[NEW] 10 สำนวนเพื่อการบ่นงานหนักอย่างมีสไตล์ | ทํา งาน หนัก – Sonduongpaper

ทํา งาน หนัก: คุณกำลังดูกระทู้

ที่เหล็กและไฟมาเกี่ยวกับปริมาณงานก็เพราะสำนวน Too many irons in the fire มีที่มาจากโรงตีเหล็ก และ iron ที่ว่านี้คือ เหล็กที่นำไปเผาไฟก่อนตี หากนำเหล็กไปเผาหลายชิ้นเกินไป ก็จะตีไม่ทันนั่นเอง

โอ๊ย งานถั่งเทถาโถมดั่งสึนามิ จำนวนงานนับด้วยนิ้วมือไม่ครบแล้ว ต้องอดหลับอดนอนนั่งทำงานถึงดึกๆ ดื่นๆ พระอาทิตย์ไม่ขึ้นอีกรอบหยุดทำงานไม่ได้ ซัดเครื่องดื่มผสมกาเฟอีนเพื่อถ่างตาจนแทบลืมรสน้ำเปล่าไปแล้ว พระมหาชนกหยุดว่ายน้ำไม่ได้ฉันใด เราก็หยุดทำงานไม่ได้ฉันนั้น

ถ้างานเยอะขนาดนี้ จะให้บ่นแค่ I’m very busy. หรือ I’ve been working very hard. ก็คงไม่ได้อารมณ์ ไม่ยุติธรรมต่อหยาดเหงื่อแรงกายหรือความลำบากแสนเข็ญที่เราเผชิญ

สัปดาห์นี้เราจะไปดูกันว่า ภาษาอังกฤษมีสำนวนเก๋ๆ อะไรให้เราหยิบมาใช้บ่นเรื่องงานได้บ้าง

โอ๊ย งานเยอะเหลือเกิน

สำนวนนี้หมายถึง มีงานมากเกินพออยู่แล้ว อาจใช้ในกรณีที่ต้องการปฏิเสธงาน เช่น I’m afraid I’ll have to pass on this one. I’ve already got a lot on my plate. ก็จะหมายถึง งานนี้คงต้องขอผ่าน ผมมีงานล้นมืออยู่แล้ว หรือถ้าจะบอกว่า อย่าไปกวนเขาเลย แค่นี้เขาก็มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากพออยู่แล้ว ก็อาจพูดว่า Let’s not bother him. He’s got enough on his plate already.

ภาพของสำนวนนี้มาจากการกินอาหาร ถ้าในจานมีอาหารมากอยู่แล้ว ใครจะตักให้เพิ่มก็คงจะกินไม่ไหวนั่นเอง

 

สำนวนนี้ก็เป็นอีกสำนวนที่หมายถึง งานท่วมหัว ใช้เพื่อบอกว่ามีงานต้องสะสางอีกมากมาย เช่น I’m afraid I’m gonna have to bail on you guys. I’m still up to my eyes in work. ก็จะหมายถึง สงสัยต้องขอชิ่งนะ งานยังเหลืออีกตรึมเลย

ภาพของสำนวนนี้มาจากคำแปลตรงตัว ก็คือมีกองงานสุมกันสูงถึงลูกตาเลยทีเดียว ถ้าไม่พูดว่า up to my eyes in work ก็อาจจะพูดว่า up to my ears in work หรือมีงานกองสูงถึงหู ก็ได้เช่นกัน

โอ๊ย งานหลายอย่างไปไหน

สำนวนนี้หมายถึง ทำงานหลายอย่างเกินไป เช่น Please don’t say you’re taking on another project. You already have too many irons in the fire. ก็จะหมายถึงว่า อย่าบอกนะว่าจะรับโปรเจ็กต์เพิ่ม แค่นี้ก็ทำอยู่หลายอย่างเกินไปแล้วนะ

ที่เหล็กและไฟมาเกี่ยวกับปริมาณงานก็เพราะสำนวนนี้มีที่มาจากโรงตีเหล็ก iron ที่ว่านี้คือ เหล็กที่นำไปเผาไฟก่อนตี หากนำเหล็กไปเผาหลายชิ้นเกินไป ก็จะตีไม่ทันนั่นเอง

 

สำนวนนี้มีความหมายคล้ายสำนวนก่อนหน้า หมายถึง มีงานที่ต้องดูแลหลายพร้อมกันหลายงานเกินไป เช่น Years of keeping too many balls in the air have taken a toll on his health. หมายถึง การแบ่งร่างทำงานหลายอย่างเป็นเวลาหลายปีส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเขา

สำนวนนี้มีที่มาจากจำอวดที่โยนลูกบอลให้ลอยอยู่กลางอากาศหลายลูกพร้อมกันโดยไม่ตกพื้น ยิ่งลูกบอลมีจำนวนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเลี้ยงให้ไม่ตกถึงพื้นยากขึ้นเท่านั้น

 

สำนวนนี้เป็นอีกสำนวนที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกิน ใช้หมายถึง รับงานมาเกินความสามารถ ไม่ว่าจะเพราะรับงานปริมาณมากเกินไปหรืองานที่รับมายากเกินกว่าจะทำได้ ตัวอย่างเช่น I may have probably bit off more than I could chew when I decided to take on the project all by myself. ก็จะหมายความว่า สงสัยที่ตัดสินใจรับทำงานชิ้นนี้คนเดียวจะเกินตัวไป

ใครที่เป็นสายกินโหดก็อาจเคยประสบเหตุการณ์ที่เป็นที่มาของสำนวนนี้ เพราะหากแปลตรงๆ สำนวนนี้จะหมายถึง กัดอาหารเข้าปากเยอะเกินจนเคี้ยวไม่ไหว ถ้าไม่คายออกมาก็ต้องอมค้างไว้ในปากอย่างนั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเรื่องงานจึงหมายถึงรับงานเกินความสามารถของตัวเอง

 

สำนวนนี้ใช้เพื่อหมายถึง ทำงานหลายอย่างเกินไปจนดูแลไม่ทั่วถึง ทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพ เช่น Don’t spread yourself too thin. It’s better to focus on a few things and do them well. ก็จะหมายความว่า อย่าโลภทำงานหลายอย่างเกินไปแต่ทำได้ไม่ดีสักอย่าง เลือกทำไม่กี่อย่างแต่ทำให้ดีจะดีกว่า

See also  โรงพยาบาลธนบุรี : \"คัน\" ช่องคลอด ภัยเงียบในผู้หญิง | ปวดช่องคลอด

สำนวนนี้ให้ภาพเหมือนเวลาที่เรากำลังทาเนยลงบนขนมปัง ด้วยเนยปริมาณเท่ากัน หากยิ่งทาบนขนมปังแผ่นใหญ่ก็จะยิ่งทำให้เนื้อเนยบาง ยิ่งหากทาบนขนมปังแผ่นใหญ่มากๆ เข้าแล้วก็อาจทาได้ไม่ทั่วแผ่น กินเข้าไปก็ไม่อร่อยอีกเพราะแทบไม่เหลือรสเนยแล้ว

โอ๊ย ทำงานดึกดื่น

สำนวนนี้หมายถึง ทำงานจนถึงดึกดื่น เช่น The only way I can get this done is to burn the midnight oil. หมายถึง จะทำงานเสร็จได้มีวิธีเดียว คือต้องถ่างตาทำจนถึงดึกดื่น นอกจากจะใช้กับเรื่องการทำงานแล้ว สำนวนนี้จะใช้กับการเรียนหรือกิจกรรมอื่นก็ได้เช่นกัน

ที่น้ำมันมาเกี่ยวโยงกับการทำงานดึกๆ ดื่นๆ ได้ก็เพราะน้ำมันในที่นี้หมายถึง น้ำมันตะเกียง ที่ใช้กันก่อนที่จะมีหลอดไฟ ในสมัยนั้นถ้าจะทำงานหามรุ่งหามค่ำ ก็ต้องอาศัยไฟจากตะเกียงน้ำมัน จึงเรียกการทำงานดึกว่าเป็นการเผาน้ำมันตะเกียงนั่นเอง

 

สำนวนนี้ใช้พูดเพื่อบอกว่า คนคนนั้นยังหยุดทำงานไม่ได้ ยังมีงานมากมายต้องทำต่อไป เช่น Guess I’ll have to pull an all-nighter again. Well, there’s no rest for the wicked. หมายถึง ดูท่าแล้วสงสัยจะต้องโต้รุ่งอีกแล้ว คนมีกรรมก็ต้องก้มหน้าทำงานต่อไปเนอะ

สำนวนนี้มีที่มาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล เดิมทีหมายถึง คนบาปย่อมไม่ได้พบสันติสุขในชีวิต ต้องทรมานไปตลอดกาลในนรก แต่ภายหลังเริ่มนำมาใช้ติดตลกว่าที่ต้องทำงานหัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้นก็เพราะเป็นคนบาป อย่างที่ใช้กันในปัจจุบัน

 

สำนวนนี้หมายถึง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เช่น หากหมู่นี้เราตื่นแต่ไก่โห่แล้วทำงานจนถึงดึกดื่นเพื่อทำงานให้เสร็จทันเวลา ก็อาจพูดว่า I’ve been burning the candle at both ends trying to finish this project in time.

คำว่า end ในที่นี้หมายถึง ส่วนปลายของเทียน แรกเริ่มเดิมทีแล้วสำนวนนี้เคยหมายถึงการล้างผลาญหรือใช้ของสิ้นเปลือง ปกติแล้วคนโบราณจะใช้เทียนประหยัดเพราะเป็นของมีค่า หากจุดเทียนทีเดียวทั้งสองปลายก็ยิ่งทำให้เทียนหมดเร็วและถือเป็นการสิ้นเปลือง ภายหลังนำมาใช้ในความหมายทำนองว่า ใช้ชีวิตหรือสุขภาพสิ้นเปลืองเพราะโหมงานหนักนั่นเอง

โอ๊ย ทำงานหักโหมจนเจ็บไข้

สำนวนนี้หมายถึง ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหว เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา เช่น หากเราจะเตือนเพื่อน (หรือตัวเอง) ว่าถ้าไม่หลับไม่นอนร่างกายจะไม่ไหวเอา ก็อาจจะพูดว่า If you keep going without sleep like this, you’ll . ก็จะหมายถึง ถ้าขืนทำงานไม่หลับไม่นอนแบบนี้ เดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ

สำนวนนอกจากจะพูดว่า run myself into the ground จะใช้กริยา work หรือ drive แทนก็ได้ ให้ภาพเหมือนของที่ถูกใช้งานหนักหรือรับแรงกดดันมากจนมีส่วนที่ถูกกดจมลงไปในดิน

บรรณานุกรม

  • Ammer, Christine.

    . Houghton Mifflin Harcourt: New York, 2013.

  • Ayto, John.

    . OUP: Oxford, 2009.

  • Brenner, Gail.

    . Wiley Publishing: Indianapolis, 2003.

  • Gulland, Daphne M., and Hinds-Howell, David.

    . Penguin Books: London, 2002.

  • Jack, Albert.

    . Metro Publishing: London, 2004.

  • Shorter Oxford English Dictionary

  • Speake, Jennifer.

    . Oxford University Press: Oxford, 2008.

Fact Box

ในภาษาอังกฤษมีสุภาษิตว่า All work and no play makes Jack a dull boy. หมายถึง คนที่ทำแต่งาน ไม่มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ จะกลายเป็นคนที่น่าเบื่อ ไร้ประกาย เพราะไม่ได้ไปพบเจออะไรใหม่ที่หล่อหลอมให้เป็นคนที่น่าสนใจ

,

Tags:

[Update] งานหนักไม่เคยฆ่าคน(จีน)? การทำงานแบบ 996 ทำหามรุ่งหามค่ำ หามตัวเองไปโรงพยาบาล | ทํา งาน หนัก – Sonduongpaper

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นการทำงานของคนจีนในรูปแบบ ‘996’  หรือการทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม และทำติดต่อกัน 6 วันต่อสัปดาห์ กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้างทางโลกออนไลน์ทั้งในและนอกประเทศจีน โดยมีสาเหตุมาจากโปรแกรมเมอร์และคนจีนที่ทำงานในสายเทคโนโลยี-ไอทีออกมารวมกลุ่มกันต่อต้านการทำงานแบบ 996 ซึ่งพวกเขามองว่า เป็นการทำงานที่หนักจนเกินไป (ตามกฎหมายแรงงานจีน ชั่วโมงการทำงานตามมาตรฐาน คือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) และเป็นไปได้ว่าสุดท้ายจะไปจบที่ห้อง ICU ในโรงพยาบาล มิหนำซ้ำส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินล่วงเวลาการทำงานอีก

โปรแกรมเมอร์และคนงานสายเทคโนโลยี-ไอทีก็ทำแคมเปญต่อต้านที่ดูไอที้ไอที คือสร้างโปรเจกต์บน GitHub (แหล่งฝากไฟล์งานโปรเจกต์สายไอทีที่นิยมใช้มากที่สุดแห่งหนึ่ง) ใช้ชื่อว่า 996.icu

สิ่งที่อยู่บน 996.icu ไม่ได้เป็นไฟล์ซอร์ซโค้ดของโปรแกรม หรือแอพพลิเคชั่นใดๆ ทว่าเต็มไปด้วยเนื้อหาตีแผ่ประสบการณ์การทำงานหนักหน่วงแสนของรูปแบบ 996 รวมถึงมีการเผยรายชื่อบัญชีดำ เป็นชื่อบริษัทที่ให้พนักงานทำงานในรูปแบบนี้  ซึ่งจะนำไปสู่กระแสร้อนแรงในเวลาต่อมา  เนื่องจากบริษัทไอทีชั้นนำของจีนติดอยู่ในโผนี้แทบทั้งสิ้น อย่างเช่น Alibabaของแจ็ก หม่า, JD.com, Huawei และ Pinduoduo แพลตฟอร์ม E-commerce น้องใหม่มาแรง แหล่งรวมคนทำงานหนักแบบโนโอที

See also  ทรรศนะมวยเด็ด2ตัวกลับบ้านพร้อมซิกหน้าตู้ช่อง7+ช่อง25และช่อง34อาทิตย์22 กันยายน2562 | ซิก หน้า ตู้

เมื่อ Alibaba โดนกล่าวถึง มีหรือแจ็ก หม่าจะอยู่นิ่ง  เขาได้แสดงความคิดเห็นผ่าน Weibo โซเชียลมีเดียจีนชื่อด้วยบัญชีส่วนตัวของเขาเอง โดยมีใจความสำคัญว่า “การทำงานแบบ 996 นั้นช่วยทำให้เราประสบความสำเร็จ  มันถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำ และถ้าใครที่อยากทำงานกับ Alibaba เขาเหล่านั้นต้องทำงานอย่างน้อยวันละ 12 ชั่วโมง  ถ้าไม่ทำงานแบบ 996 ตั้งแต่ตอนยังอายุน้อยๆ แล้วจะไปทำตอนไหน จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?” แจ็ก หม่ายังย้ำอีกว่า การทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้  ดูจาก Alibaba ของเขาสิ เขาประสบความสำเร็จเพราะเขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงาน

โพสต์นี้บน Weibo ถูกแชร์และมีการแสดงความคิดเห็นอย่างมากทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ แต่เท่าที่ดูจะหนักไปทางเชิงลบมากกว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อยแสดงความคิดเห็นว่า “คนที่ทำงานหนักแล้วรวย ก็มีแต่เจ้าของธุรกิจอย่างแจ็คหม่าเท่านั้น”

หลังจากมีกระแสเชิงลบต่อความคิดเห็นของเขา  แจ็ก หม่าจึงออกมาโพสต์ลงบน Weibo ส่วนตัวอีกครั้ง โดยอธิบายให้ชัดเจนขึ้นว่า “ผมไม่ได้กำลังปกป้องวัฒนธรรมการทำงาน 996  แต่สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ หากคุณมีความรักในงานที่คุณทำ การทำงานวันละ 12 ชั่วโมง  ติดต่อกัน 6 วัน  มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย  มันยิ่งจะทำให้คุณประสบความสำเร็จเสียด้วยซ้ำ  แต่ถ้าคุณไม่ได้รักงานนั้น คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำงานแบบนั้น เพราะไม่มีทางสำเร็จ  อีกอย่างหนึ่งคือ บริษัทของเราไม่ได้บังคับให้ใครต้องทำงานในรูปแบบนี้นะ”

ในขณะที่ ริชาร์ด หลิว ผู้ก่อตั้ง JD.com  อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน E-commerce ของจีน ก็แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “ในช่วงเวลาสี่ห้าปีมานี้ บริษัทของเราเติบโตอย่างรวดเร็ว เราไม่ได้มีการบริหารจัดสรรพนักงานเท่าไหร่นัก บริษัทของเราเติบโตเรื่อยๆ ลูกค้าของเราก็เช่นกัน แต่ในขณะที่คนทำงานที่ทุ่มเทให้กับงานจริงๆ ลดน้อยลง คนขี้เกียจ หรือ slacker กลับเพิ่มมากขึ้น และเราไม่ถือว่าพวก slacker คือพี่น้องของเรา”  โดยกลุ่มคนที่ริชาร์ด หลิว ยกย่องว่าเป็นพี่น้อง เป็นคนทุ่มเทให้กับงาน ก็คือกลุ่มคนที่ทำงานในรูปแบบ 996

สื่อใหญ่ในจีนอย่าง GlobalTimes ยังออกบทความ ‘996’ overtime schedule can help India catch up with China  สนับสนุนการทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน 6 วันต่อสัปดาห์ โดยในบทความกล่าวว่า การทำงานเช่นนี้ทำให้ประเทศจีนพัฒนา และประเทศอื่นสามารถเอาเยี่ยงย่างได้ โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่ตอนนี้แบนสินค้าจากจีน

นอกเหนือจากประสบการณ์ทำงานหนักตามวัฒนธรรม 996  และรายชื่อบริษัทที่มีการทำงานแบบนี้ บน Github 996.icu  เหล่าผู้ต่อต้านยังได้ลงรายละเอียดเบื้องต้นด้านกฎหมายแรงงานจีน ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตให้ทำงานวันละไม่เกิน 8 ชั่วโมง รวมทั้งสัปดาห์ไม่เกิน 40 ชั่วโมง ถ้าหากจะทำงานล่วงเวลา ทำได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อเดือน พร้อมจ่ายค่าล่วงเวลา 150% หรือ 1.5 เท่าของเงินเดือน โดยเมื่อรวมชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาแล้ว จะต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

เมื่อดูจากกฎหมายแรงงานจีนข้างต้นจะเห็นว่า การทำงาน 996  9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม และทำ 6 วันต่อสัปดาห์ จะมีชั่วโมงการทำงานเท่ากับ 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  เกินจากที่ในกฎหมายระบุไปมาก แต่ดูเหมือนว่าจะมีรายละเอียดเชิงลึกของระเบียบการทำงานในจีนที่ทำให้หลายบริษัทมีชั่วโมงการทำงานที่เกินได้  และทำกันเป็นปกติจนกลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของการทำงานไปแล้ว

ไม่ใช่มีเพียงคนสายงานไอทีในจีนเท่านั้นที่ทำงานหนักจนออกมาต่อต้าน รายงานของ GlobalTimes บอกอีกว่าคนที่ทำงานในสายอสังหาริมทรัพย์ และงานบริการก็จัดอยู่ในกลุ่มทำงานหนักที่มีชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 49-51.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เหมือนกัน

งานหนักไม่เคยฆ่าคนจริงหรือ? ไปดูสถิติที่แท้จริงจากแดนมังกรกัน

สื่อจีน BeijingHour มีการเผยสถิติออกมาว่า  ปัจจุบันประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่ประชากรเสียชีวิตจากการทำงานหนักมากที่สุด ด้วยจำนวนกว่า 600,000คนต่อปี แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มากกว่า 50% ของคนจีน เวลางานจะไม่มีการขยับตัวหรือรีแล็กซ์ใดๆ มากกว่า 67% ของคนจีน จะทำงานล่วงเวลามากกว่ากว่า 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มากกว่า 57% ของคนจีน ทำงานล่วงเวลาและมีเวลานอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน มีเพียง 20% ที่พึงพอใจสภาพแวดล้อมการทำงานของตน คนทำงานสายไอที อิเล็กทรอนิกส์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง มีชั่วโมงทำงานเฉลี่ยสูงสุด คือ 9.3 ชั่วโมงต่อวัน คนจีนที่เสียชีวิตจากการทำงานหนัก มีอายุเฉลี่ย 44 ปี โดยกลุ่มคนทำงานสายไอที แพทย์ สื่อมวลชน และโฆษณาเป็นกลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุด โรคที่เป็นกันมากในหมู่คนจีนที่ทำงานหนัก ได้แก่ ท้องผูก แขนขาไม่มีแรง ปวดหลัง โรคเครียด-ปัญหาทางจิตใจ มึนหัว-ปวดหัว เป็นที่ทราบกันดีครับว่าที่เมืองจีน คนจีนทำงานกันหนักหามรุ่งหามค่ำจริงๆ ไม่เว้นแต่นักศึกษา อย่างสมัยที่ผู้เขียนเรียนปริญญาโทที่ประเทศจีนก็ต้องมีการเข้าแล็บตามเวลา เวลาเข้าแล็บคือ 8.30-22.00 น. มีเวลาพักกลางวัน 3 ชั่วโมง และตอนเย็น 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่แต่ในแล็บตลอด บางคนนอนในแล็บก็มี แม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม

สาเหตุที่คนจีนทำงานหนักคงหนีไม่พ้นแรงกดดันและการแข่งขันที่สูง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ตัวผู้เขียนเคยมีประสบการณ์เข้าไปในโรงพยาบาลจีน เลยทำให้รู้ว่ามีคนจีนเป็นโรคเครียดและมาพบจิตแพทย์จำนวนมาก และหนึ่งในสาเหตุของความเครียดก็มาจากการทำงานนี่แหละ

มหาวิทยาลัย Inner Mongolia university  ของจีน เผยผลการวิจัยเกี่ยวกับการทำงานล่วงเวลาของคนจีน ที่สอดคล้องกับผลสำรวจที่พูดถึงไปก่อนหน้าเช่นกัน ผลการศึกษาบอกว่า 42% ของพนักงานในจีนในทุกสาขาจะทำงานล่วงเวลา มีชั่วโมงการทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะแรงงานที่ได้รับค่าแรงต่ำ-การศึกษาไม่สูง  แรงงานเหล่านี้จะต้องทนทำงานอย่างหนัก คิดเป็นร้อยละ 58.8 ของกลุ่มตัวอย่างที่วัดจาก 30,591 คน ใน 29 มณฑลของจีน

สาเหตุหลักที่ทำให้คนจีนเหล่านี้ต้องทำงานล่วงเวลาแม้จะรู้ว่าหนักเกินไปมาจากความไม่มั่นใจในอนาคตของตนเอง

คนจีนรู้ดีว่าประเทศตัวเองมีประชากรเยอะ  การแข่งขันในตลาดแรงงานนับว่าสูงมาก มีคนพร้อมที่จะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งงานของตนเองตลอดเวลา ขนาดที่ว่าถ้าดูจากข้อมูลของ Mafengwo แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ของจีน เวลาไปเที่ยวในช่วงวันหยุดหรือลาพักร้อน 88% ของคนเหล่านี้ก็ยังต้องทำงานไปด้วย

See also  ประกันบูพา ดีไหม ธนาคารอาคารออมสิน | บู พา ประกัน กลุ่ม

ร่างกายคนเราไม่มีอะไหล่เปลี่ยน ถึงแม้เงินทองจะสำคัญ แต่ถ้าสุขภาพไม่ดี เงินทองที่หามาได้ก็ต้องนำมาใช้จ่ายรักษาโรคจนหมด ดังนั้นทุ่มเททำงานได้ แต่อย่าลืมรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายด้วยนะครับ

Illustration by Kodchakorn Thammachart


Study Music ฟังแล้วตั้งใจทำงาน อ่านหนังสือ เพิ่ม 500% ด้วยคลื่นเสียง Alpha Waves ผ่อนคลาย คลายเครียด


คลื่นเสียงนี้ทำโดยนักจิตบำบัด ในประเทศสหรัฐอเมริกา คลื่นเสียง Alpha Wave คือคลื่นเสียงที่มีความถี่ระหว่าง ประมาณ 714 รอบต่อวินาที เวลาที่ความถี่น้อยลง หมายถึงว่า เราจะคิดช้าลง เป็นจังหวะ เป็นท่วงทำนอง คมชัด ให้เวลาแก่จิตในการไตร่ตรองและมีความคิดเป็นระบบขึ้น สภาวะที่สมองทำงานอยู่ในคลื่นอัลฟ่ายังพบอยู่ในหลายๆ รูปแบบ เช่น ขณะที่กล้ามเนื้อหรือร่างกายผ่อนคลาย ช่วงเวลาที่ง่วงนอน ก่อนหลับหรือหลับใหม่ๆ เวลาทำอะไรเพลินๆ จนลืมสิ่งรอบๆ ตัว เวลาสบายใจ เวลาอ่านหนังสือหรือจดจ่อกับกิจกรรมใด ๆ อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง และการเข้าสมาธิในระดับภวังค์ที่ไม่ลึกมาก
โดยหากจะตั้งโปรแกรมจิตใต้สำนึกก็ควรทำในช่วงที่คลื่นสมองเป็นอัลฟ่า ในคนทั่วไปเองก็ควรฝึกฝนตนเองให้สมองทำงานอยู่ในช่วงคลื่นอัลฟ่าเป็นประจำเช่นเดียวกัน เพราะจะช่วยสร้างความผ่อนคลาย ร่างกายจะไม่ทำงานอยู่บนฐานแห่งความกลัวหรือวิตกกังวล แต่จะมองชีวิตอย่างสนุกสนาน มีความรู้สึกอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรืออยากสำรวจโลกแบบเด็ก ๆ แต่คนส่วนใหญ่มักจะขาดการฝึกฝนให้ตนเองมีคลื่นสมองชนิดนี้ และมักปล่อยให้อารมณ์อัตโนมัติตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ขาดการคิดใคร่ครวญด้วยระยะเวลาอันเหมาะสมก่อน หากเรามีการฝึกฝนจิตให้ตื่นรู้เช่นเดียวกันกับแนวทางการปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา คลื่นอัลฟ่านี้จะถูกบ่มเพาะให้เข้มแข็งขึ้น สามารถรื้อโปรแกรมอัตโนมัติเก่า สร้างโปรแกรมอัตโนมัติใหม่ ๆ ได้
หากชื่นชอบและอยากสนับสนุนช่องของเรา คุณสามารถเลี้ยงกาแฟเราได้นะคะ
เราจะได้ตาสว่างยันเช้าเพื่อทำเพลงให้พวกคุณได้นอนหลับสบาย ^^
เลี้ยงกาแฟเราได้ที่นี่ค่ะ https://www.buymeacoffee.com/KateVP
ที่มา
http://www.jaisabuy.com/index.php?lay=show\u0026ac=article\u0026Id=5385708\u0026Ntype=1
Copyrights
Meditate and Create, LLC
Commercial Rights License
เพลงเพิ่มสมาธิ เพลงอ่านหนังสือ เพลงกล่อมนอน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Study Music ฟังแล้วตั้งใจทำงาน อ่านหนังสือ เพิ่ม 500% ด้วยคลื่นเสียง Alpha Waves ผ่อนคลาย คลายเครียด

Money6Pack Live : ทำงานหนักแล้วจะรวยจริงหรือ !?!


ผมเคยเข้าใจผิดมาก่อนว่าต้องขยัน
แต่ขยันดีครับ แต่ขยันผิดที่ 10ปีก็ไม่รวย 555+
ฝากกดติดตามกันด้วยนะฮะ
มีคลิปดีๆที่จะส่งให้คุณถึงบ้าน
เพื่อพัฒนาการเงินของตัวเองให้ปังกว่าเดิมครับ

สอบถามรายละเอียด

ต้องการสนับสนุนช่องของเรา
สอบถามเกี่ยวกับโปรแกรมสัมมนาของเรา

ได้ทางช่องทางนี้

FaceBook : https://www.facebook.com/money6pack/
[email protected] ID : https://line.me/R/ti/p/%40money6pack
Twitter : https://twitter.com/money6pack
Instagram : https://www.instagram.com/money6pack/
YouTube : https://www.youtube.com/Money6Pack

Money6Pack Live : ทำงานหนักแล้วจะรวยจริงหรือ !?!

ปล่อยวาง19+20+2ธรรมะก่อนนอน ธรรมะสอนใจธรรมะเตือนสติได้ข้อคิดดีมากๆฟังแล้วสุขใจคลายกังวลคลายเครียดได้


คำสอนพระพุทธเจ้า สมเด็จองค์ปฐม ปล่อยวาง19+20+2
รวมปล่อยวางทั้งหมดhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLp2EpsMb_RLHhkWq8WHpijd7s69X3Ofu
ปล่อยวางรวม2ตอนทั้งหมดhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLp2EpsMb_RLHSnulAmTVaPdv75y3epU
ปล่อยวาง2

ปล่อยวาง19+20+2ธรรมะก่อนนอน ธรรมะสอนใจธรรมะเตือนสติได้ข้อคิดดีมากๆฟังแล้วสุขใจคลายกังวลคลายเครียดได้

ใครที่ท้อแท้กับการทำงาน คลิกดูคลิปนี้


ท้อแท้.. เบื่องาน.. เบื่อที่ทำงาน.. เกลียดวันจันทร์..
ทำไมงานหนักอย่างนี้.. ทำงานไปเพื่ออะไร..
ทำงานเยอะขนาดนี้จะมีใครเห็นใจบ้าง.. ไม่มีใครเข้าใจเราเลย..
หากคุณเคยมีความคิดเหล่านี้ในหัว ลองดูคลิปนี้แล้วคุณจะรู้ว่า
..มีคนคนหนึ่งที่ทำงานหนักอย่างไม่ย้อท้อ
ทำงานด้วยความเต็มใจ ทำงานในทุกๆที่
ทำงานโดยไม่เลือกว่างานนั้นจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ..ดูให้จบแล้วคุณจะรู้ว่าคนคนนั้นคือใคร
ร่วมลงนามถวายพระพรได้ที่ http://www.iwilldoforking.com

ใครที่ท้อแท้กับการทำงาน คลิกดูคลิปนี้

สรุป 4 วิธี ใช้สมองดึงดูดความมั่งคั่ง | Bundit Ungrangsee


==============================
▼ พูดคุยกับผมได้ที่นี่
► LINE OA :: http://line.me/ti/p/%40mdl4971x
► Facebook :: m.me/BunditUngrangsee
==============================
▼ ติดตามความรู้ใหม่ๆได้ที่นี่
► Youtube :: https://bit.ly/3Dg5OgI
► Facebook :: https://bit.ly/38aH1MD
► Instagram :: https://bit.ly/3yiWKDY
► Website :: http://bundit.org/
► LINE OA :: http://line.me/ti/p/%40mdl4971x
==============================
▼ สนใจผลงาน ในรูปแบบต่างๆ
► หนังสือ (Books) :: https://bit.ly/3gvzYmx
► หนังสือเสียง (Audio books) :: https://bit.ly/3gON6mX
► ดนตรี (Music) :: https://bit.ly/3D9NTs5
► คอร์สสัมมนา (Grand Box Set) ในรูปแบบ VDO :: https://bit.ly/3jeNfBJ
► ฟังความรู้ออนไลน์ (iAudio course) :: http://online.bundit.org/
► คอร์สเรียนออนไลน์ (iSeminar) :: https://bit.ly/3zk663J
► Website :: http://bundit.org/
==============================
▼ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
TEL\u0026LINE ID : 0990031550 คุณน้ำ
TEL\u0026LINE ID : 0613898855 คุณพิตต้า
TEL\u0026LINE ID : 0982501221 คุณหญิง
==============================

สรุป 4 วิธี ใช้สมองดึงดูดความมั่งคั่ง | Bundit Ungrangsee

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ทํา งาน หนัก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *