ภาวะผู้นำ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
10 ลักษณะของคนที่มีภาวะการเป็นผู้นำ มาเช็คดูว่าคุณมีทั้งหมดกี่ข้อ
By: unlockmen June 9, 2015
ไม่ว่าใครก็อยากเป็นใหญ่เป็นโต ตาสีตาสาก็อยากมีอำนาจอยู่ในมือ ทว่าอำนาจและความเป็นใหญ่นั้นไม่ได้ได้มาจากการถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่ง หรือมาจากการจับฉลากรางวัลประจำปี แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากความตั้งใจ การแสดงศักยภาพของตัวคุณเอง และการปรับเปลี่ยนระบบความคิด หรือ mindset ของตัวเรา แค่ปรับเพียงเล็กน้อยโอกาสที่ยิ่งใหญ่อาจจะกองรออยู่ตรงหน้า
แล้วจะทำอย่างไรถึงจะก้าวเข้าไปเป็นผู้นำที่ดีได้ วันนี้ UNLOCKMEN นำลักษณะของคนที่มีภาวะการเป็นผู้นำมาฝากอ่าน แล้วลองกลับมามองตัวเองว่าคุณมีสักกี่ข้อที่เข้าข่ายคนที่จะก้าวเข้าไปสู่การเป็นผู้นำแถวหน้าได้บ้าง หรือถ้าหากไม่มี คุณจะได้เตรียมตัว และปรับเปลี่ยนความคิดบางอย่างเพื่อผลดีต่อตัวคุณเอง
1. คุณจะใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นผู้นำ หรือผู้ตาม หากคุณปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ใครจะอยากร่วมงานกับคุณจริงไหม ต่อให้คุณเป็นแม่ค้า เป็นลูกจ้าง การก้าวหน้าในอาชีพของตน ล้วนต้องอาศัย logic ที่พึงมีทั้งสิ้น คุณจำเป็นต้องมีหลักการ มีเหตุผล เพื่อนำมาลบล้างกับความรู้สึกโกรธ หรืออารมณ์เหวี่ยงที่ตนมี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มาจากประสบการณ์และการหาความรู้เพิ่มเติม ถ้าคุณสามารถนำเหตุผลมาอยู่เหนืออารมณ์ได้แล้ว ไม่ว่าจะทำงานในสายอาชีพอะไร ก็สามารถก้าวหน้าได้ไม่ยาก
2. คุณมักเริ่มต้นจากคำว่า “ทำไม”
ทำไมนกถึงโบยบินบนท้องฟ้าได้ แล้วมนุษย์สามารถขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าได้หรือเปล่า ทำไมถึงมีแต่โลกเท่านั้นที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ดาวดวงอื่นๆ เราสามารถไปอยู่อาศัยได้หรือเปล่า คำถามเหล่านี้ ล้วนตั้งขึ้นเพื่อหาคำตอบทั้งสิ้น การเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ ด้วยคำว่าทำไม และสิ่งต่างๆ ที่ถูกตั้งคำถามเหล่านี้ก็กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ
ไซม่อน ซิกเนก นักเขียน Best Seller จากหนังสือ Start With Why ได้อธิบายไว้ว่า ผู้คนไม่ได้สนใจว่าคุณทำอะไร แต่พวกเขาสนใจว่าคุณทำทำไมมากกว่า ดังนั้นผู้นำที่ดีก็คือคนที่ตั้งคำถาม และอยากจะหาคำตอบให้กับตัวเอง สำคัญคือมันสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกสิ่งที่คุณเผชิญ อย่างทำไมเขาถึงไม่รักเรานะ อืม อาจเพราะเราดีไม่พอ ไม่ต้องไปถามเพื่อให้เขาตอบ แต่คุณควรถามเพื่อให้ตัวเองตอบคำถามนี้ให้ได้ แล้วคุณจะไม่กลายเป็นคนที่ฟุ้งซ่านแน่นอน
3. คิดนอกกรอบเสมอ
คำว่าคิดนอกกรอบ ไม่ได้แปลว่าคุณต้องฉีกกฎทุกอย่างทั้งที่ไม่รู้ว่ากรอบเหล่านั้นมีอะไรบ้าง บางคนมักจะนำคำนี้ไปใช้โดยที่ตัวเขายังไม่เข้าใจเลยว่า การอยู่ในกรอบนั้นเป็นอย่างไร แล้วมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เรายังอยู่ในกรอบแห่งนี้ เมื่อเข้าใจกรอบนี้ดีแล้ว คุณจะสามารถก้าวออกไปนอกกรอบได้อย่างสง่างาม และสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นได้ ก่อนจะออกนอกกรอบ ต้องเข้าใจกรอบนี้ให้ดีก่อนเป็นดี เพราะผู้นำระดับโลกหลายคน เขาก็เริ่มต้นจากการอยู่ในกรอบ แล้วค่อยก้าวออกไปจากกรอบนี้นั่นเอ
4. คุณเป็นผู้ตามที่ดีเยี่ยม
อ่านถึงข้อนี้อาจจะงงๆ ว่า ภาวะการเป็นผู้นำสูง เกี่ยวข้องอะไรกับการเป็นผู้ตาม โรเบิร์ต เคลลี่ ผู้เขียน The Power of Followership ได้บอกไว้ว่า ผู้ตามที่ดีจะมีความคิดที่ตรงข้ามกับเรา เพราะผู้ตามที่ดีเขาไม่ใช่คนที่จะ Say “Yes” ให้กับทุกอย่าง แต่จะเป็นคนที่กระฉับกระเฉง และมีไอเดียใหม่ๆ ให้กับผู้นำเสมอ และผู้ตามที่ดีจะสามารถพรีเซ้นต์ทุกอย่างได้แม้ขาดผู้นำไป ลองเริ่มต้นเป็นผู้ตามที่ดีก่อน อย่าคิดว่าต้องทำงานไปวันๆ รอรับเงินเดือน แต่ให้ทำอย่างเต็มที่ แสดงศักยภาพที่คุณมีออกมา เอ้า! ลุยดิ
5. ฟังมากกว่าพูด
คนที่รู้มาก ก็เกิดจากการฟังที่มากกว่าคนอื่น ผู้นำในโลกธุรกิจส่วนใหญ่ต่างมีลักษณะพื้นฐานคือการเป็นผู้ฟังที่ดีทั้งสิ้น การฟังเป็นการเก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆ มาสั่งสมพอกพูน และใช้ logic ของตนในการตัดสินวิเคราะห์ให้กลายเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ที่ตนมี หากคุณฟังคู่แข่งมาก คุณก็จะรู้ได้ไม่ยากเลย ว่าเขามีจุดด้อย จุดเด่นอะไรบ้าง และนี่คือสิ่งสำคัญที่คุณจะนำมาปรับปรุงผลงานของตนให้ก้าวหน้า
6. คุณสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยุคนี้ใครๆ ก็เล่น Social Media จริงไหม ไม่ว่าจะเป็น facebook twitter หรือ instagram เราต่างเห็นจุดบอดของมันคือ การที่ผู้รับสารตีความผิดพลาด และสาเหตุหลักๆ ก็คือการส่งสารที่ผิดพลาดของผู้เขียนเอง คนที่จะเป็นผู้นำได้ดี คือคนที่สามารถอุดจุดบอดนี้ได้ เพราะผู้นำจำเป็นจะต้องสื่อสารกับคนหมู่มาก ถ้าการสื่อสารของคุณผิดพลาด คนที่รับคำสั่งจากคุณไป ก็คงไม่สามารถทำงานตอบโจทย์คุณได้
ปีเตอร์ อีโคโนมี่ ผู้เขียน Managing for Dummies ได้พูดถึงหลักการหนึ่งของการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพไว้ว่าให้คำนึงถึง 7 C ได้แก่ Clear (ชัดเจน), Consistent(สอดคล้อง), Credible (น่าเชื่อถือ) , Confident (มั่นใจ) , Civil (สุภาพ) , Concise (กระชับ) และ Compassionate (มีความเห็นอกเห็นใจ) ถ้าคุณสามารถพูด สื่อสาร ด้วยการคำนึงถึง 7C นี้ได้ การก้าวขึ้นเป็นผู้นำอย่างมีประสิทธิภาพ และมีคนนับหน้าถือตาย่อมเป็นเรื่องง่าย
7. คุณไม่เคยลืมที่จะพัฒนาคนที่อยู่ข้างหลัง
เคยสังเกตไหมว่าเจ้าพ่อในหนังมาเฟีย เขาสามารถคุมลูกน้องให้อยู่ในกำมือได้อย่างไร เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะเขาไม่ลืมที่จะพาลูกน้องก้าวขึ้นไปสู่ระดับแถวหน้าพร้อมๆ กัน การที่คุณทำงานและคำนึงถึงทุกคนที่อยู่ในทีม นอกจากผลงานจะก้าวหน้าแล้ว ทุกคนยังเติบโต และสามารถพัฒนาธุรกิจและองค์กรให้ก้าวไปได้ ผู้นำที่ดี จะไม่ทิ้งคนที่อยู่ข้างหลัง เพราะต่อให้คุณมีอำนาจ มีเงินทอง และมีความสามารถ คุณก็ต้องอาศัยศักยภาพ และบริหารคนให้เป็นอยู่ดี
8. คุณชอบที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งอย่าง
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะไหนในองค์กร การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ใครสอนอะไรพร้อมที่จะเปิดใจรับ และเรียนรู้มันเสมอ การอ่านหนังสือก็เป็นสิ่งจำเป็น เราสามารถเรียนรู้ข้อผิดพลาด และความสำเร็จของคนอื่นได้จากการอ่าน และการฟังประสบการณ์ที่เขาเหล่านั้นนำมาแบ่งปัน เห็นไหมว่าแต่ละข้อจะเชื่อมโยงกันไปมา
9. โฟกัสไปที่การแก้ปัญหา มากกว่าการจมอยู่กับปัญหา
การจะก้าวข้ามผ่านไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้นั้น ไม่ใช่การนอนจมกับกองของปัญหาต่างๆ แต่คือการลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับปัญหา และแก้ไขมันให้ถึงที่สุด ปลดล็อคปัญหาไปทีละข้อ ไม่ยอมแพ้ และโยนทิ้งมันกลางทาง วันนี้คุณยอมแพ้ ครั้งหน้าคุณก็จะติดนิสัยยอมแพ้มันเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่เราจะชนะล่ะ จริงไหม
10. คุณไม่กลัวที่จะทำการใหญ่ และไม่กลัวที่จะเป็นฝ่ายตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ
สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจ ผู้นำคือคนที่ต้องทำการใหญ่ มองขาด และตัดสินได้ว่า สิ่งเหล่านั้นควรเป็นไปในทิศทางไหน รวมถึงเป็นคนที่จะรับผิดชอบในการตัดสินใจของตน คุณต้องขจัดความกลัวที่คุณมีให้สิ้น ถ้าคุณอยากก้าวหน้า และเป็นผู้นำได้ ข้อนี้รวมไปถึงเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นนายตัวเอง หรืออยากมีกิจการด้วยนะ จำเป็นต้องอาศัยภาวะการเป็นผู้นำทั้งสิ้น
เป็นอย่างไรบ้าง พอจะมีสักข้อไหมที่ตรงกับคุณ อาจจะมีสักข้อ หรือสองข้อ แต่นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดี หนึ่งข้อก็สามารถนำมาซึ่งสองข้อได้ไม่ยาก แค่ปรับระบบความคิดบางอย่าง เปิดใจ และกล้าที่จะเปลี่ยนจากสิ่งที่ตนเป็น ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า การพัฒนาศักยภาพของตัวเองไม่มีวันหมด แต่ไฟที่คุณมีอาจจะหมดได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองซะตั้งแต่วันนี้ดีไหม
ภาพ cover : หนังเรื่อง Nameless Gangster: Rules of the Time
[NEW] ภาวะผู้นำ Leadership ความเป็นผู้นำ ทฤษฎีภาวะผู้นำ คุณสมบัติของผู้นำ ภาวะผู้นำหมายถึง | ภาวะผู้นำ – Sonduongpaper
การศึกษาภาวะผู้นำอย่างมีระบบได้ดำเนินการต่อเนื่องมาร่วมร้อยปี เกิดมุมมองและความเชื่อต่าง ๆ ที่พัฒนามาเป็นทฤษฎีภาวะผู้นำ จำนวนมากมาย ในที่นี้จะแบ่งเป็นกลุ่มทฤษฎีและยกมาเป็นตัวอย่างเพียงบางทฤษฎี เริ่มด้วยทฤษฎีคุณลักษณะของผู้นำ กลุ่มทฤษฎีเชิงพฤติกรรม ตัวอย่างบางทฤษฎีเชิงสถานการณ์ ทฤษฎีผู้นำเชิงวีรบุรุษ หรือภาวะผู้นำใหม่โดยเสน่หาบางทฤษฎี และประเด็นที่เป็นแนวโน้ม ที่เกี่ยวกับภาวะผู้นำในอนาคต
ความหมายของภาวะผู้นำ
มีคำสำคัญอยู่ 2 คำที่จำเป็นต้องเข้าใจในเริ่มแรก ก็คือคำว่า “leadership” ซึ่งมักเรียกว่า “ภาวะผู้นำ” หรือ “การเป็นผู้นำ” กับอีกคำหนึ่งคือ “Management” ซึ่งเรียกว่า “การบริหาร” หรือ “การบริหารจัดการ” ทั้งสองคำ มีความหมายแตกต่างกัน โดยมีนักวิชาการคนสำคัญให้ทัศนะไว้ ดังนี้
คอตเตอร์ (Kotter, 1999) แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวไว้ว่า การบริหารจัดการ (Management) หมายถึง ความสามารถ ในการเผชิญ กับสถานการณ์ที่สลับซับซ้อนได้ การบริหาร จัดการที่ดีทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในแง่ มีแผนงานที่เป็น ทางการ มีโครงสร้างขององค์การ ที่แน่นอนชัดเจน และมีการกำกับดูแลให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผน ส่วนภาวะผู้นำหมายถึง ความสามารถในการเผชิญกับภาวะการเปลี่ยนแปลงได้ โดยมีผู้นำเป็นผู้สร้างวิสัยทัศน์ให้เป็น ตัวกำกับ ทิศทาง ขององค์การในอนาคต จากนั้นจึงจัดวางคนพร้อมทั้งสื่อความหมายให้เข้าใจ วิสัยทัศน์และ สร้างแรงดลใจแก่คนเหล่านั้น ให้สามารถเอาชนะอุปสรรคเพื่อไปสู่วิสัยทัศน์ดังกล่าว
เฮาส์ (House, 1996) แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มีความเห็นคล้องจองกับทัศนะดังกล่าว โดยเห็นว่า ผู้บริหาร (Manager) คือ ผู้ใช้อำนาจทางการ (Authority) ซึ่งมากับตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเพื่อให้สมาชิกขององค์การยอมปฏิบัติตาม การบริหารจัดการจึง ประกอบด้วย การนำวิสัยทัศน์และ กลยุทธ์ของผู้นำลงสู่การปฏิบัติ การประสานงานและการจัดคนทำงานในองค์การ ตลอดจน การแก้ปัญหาประจำวัน ที่เกิดจากการปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ให้นิยามความหมายของภาวะผู้นำจำนวนมากมายหลายร้อย นิยามแต่นิยามที่เลือกใช้ในบทนี้ ได้ให้ความหมาย ของ ภาวะผู้นำว่า เป็นความสามารถในการมีอิทธิพลต่อกลุ่ม เพื่อให้ดำเนินงานได้บรรลุเป้าหมาย ทั้งนี้เแหล่งที่มาของ การมีอิทธิพล อาจเป็นอย่างทางการ เช่น ได้กำหนดชัดเจนมากับตำแหน่งทางบริหารขององค์การนั้นว่ามีอำนาจอะไรบ้างเพียงไร ดังนั้นการได้รับบทบาทการเป็นผู้นำในตำแหน่งบริหาร ก็ทำให้บุคคลนั้น ได้รับอำนาจและเกิดอิทธิพลต่อผู้อื่นตามมา อย่างไร ก็ตามความเป็นจริงพบว่า ไม่ใช่ผู้นำทุกคนที่สามารถเป็นผู้บริหาร (Not all leaders are managers) และเช่นเดียวกัน ก็ไม่ใช่ผู้บริหารทุกคน ที่สามารถเป็นผู้นำ (Not all managers are leaders) ด้วยเหตุนี้เพียง แค่องค์การได้มอบหมาย อำนาจหน้าที่ให้แก่ ผู้บริหารนั้น ยังไม่มีหลักประกันอย่างเพียงพอว่าผู้นั้นจะสามารถในการนำได้อย่างมีประสิทธิผล ทั้งนี้อาจ มีอิทธิพล จากปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่มีผลกระทบมากกว่าอิทธิพลที่กำหนดตามโครงสร้างองค์การก็ได้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ได้ว่า ผู้นำสามารถเกิดขึ้น จากกลุ่มคนให้การยอมรับนับถือได้เช่นเดียวกับที่มาจาก การแต่งตั้งอย่างทางการ
ในองค์การที่ดีจำเป็นต้อง มีทั้ง ภาวะผู้นำและการบริหารจัดการ ที่เข้มแข็งจึงจะทำให้เกิด ประสิทธิผลได้สูงสุด โดยเฉพาะภายใต้ ภาวะของโลก ที่มีพลวัตสูง ย่อมต้องการได้ผู้นำที่กล้าท้าทายต่อการดำรงสถานภาพเดิม มีความสามารถใน การสร้างวิสัยทัศน์ และสามารถในการดลใจสมาชิก ทั้งองค์การให้มุ่งต่อความสำเร็จตามวิสัยทัศน์นั้น แต่เราก็ยังต้องมีการบริหาร ที่สามารถกำหนดรายละเอียดของแผนงาน สามารถออกแบบโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพขององค์การ รวมทั้งติดตามตรวจสอบดูแล การปฏิบัติงานประจำวันอีกด้วย
ทฤษฏีภาวะผู้นำ
ทฤษฏีภาวะผู้นำ ที่สำคัญ มี 3 ทฤษฏี คือ
1.) ทฤษฎีคุณลักษณะผู้นำหรือทฤษฎีอุปนิสัย (Trait Theory)
หลัก บุคคลเป็นผู้นำเพราะ มีบุคลิกลักษณะ ความสามารถที่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ (รูปร่างหน้าตา สติปัญญา วิสัยทัศน์มีความสามารถเหนือคนอื่น ความประพฤติดี มนุษยสัมพันธ์ที่ดี )
โดยคุณลักษณะที่เด่นชัด คือ
- มีความรู้ความสามารถในการงาน
- เข้าร่วมกิจกรรมด้วยใจรัก
- ได้รับการยอมรับจากสมาชิก สมาชิกเต็มใจทำงานร่วม
2. ทฤษฎี สถานการณ์ (Situation Theory)
หลักการ ผู้นำเกิดจากสถานการณ์บางอย่างผลักดันให้บุคคลต้องแสดงบทบาทผู้นำ หรือต้องพัฒนาลักษณะผู้นำขึ้นมา (ฮิตเลอร์ มุสโสลินี หรือ เหมาเจ๋อตุง) ทฤษฏีนี้ยอมรับความสัมพันธ์ของผู้นำและกลุ่ม ผู้นำต้องครองใจปวงชนผู้แวดล้อม
3. ทฤษฎีปฏิสัมพันธ์ (Interaction Theory)
หลักการ ความเป็นผู้นำเกิดจากปฏิสัมพันธ์ ความเป็นผู้นำ+สถานการณ์
(วิเคราะห์จากคุณสมบัติผู้นำ และ สถานการณ์ ) เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ความเป็นผู้นำก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ผู้นำจึงมีได้หลายคน ผลัดเปลี่ยนกันไป
ทฤษฎีอื่นๆ ในเรื่อง ภาวะผู้นำ โดย Terry สรุป ไว้ 4 ทฤษฎี คือ
1. ทฤษฎีสนับสนุน (supporting Theory) เป็นทฤษฎีการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยผู้นำเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงาน มีโอกาสร่วมวางแผนและตัดสินใจในพันธกิจขององค์การ (ผู้นำต้องยอมรับในความรู้ความสามารถของผู้ร่วมงาน )
2. ทฤษฎีทางสังคมวิทยา (Sociological Theory) มีความเชื่อว่าผู้นำต้องแสดงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ร่วมงานโดยมุ่งจัดหา วัสดุ อุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน
3. ทฤษฎีทางจิตวิทยา (Psychological Theory) มีความเชื่อว่าผู้นำต้องพัฒนาระบบสร้างแรงจูงใจ มีจิตวิทยาสูง ใช้เทคนิคกระตุ้นให้บุคคลปฏิบัติงานด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อองค์การ
4. ทฤษฎียึดถืออำนาจ (Autocratic Theory) มีความเชื่อในการใช้อำนาจ ของตนเองในการบริหาร สั่งการ บีบบังคับให้ปฏิบัติงาน โดยไม่ต้องการเหตุผลในการอธิบายความ
ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม
คุณลักษณะของคนที่มีความเป็นผู้นำ
ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานเป็นทีม
แนวทางป้องกัน
พงษ์พิชญ์ อ่อนละมัย : อ่าน
เนื้อหา : supatta.haysamy.com
สนับสนุนโดย : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
คว้าความสำเร็จ (ตอน สร้างบุคลิกและการพูด…แบบผู้นำ)
คว้าความสำเร็จ
\”แนะนำหนังสือ ebook ของแอดมินเองจ้า สำหรับท่านใดที่ต้องการสนับสนุน สามารถเข้าไปตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ
เรื่อง พลังแห่งการคิดบวก ลิงค์นี้ค่ะ https://www.ookbee.com/shop/BookInfo?pid=16ab4171dd074ace803c6ee1b3f6b149\u0026affiliateCode=7198cc2fd03c4b298cc9ac8c48b6947c
เรื่อง พลังแห่งจิตใต้สำนึก (ฉบับย่อ) ลิงค์นี้ค่ะ https://www.ookbee.com/shop/BookInfo?pid=5d048d5bb1494a06bdc52acc15bb3991\u0026affiliateCode=7198cc2fd03c4b298cc9ac8c48b6947c\”
\”Playlist เพื่อสะดวกในการฟังค่ะ
The Best in You::
https://www.youtube.com/playlist?list=PLkfv8zj1NOPzpqyOCD2anvsxGsSUis6I
จิตวิทยาว่าด้วยการพูด (arts of speech) ::
https://www.youtube.com/playlist?list=PLkfv8zj1NON7b8MH4iHPIvjHcr9AfNz6
แค่คิดก็รวยแล้ว! ::
https://www.youtube.com/playlist?list=PLkfv8zj1NOM5GdjMHnv498gtBDu9S04Q\”
คลิปครูเงาะ 📎 พูดยังไง ให้ดูแพง
หลายคนอาจจะรู้สึกว่า
การพูดไม่ชัดเป็นสิ่งที่ไม่เห็นว่า
จะน่ากังวลอะไร
แต่จริง ๆ แล้วการพูดให้ชัดนั้นทำให้เราดูเป็น
Professional มากขึ้น และดูแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พูดยังไงให้ดูแพง เคล็ดลับดีดี
ถ้าคุณอยากเป็นคนที่ดูดี ดูแพง คลิกฟัง!!!
และยังมีเทคนิคอีกมากมาย
พลาดไม่ได้กับคอร์สออนไลน์ Personality Power
\”พลังแห่งบุคลิกภาพ\”
โดย ครูเงาะ รสสุคนธ์ นักพัฒนาบุคลิกภาพและ Acting Coach
ระดับประเทศที่สอนผู้บริหารระดับสูง
ดารา นักแสดงชื่อดังมาแล้วมากมาย
อาทิเช่น อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ , เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ,ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ , ณเดช คูกิมิยะ , บี้ สุกฤษฎิ์ ,ญาญ่า อุรัสยา ฯลฯ
สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากคอร์สนี้
✅ท่าทางที่น่าเชื่อถือ
✅ท่าทางที่เป็นที่รัก
✅Eye Contact พลังแห่งการสบตา
✅เพิ่มความสง่างามผ่านการนั่ง ยืน เดิน
✅เทคนิคการใช้เสียงพูด ให้มีพลัง
✅น้ำเสียงที่น่าเชื่อถือ
✅การพูดเร็วไป ช้าไป เบาไป ดังไป สูงไปต่ำไป ออกเสียงไม่ถูกต้อง ต้องปรับอย่างไร
เพราะบุคลิกภาพ…ไม่ได้จำกัดเพียงเสื้อผ้าหน้าผม
แต่มันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงออกมาให้ผู้อื่นรู้สึกถึงตัวตนของเรา
ลงทะเบียน ราคาพิเศษ
ถึงสิ้นเดือนนี้ เท่านั้น!!
2,500 บาท จากราคาเต็ม 3,900 บาท
เริ่มเรียนได้ทันที
🚨สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 🚨
0802656266 , 0966466266 , 0997979615
หรือคลิก
m.me/krungor
ปฏิบัติธรรม ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา โดย ท่าน ว.วชิรเมธี (พระมหาวุฒิชัย พระเมธีวชิโรดม)
การเจริญสติที่แท้จริงคือการดำเนินชีวิต ที่ต้องเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่าไปตีความการปฏิบัติให้แคบลง ให้เหลืออยู่แต่ในคอร์สวิปัสสนา หรือการเจริญสติในวัด
พึงระลึกเสมอว่าการเรียนธรรมกับครูอาจารย์เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติธรรม แต่การดำเนินชีวิตเป็นทั้งหมดของการปฏิบัติธรรม
อาตมาเชื่อว่าระหว่างคนที่อยู่ใกล้สิ่งเร้า(กิเลส)กับคนที่ไม่มีสิ่งเร้า ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ มันขึ้นอยู่กับกระบวนการมากกว่า
ถ้าเราอยู่แบบปราศจากสิ่งเร้า แล้วไม่ได้ฝึกกระบวนท่าในการต่อสู้เลยก็ไม่ได้ช่วยอะไร แต่ถ้าเราอยู่ท่ามกลางสิ่งเร้า แต่มีกระบวนท่าในการเจริญสติ สิ่งเร้าก็ไม่สำคัญ
การไม่อยู่ท่ามกลางสิ่งเร้าเป็นโอกาส แต่การอยู่ท่ามกลางสิ่งเร้าก็ยิ่งเป็นโอกาส เพราะมันทำให้การฝึกฝนพัฒนาได้เร็วขึ้น
สำหรับคนที่ยังไม่คิดจะฝึก อยากจะบอกว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่จะพัฒนาตนให้ดีกว่าที่เป็นอยู่หลายร้อยหลายพันเท่า แล้วทำไมจึงไม่พัฒนาไป แล้วจะเห็นว่าตัวเองมีพัฒนาการที่่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น
หลายคนไม่กล้าลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเอง เพราะเสียดายกิเสส…
อย่าเสียดาย
การปลดปล่อยกิเลสทำให้ความสุขมาเป็นระลอกๆ เหมือนกับยานอวกาศทิ้งถังเชื้อเพลิงทีละปล้องๆ เพื่อทะยานสู่อวกาศ ถ้าไม่ทิ้งก็ไปไม่ถึงเป้าหมายในอวกาศนั้น
คนที่ศึกษาธรรรมะ ถ้ามีความเข้าใจและมีการหยั่งรู้สึงสัจธรรมเกิดขึ้น จะไม่มีความเสียดายกิเสสเลย ( ท่าน ว.วชิรเมธี )
พระมหาวุฒิชัย ปฏิบัติธรรม อยู่กับปัจจุบัน
21 คุณสมบัติของผู้นำ ที่ไม่มีไม่ได้ by John C Maxwell
ฟรี !! สัมมนา Scale Up Mentoring ต่อยอดธุรกิจพิชิตยอดขาย
สร้างให้คุณและธุรกิจสำเร็จไปถึงเป้าหมายด้วยลำดับขั้นตอนและวิธีการที่ทุกประเภทธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้จริง 100%
คลิ๊กลงทะเบียนและพิมพ์ว่า “สนใจ” http://m.me/albert.mpp
John C Maxwell ถือว่าเป็น Leadership GURU คนหนึ่งที่ผมชื่นชอบและเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างหนังสือและสื่อการสอนต่างๆของเขาจนมาถึงวันนี้ผมยังใช้หลักการต่างๆของ John C Maxwell มาดำเนินธุรกิจและชีวิตของผม ผมเลยขออนุญาติแบ่งปันเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับผู้นำที่หนังสือเล่มนี้เขียนไว้มาย่อยให้เข้าใจกันง่ายๆในคลิปนี้ครับ
21 คุณสมบัติของผู้นำ ที่ไม่มีไม่ได้ by John C Maxwell
CALL CENTER 0817979270
Line : @businessbreakthru
Inbox : http://m.me/maximumpartners
Website : https://www.maximumpartners.com
Podcast : https://soundcloud.com/maximumpartnerspodcast
Youtube : https://bit.ly/2ufeqp1
MPP
MaximumPartners
Motivation
Leadership
PassionToWealth
Speaker
TrainTheTrainer
BusinessNetworking
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ภาวะผู้นำ