สำหรับการเดินทางไปเกาหลีครั้งนี้เราเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไฟล์ทประมาน 23.00 น. เพื่อที่จะอยากไปให้ถึงเกาหลีในตอนเช้าเพราะจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ ซึ่งจะต้องใช้เวลาเดินทางประมาน 6 ชั่วโมง พอขึ้นเครื่องเสร็จก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร หลับเท่านั้นค่ะ รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศว่าเครื่องกำลังแลนด์ดิ้งสู่สนามบินนานาชาติอินชอน และมาถึงเกาหลีประมาน 06.30 น.สำหรับการเดินทางไปเกาหลีครั้งนี้เราจองตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-south-korea ซึ่งรวมราคาที่ดีที่สุดให้กับเราแล้ว เหมาะมากกับการเที่ยวแบบเซฟงบอย่างเรา
Day2
มาเกาหลีช่วงต้นปีแบบนี้ก็จะได้ฟินไปกับอากาศหนาวๆ และหิมะโปรยปราย ทำเอาคนไทยเมืองร้อนอย่างเราตื่นเต้นจนหยิบมือถือมาถ่ายรูปไม่หยุด จุดหมายแรกที่จะปักหมุดไปก็คือที่พักที่เราจองไว้สำหรับทริปนี้ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฮงแด ย่านที่เรียกได้ว่าคึกคักตลอดเวลา มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอาง คาเฟ่ ผับ บาร์เพียบ!! สำหรับการเดินทางจากสนามบินอินชอนก็ง่ายมาก นั่ง Airport Railroad Express (AREX) จากสนามบินมาลงที่สถานี Hongik ทางออก 1 และเดินมาอีกแป๊บเดียวก็ถึงที่พักแล้ว
และที่พักของเราก็คือ House 740 เป็นที่พักสไตล์เกสต์เฮ้าส์แบบชิลล์ๆ มีห้องพักให้เลือกถึง 9 แบบพักได้ตั้งแต่ 2 – 7 คน แต่ทริปนี้มาคนเดียวเลยจองเป็นห้อง Deluxe Double ภายในห้องตกแต่งได้อย่างน่ารักให้อารมณ์โคซี่ๆ เน้นสีขาวและที่สำคัญครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
Location: 203 – 48 Donggyo-dong, Mapo-gu, Seoul, Korea // How to go: รถไฟใต้ดินสถานีฮงแด ทางออก 1
ลืมบอกไปว่าทางที่พักให้เช็คอินตอนบ่ายโมง เราเลยขอฝากกระเป๋าและสัมภาระต่างๆ ไว้ก่อน เจ้าของที่พักก็น่ารักและใจดีมาก ให้เราฝากกระเป๋า แถมยังแนะนำที่เที่ยวให้อีกด้วย และปักหมุดไปต่อที่ ย่านอินซาดง
อินซาดง (Insa-dong) เป็นย่านเก่าแก่ที่อยู่ใจกลางเมืองโซล สายช็อปต้องห้ามพลาดเพราะที่นี่มีร้านขายของเก่าคลาสสิคๆ อีกทั้งยังมีร้านอาหารแบบดั้งเดิม คาเฟ่ และแกลลอรี่มากมายกว่า 100 แกลลอรี่ หรือใครที่ชอบดูผลงานศิลปะก็ต้องไม่พลาดเช่นเดียวกัน
เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ต้องหาของอร่อยๆ ลงท้องกันบ้างเราเดินมาเรื่อยๆ จนเจอกับร้านสตรีทฟู้ดมากมายซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของย่านอินซาดง และประเดิมกับของกินเล่นเมนูแรกอย่าง Hotteok (Sugar Filled Pancake) ขนมแป้งกลมๆ แบนๆ ใส่ถั่วกับน้ำตาลแดง ทอดในน้ำมันร้อนๆ เมนูนี้คลายความหนาวได้เป็นอย่างดี
และยังมี ไก่ทอดซอสเกาหลี (Yangnyeom-Tongdak) รสชาติอร่อย เมนูนี้ถูกใจสุดๆ ค่ะ
กินของคาวกันไปแล้วก็มาปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง ไอศกรีมขนมปังปลาและสตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล
และเมนูโปรดของคนเกาหลีอย่างเกาลัดที่ได้กลิ่นคั่วหอมๆ มาแต่ไกล
หรือใครที่อยากเอาความอร่อยกลับไปฝากเพื่อนๆ ที่เมืองไทยแนะนำให้ซื้อของกินเล่นพวกลูกอมสไตล์เกาหลี ซึ่งมีหลายรสชาติให้เลือก
ความคึกคักของที่นี่ทำเอาเราเดินชมบรรยากาศอย่างเพลิดเพลินใจเลยทีเดียว
สำหรับวิธีการเดินทางไปยังย่านอินซาดง ให้รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Anguk Station ทางออก 6 เดินตรงไป 100 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย
ช็อปจนเพลิดเพลินใจถึงช่วงค่ำก็ได้เวลานั่งรถไฟใต้ดินกลับมายังที่พัก คืนนี้ต้องขอนอนพักผ่อนเอาแรงหลังจากเดินทางและเที่ยวมาเหนื่อยๆ ทั้งวัน
Day 3
วันนี้เราตื่นช่วงสายๆ เพราะด้วยความที่อากาศหนาวมากๆ บวกกับด้านนอกมีหิมะตกเบาๆ อย่างที่บอกว่าทริปนี้เน้นเที่ยวแบบชิลล์ๆ เราเลยไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมาย เช้านี้เราหามื้อเช้าทานเบาๆ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวๆ ที่พัก และออกเดินทางต่อตามแพลนที่เราวางไว้คือ หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) หมู่บ้านโบราณของเกาหลีที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัยของกรุงโซล เพียงแค่เดินเข้าไปก็ได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นเกาหลีแบบโบราณทำให้นึกถึงซีรี่ย์เกาหลีแนวพีเรียด
และหมู่บ้านบุกชอนฮันอกยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เมื่อมาเที่ยวแล้วจะได้พบกับบ้านของขุนนางระดับสูงของเกาหลีในสมัยก่อน ภายในหมู่บ้านมีอาคารแบบดั้งเดิมกว่า 100 หลัง ซึ่งเป็นรูปแบบบ้านที่ชาวเกาหลีเรียกกันว่า ฮันอก (Hanok) ที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้มาตั้งแต่สมัยโชซ็อน
ในปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร โรงน้ำชา และคาเฟ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้วัฒนนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม และที่สำคัญหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีคนเกาหลีอยู่กันจริงๆ
หมู่บ้านบุกชอนฮันอกยังถูกล้อมรอบด้วยสถานที่เชิงประวัติศาสตร์มากมายซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่าง พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านบุกชอนฮันอกไม่ไกลมากนัก
มาถึงกรุงโซลของประเทศเกาหลีแล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปชม พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ที่เป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตของกรุงโซล ซึ่งที่นี่เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ราชวงศ์โชซ็อน
หนึ่งจุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ประตูควังฮามุน (Gwanghwamun Gate) ซึ่งเป็นประตูหลักทางทิศใต้ของพระราชวัง บริเวณด้านหน้าประตูเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวเกาหลีเองและชาวต่างชาติที่มาชมความยิ่งใหญ่และงดงามของที่นี่
และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิธีเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบกกุงซึ่งจัดแสดงทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) และที่สำคัญมีการแสดงเพียงวันละ 3 รอบเท่านั้น
ตรงนี้ตื่นเต้นมากๆ เพราะพิธีเปลี่ยนเวรยามทำเอาเราคิดว่าตัวเราหลุดเข้าไปในซีรี่ย์เกาหลีอย่างไงอย่างงั้น ทั้งเครื่องแต่งกายแบบโบราณและบรรยากาศโดยรอบทำให้รู้สึกว้าวสุดๆ
หรือใครที่อยากได้รูปสวยๆ สไตล์สาวเกาหลี บริเวณรอบๆ พระราชวังยังมีร้านเช่าชุดฮันบกให้ใส่เข้ามาถ่ายรูปด้านในพระราชวังอีกด้วย
เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอกับ ประตูฮึงรเยมุน (Heungryemun) ซึ่งเป็นประตูที่สองที่อยู่ตรงกลางระหว่างประตูควังฮวามุน ตรงจุดนี้สวยงามและยิ่งใหญ่สุดๆ มาถ่ายรูปตรงนี้รับรองว่าได้รูปสวยๆ ไปเปลี่ยนโปรไฟล์อย่างแน่นอน
เที่ยวชมความงดงามของวัฒนธรรมเกาหลีกันเต็มอิ่มแล้ว ก่อนเดินทางกลับที่พักเรามาเจอมุมถ่ายรูปสุดชิคที่อยู่ระหว่างทางเดินรถไฟฟ้าใต้ดินที่เรียกว่า ผนังกระจก (Gyeongbokgung) สถานีรถไฟใต้ดิน Gyeongbokgung เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปเท่ๆ ที่ต้องตามไปถ่ายกันให้ได้
ก่อนที่เดินทางกลับที่พักในช่วงเย็น เราแวะไปกินมื้อเย็นที่ร้าน Cheese That Love Jjimdak ร้านที่มีเมนูจิมดักชื่อดังแห่งย่านชินชนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรามากนัก สำหรับการเดินทางมาร้านให้นั่งรถไฟฟ้ามาที่สถานีชินชนทางออก 1 และเดินตรงมาเรื่อยๆ ทางมหาวิทยาลัยยอนเซ ตัวร้านจะตั้งอยู่บนตึกชั้น 2
Day 4
วันสุดท้ายของทริปเกาหลี วันนี้หลังจากที่เก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักและเดินทางไปเที่ยวกันต่อ ซึ่งวันนี้เราเช็คเอ้าท์และเอากระเป๋าฝากไว้กับที่พักอีกเช่นเคยและปักหมุดไปกันที่ อุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดงแดมุน (Dongdaemun History & Culture Park) หรือที่คนเกาหลีเรียกกันว่า ทงแดมุนย็อกซามุนฮวากงว็อน
ที่นี่แบ่งออกเป็นหลายโซนไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นที่จัดแสดง รวบรวมและเก็บรักษาสิ่งของทางประวัติศาสตร์ และยังมีในส่วนของ ทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า (Dongdaemun Design Plaza) หรือเรียกสั้นๆ ว่า DDP ตึกดีไซน์สุดล้ำที่ภายในรวมรวมงานดีไซน์เจ๋งๆ ไว้มากมาย แถมยังมีพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะและงานออกแบบต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านค้าไว้ภายใน
ความยิ่งใหญ่และสวยงามของตึก DDP
ไม่ว่าจะหันกล้องไปตรงไหนก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่นอกจากตัวตึกสุดแนวอย่าง DDP แล้ว ยังมีทุ่งดอกกุหลาบ LED ดอกกุหลาบที่ยามเช้าจะเป็นสีขาว แต่ถ้าใครที่มาในช่วงค่ำดอกกุหลาบทุกดอกก็จะมีไฟติดขึ้นมา เป็นภาพที่สวยและบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 21:00 น. // เข้าชมฟรี // How to go: รถไฟสาย 2 สีเขียว, สาย 4 สีฟ้า และสาย 5 สีม่วง ลงสถานี Dondaemun history & Culture Park ทางออกที่ 1 เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ จนเจอประตูทางออก
ก่อนเดินทางกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ที่พัก เราเลยแวะเที่ยวที่ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womens University) ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องมาถ่ายรูปและเที่ยวชมบรรยากาศให้ได้สักครั้ง และยังได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยหญิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
บรรยากาศรอบๆ มหาวิทยาลัยอีฮวา เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวและอากาศดีสุดๆ ดีจนแอบอิจฉาเด็กมหาลัยที่นี่เลยล่ะ
สำหรับจุดเด่นจะอยู่ที่อาคาร Ewha Campus Center (EEC) ซึ่งเป็นอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมงดงามสุดๆ
เที่ยวตามแพลนจนครบหมดแล้วเราเลยเดินทางกลับไปที่พักเพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ก่อนที่จะไปสนามบินนานาชาติอินชอนเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับทริปเที่ยวเกาหลีแบบผู้หญิงเที่ยวเองคนเดียว บอกได้เลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดเอาไว้เพราะการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ในเกาหลีสะดวกสบายและที่ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทริปนี้คือเราจองทั้งตั๋วเครื่องบินและจองที่พักผ่าน ทราเวลโลก้า (Traveloka) ซึ่งมีทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่สะดวกต่อการใช้งาน ที่สำคัญทราเวลโลก้ายังรวมราคาที่ดีที่สุดให้กับเราแล้ว เอาเป็นว่าใครที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวเกาหลีลองเอาแพลนทริปนี้เป็นตัวอย่างรับรองว่าฟินจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ
Korea Vlog เที่ยวเกาหลีกับทัวร์ 2020 EP.01 (อินชอน, สวนสนุกEverland, ไร่สตรอเบอรี่, วัดวาวูจองซา)
อันยองฮาเซโย
สวัสดีค่ะ Vlog นี้เราขออาสาพาทุกคนไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีกับทัวร์ เป็นการรีวิวสั้นๆ โดยโปรแกรม 5 วัน 3 คืน ต้องขอบอกก่อนนะคะว่าคลิปนี้ถ่ายไว้เมื่อเดือน มกราคม อากาศตอนนั้นติดลบ 1 ถึง 8 องศาเลยทีเดียว โดยรายละเอียดของทริปจะมีตั้งแต่ ไปผ่านด่านตม.เกาหลี กิน เที่ยว ที่พัก สายการบิน โดย EP. นี้เราไปเที่ยวกับแถวๆย่านซูวอน (Suwon) ไร่สตรอเบอรี่(4 Season Farm) และปิดท้ายด้วยสวนสนุก (Everland) ขอให้เพื่อนๆทุกคนสนุกกับการดูคลิป หากชอบหรือมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถคอมเม้นไว้ใต้คลิปได้เลย แล้วอย่าลืมกด Like กด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจ และจะได้ไม่พลาดสำหรับ EP.ต่อไปด้วยนะคะ
เที่ยวเกาหลี KoreaVlog เกาหลีกับทัวร์ Vlog Everland Suwon รีวิว ฤดูหนาว ทัวร์เกาหลี Vlogมือถือ
กดติดตามกดกระดิ่งเพื่อไม่ให้พลาดความบันเทิงใหม่ๆ และเป็นกำลังใจให้กับเราด้วยนะ
📖Facebook : https://m.facebook.com/HaHnamStory102653057986800/
📺 Youtube : https://m.youtube.com/channel/UCJKcBeHC_KUt22wzLaJgdRgmenu
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
cafe vlog | 개인카페 일상🍓수제딸기청으로 만든 딸기스무디, 딸기라떼
cafevlog 카페브이로그 koreacafe
Vlog เที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรก! กิน เที่ยว คาเฟ่ ครบ ! โนแพลนอีกแล้วจ้าทริปนี้ l Pureswan
ฝากช่องทางการติดตามกันไว้ด้วยน้า\r
\r
♡ Facebook Page : https://www.facebook.com/pureswann/\r
♡ Twitter : https://twitter.com/pureswann\r
♡ Instagram : https://www.instagram.com/pureskw/\r
\r
Contact for work : \r
• Tel : 0864953929 \r
• Line : summer_spm (คุณอิม) \r
• Email [email protected]
KOREA VLOG – Day 1 เที่ยวเกาหลีใต้ จะร้องไห้เพราะติดตม. l Giggle around the world
จะไปเริงร่าตามหาอปป้า แต่กลับต้องมาฝ่าตม.ตั้งแต่วันแรก!!!
คลิปนี้เป็นคลิปแรกที่เราตัดสินใจทำ Vlog นะคะ ดองไว้นานมากก เพราะเดินทาง 20 28 มกราคม 2561 แต่เพิ่งว่างมาตัด555 ตอนแรกแพลนกันว่าจะไปหาหนุ่มลาว สุดท้ายจับพลัดจับพลูมาหาอปป้าซะงั้น ไว้ไป Vlog หน้าละกันเนอะ สำหรับคลิปนี้อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง อะไรบ้าง ก็ขออภัยด้วยน้า //ไหว้ย่อ
สำหรับแพลนเที่ยวและวิธีการเดินทางคร่าวๆของวันแรกน้า
02.20 เดินทางไปเกาหลีจากสนามบินดอนเมือง
09:40 ถึงสนามบินอินชอน จากนั้นเราขึ้น airport railroad(arex) แบบธรรมดาที่จอดทุกสถานี จ่ายโดยบัตร tmoney ราคาประมาณ 4,000 วอน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการไปลงลงสถานีฮงอิก
จากนั้นเราออกจากสถานีฮงอิกแล้วหลงทางค่ะ55555 ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ เพราะตอนนั้นหอบกระเป๋า เหนื่อยมาก และหนาวมาก ถามทางทุกคนที่ผ่านหน้า ตั้งแต่อาจุมม่า ทหาร แท็กซี่ แต่ไม่มีใครรู้เลย จนไปเจอกับฝรั่งคนนึงที่เค้ากำลังจะไปที่พักของเราพอดี เค้าเลยเดินไปส่ง โชคดีมากก กว่าจะถึงที่พักก็เย็นแล้ว
19:00 ออกไปเดินเล่นฮงแด อันนี้ใช้วิธีเดินไปค่ะ เพราะที่พักอยู่ไม่ไกลจากฮงแด ก็ซื้อนั่นนี่ทานตามประสา ถือเป็นจบวัน ง่ายป่ะ5555
ถ้าดูแล้วชอบ ฝากกด subscribe, like, share ด้วยน้า หรือถ้ามีคำติชม ข้อเสนอแนะ หรือคำถามต่างๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ตม.เกาหลี อปป้า หรือจะเม้าท์เรื่องขิงข่า คอมเม้นไว้ด้านล่างเลยนะคะ จะกลับมาตอบแน่นอนจ้า รักกกก
YT channel : giggle around the world
IG : giggle.around.theworld
ติดตม เที่ยวเกาหลี
|Travel in Korea🇰🇷| เที่ยวเกาหลี งบ 20,000 บาท ไปกี่วัน? ได้หรอ? |Enjoice Enjoy|
ช่วงวงเรื่องค่าใช้จ่าย วงไม่ตรงนะคะ ขออภัยด้วยค่ะ ㅠㅠ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ แพลนเที่ยวเกาหลี