วิตามินต่างๆ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
Write CSS OR LESS and hit save. CTRL + SPACE for auto-complete.
[NEW] 10 ยี่ห้อวิตามินซีที่ดีที่สุด VitaminC ธรรมชาติ ปลอดภัย มี อย. ได้ผลจริง 2564 | วิตามินต่างๆ – Sonduongpaper
Write CSS OR LESS and hit save. CTRL + SPACE for auto-complete.
วิตามินดี (Vitamin D) มีความสำคัญอย่างไรกับร่างกายของเรา ?
วิตามินดี (Vitamin D) มีความสำคัญอย่างไรกับร่างกายของเราในช่วง Work from home สถานการณ์ Covid19
โดย หมอฟรุ๊ท นพ.วชิระ คุณาธาทร
บ้านหมอฟรุ๊ทคลินิกเวชกรรม
โทร 0959515549
Line @dr.fruit_home
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
วิตามิน สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้ ประโยชน์ของวิตามินต่าง ๆ Vitamin
วิตามิน สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้ Vitamin
1. โรคขาดวิตามินเอ เกิดจากอาหารที่มีไขมันต่ำและมีวิตามินเอน้อย คนที่ขาดวิตามินเอ ถ้าเป็นเด็กการเจริญเติบโตจะหยุดชะงัก สุขภาพอ่อนแอ ผิวหนังหยาบแห้งและมีตุ่มใส ๆ เหมือนหนังคางคก เนื่องจากการอักเสบบริเวณก้น แขน ขา ข้อศอก เข่า และหน้าอก
นอกจากนี้จะมีอาการอักเสบในช่องจมูก หู ปาก ต่อมน้ำลาย เยื่อบุตา และกระจกตาขาวและตาดำจะแห้ง ตาขาวจะเป็นแผลที่เรียกว่า \”เกล็ดกระดี่\” ตาดำขุ่นหนา และถ้าเป็นรุนแรง จะมีผลทำให้ตาบอดได้ ถ้าไม่ถึงกับตาบอดก็อาจจะทำให้มองไม่เห็นในที่สลัว หรือปรับตาในที่มืดไม่ได้ เรียกว่า \”ตาฟาง\” หรือ \”ตาบอดกลางคืน\” การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินเอ ทำได้โดยการกินอาหารที่มีไขมันและอาหารจำพวกผลไม้ ผักใบเขียว ผักใบเหลือง เช่น มะละกอ มะม่วงสุก ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง มันเทศ ไข่ นม สำหรับทารกควรได้กินอาหารเสริมที่ผสมกับตับหรือไข่แดงบด
2. โรคขาดวิตามินบี 1 เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินบีต่ำ หรือกินอาหารที่ไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินบี 1 สำหรับคนที่ขาดวิตามินบี 1 จะเป็น \”โรคเหน็บชา\” ซึ่งจะมีอาการชาทั้งมือและเท้า กล้ามเนื้อแขนและขาไม่มีกำลัง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการบวมร่วมด้วย ถ้าเป็นมากจะมีอาการใจสั่น หัวใจโตและเต้นเร็ว หอบ เหนื่อย และอาจตายได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินบี 1 ทำได้โดยการกินอาหารที่มีวิตามินบี 1 ให้เพียงพอและเป็นประจำ เช่น ข้าวซ้อมมือ ตับ ถั่วเมล็ดแห้ง และเนื้อสัตว์ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายวิตามินบี 1 เช่น ปลาร้าดิบ หอยดิบ หมาก เมี่ยง ใบชา เป็นต้น
3. โรคขาดวิตามินบี 2 เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินบี 2 ไม่เพียงพอ คนที่ขาดวิตามินบี 2 มักจะเป็นแผลหรือรอยแตกที่มุมปากทั้งสองข้าง หรือซอกจมูกมีเกล็ดใสเล็ก ๆ ลิ้นมีสีแดงกว่าปกติ และเจ็บหรือมีแผลที่ผนังภายในปาก รู้สึกคัน รวมทั้งปวดแสบปวดร้อนที่ตา อาการเหล่านี้ เรียกว่า \”โรคปากนกกระจอก\”
คนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และอารมณ์หงุดหงิดง่าย การรักษาและป้องป้องกันโรคขาดวิตามินบี 2 ทำได้ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินบี 2 ให้เพียงพอ และเป็นประจำ เช่น นมสดนมปรุงแต่ง นมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวซ้อมมือ ผัก ผลไม้ เป็นต้น
4. โรคขาดวิตามินซี เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินซีไม่เพียงพอ คนที่ขาดวิตามินซีมักจะเจ็บป่วยบ่อย เนื่องจากมีความต้านทานโรคต่ำ เหงือกบวมแดง เลือดออกง่าย ถ้าเป็นมากฟันจะโยก และมีเลือดออกตามไรฟันได้ง่าย อาการเหล่านี้ เรียกว่าเป็น \”โรคลักปิดลักเปิด\” การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินซี ทำได้โดยการกินอาหารที่มีวิตามินซีให้เพียงพอและเป็นประจำ เช่น ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะเขือเทศ ฝรั่ง ผักชี เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าร่างกายของคนเราได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน หรือปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติและเกิดโรคขาดสารอาหารได้
======================================
เรียนเทรด Forex เป็นระบบ ที่ Forex Miracle สร้างรายได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
เรียนฟรี ฝึกด้วยบัญชีจำลอง คลิกเลย! http://bit.ly/FitExness
======================================
♥♥♥ Fit everything in your life ♥♥♥
Fit Money / Fit Food / Fit Health / Fit Vareity
นำเสนอแบ่งปัน มุมมองความคิด ข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพ
ผ่านตัวหนังสือ รูปภาพ และวีดีโอ
======================================
Facebook : https://www.facebook.com/fitvariety/
https://www.facebook.com/forexmiracleorg/
♥♥ ขอบคุณมากครับ Thanks ♥♥
ชัวร์ก่อนแชร์ : หม้อทอดไร้น้ำมัน ทำให้อาหารมีสารก่อมะเร็ง จริงหรือ ?
บนสังคมออนไลน์แชร์คลิปข่าวเตือนว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน หรือ Air Fryer ที่หลายคนนิยมใช้ ทำให้อาหารมีสารก่อมะเร็งได้ โดยอ้างอิงคำเตือนจากฮ่องกง เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
🎯 ตรวจสอบกับ ดร.มลฤดี สุขประสารทรัพย์
อาจารย์หลักสูตรพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์
📌 สรุป : ✅ แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม ✅
Q : หม้อทอดไร้น้ำมันทำให้อาหารเกิดสารก่อมะเร็งจริงหรือ ?
A : จริง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารด้วย
ที่สำคัญก็คือ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและเวลาที่เราใช้ในการปรุงอาหาร
ถ้ายิ่งอุณหภูมิสูงขึ้นเกิน 120 องศาเซลเซียสมาก ๆ
หรือว่าใช้ระยะเวลายาวนานเกินไปเนี่ย
สารก่อมะเร็งก็จะเกิดขึ้นได้สูงตามมา
Q : จากข่าวที่รายงานในฮ่องกง
เป็นผลการทดลองหม้อทอดไร้น้ำมันกับมันฝรั่ง
ซึ่งได้ผลพบว่าเกิดสารอะคริลาไมด์ (acrylamide) ในปริมาณสูง ?
A : ข่าวที่เขาแชร์ก็คือเป็นมันฝรั่ง เป็นพืชกลุ่มแป้ง
มันจะมีกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “แอสพาราจีน” อยู่สูง
ประกอบกับปริมาณน้ำตาลสูงในมันฝรั่งเอง
เมื่อความร้อนสูง ที่เราใช้ประกอบอาหาร เกิน 120 องศาเซลเซียส
ก็สามารถทำให้เกิดสารก่อมะเร็งกลุ่มที่เรียกว่าอะคริลาไมด์ได้
อะคริลาไมด์เป็นผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี
ที่เรียกว่า Maillard reaction หรือปฏิกิริยาสีน้ำตาล
ยิ่งน้ำตาลไหม้เกรียมมาก สารอะคริลาไมด์ก็จะมีอยู่มากเช่นกัน
โดยองค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ว่า
อะคริลาไมด์ เป็นสารก่อมะเร็งในกลุ่ม 2A
ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดได้ในสัตว์ทดลอง มีหลักฐานเพียงพอแล้ว
แต่ในการเกิดมะเร็งในมนุษย์ ยังต้องรอหลักฐานสนับสนุนเพิ่มเติมอีก
Q : แต่สารนี้ไม่ได้เกิดกับมันฝรั่งเท่านั้น ?
A : อาหารอื่น ๆ ที่มีการคลุกเคล้าแป้ง หรือเกล็ดขนมปัง
เอามาปรุงความร้อนที่หม้อทอดไร้น้ำมัน
ก็สามารถทำให้เกิด สารในกลุ่มอะคริลาไมด์ได้เช่นกัน
Q : ที่สำคัญ สารนี้ไม่ได้เกิดกับหม้อทอดไร้น้ำมันเท่านั้น ?
A : จริง ๆ แล้ว การเกิดอะคริลาไมด์
ไม่จำกัดเฉพาะหม้อทอดไร้น้ำมันเท่านั้น
การทอดด้วยกะทะ หรือว่าใส่น้ำมันเข้าไป
คือเป็นการทอดเฟรนช์ฟรายด์ปกติ ก็เกิดอะคริลาไมด์ได้เช่นกัน
หรือเอาไปอบในเตาอบ ก็เกิดอะคริลาไมด์ได้เช่นกัน
Q : วัตถุดิบอื่น ที่หลายคนก็ชอบใส่หม้อทอดไร้น้ำมัน
อย่างเช่น หมูกรอบ เนื้อสเต็ก ?
A : อาหารที่เป็นโปรตีน หมูกรอบ หรือ ชิ้นเนื้อสเต็กต่าง ๆ
เมื่อเอามาปรุงด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือกระบวนการปิ้งย่างต่าง ๆ
มันไม่ได้เกิดอะคริลาไมด์ แต่มันจะเกิดสารก่อมะเร็งตัวอื่น ๆ
ก็คือกลุ่มของ โพลีไซคลิก อะโรเมติก ไฮโดรคาร์บอน หรือ PAH
และ เฮเทอโรไซคลิกเอมิน หรือ HCA แทน
Q : หรือปลา ?
A : ปลาที่มีหนังเยอะ เช่น ปลาดุก
ถ้าเอามาปิ้งมาย่าง หรือว่าใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน ก็เกิดสารก่อมะเร็ง
กลุ่ม โพลีไซคลิก อะโรเมติก ไฮโดรคาร์บอน ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น ข้อสังเกตที่เราจะรู้ว่า เนื้อสัตว์อันนี้มันจะมีสารก่อมะเร็งหรือยัง
ที่สังเกตได้ง่ายคือ ผิวที่ไหม้เกรียมของเนื้อสัตว์ที่เราเอามาปรุงอาหาร
ถ้ามันเริ่มไหม้เกรียม มีสีดำ ก็แสดงว่ามีสารก่อมะเร็งอยู่ในนั้นแล้ว
เพราะฉะนั้นเวลากิน ก็ใช้กรรไกรตัด หรือมีดเฉือนทิ้ง
ก็อย่าไปกินส่วนที่ดำไหม้เกรียมตรงนั้น
Q : วิธีการปรุงแบบ ลวก ต้ม นึ่ง หรือไมโครเวฟล่ะ ?
A : ต้ม นึ่ง ลวก หรือไมโครเวฟ ไม่ได้ทำให้เกิดอะคริลาไมด์
เพราะว่าความร้อนที่ใช้ มันทำให้สุก แต่ไม่ได้ทำให้เกิดการไหม้เกรียม
หรือแม้กระทั่งสารก่อมะเร็งกลุ่ม PAH หรือ HCA
Q : วิธีลดสารอะคริลาไมด์สำหรับคนที่ยังชอบทานมันฝรั่ง ?
A : ก่อนที่เราจะเอาหัวมันฝรั่งมาประกอบอาหาร
ก็ให้เราปอกเปลือก ฝานแช่น้ำทิ้งไว้ ประมาณ 1530 นาที
น้ำก็ช่วยชะล้างสารตั้งต้น ก็คือ กรดอะมิโอแอซิดแอสพาราจีน
และน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อมันฝรั่ง ให้ออกมากับน้ำ
จากนั้นเราก็ซับให้แห้ง และเราก็เอาไปปรุงอาหารด้วยวิธีการต่าง ๆ
นอกจากนี้ มันฝรั่ง อย่าไปเก็บในตู้เย็น
เพราะการเก็บในอุณหภูมิตู้เย็น
จะยิ่งไปเพิ่มปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อหัวมันฝรั่ง
เมื่อเรานำไปทอด ก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ดได้มากขึ้น
อะคริลาไมด์ก็จะสูงขึ้นตาม
Q : ดังนั้น แม้จะเป็นมันฝรั่งจากหม้อทอดไร้น้ำมันตรง ๆ ก็ยังกินได้ ?
A : แนะนำว่ารับประทานได้นะ มันฝรั่งทอด หรือ เฟรนช์ฟรายด์
แต่เราอย่ารับประทานในปริมาณที่มากเกินไป
แล้วก็อย่ารับประทานถี่จนเกินไป
ควรจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ให้หลากหลาย
ผักผลไม้หลากหลายสี ทานให้เยอะเข้าไว้
Q : รวมทั้งอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมัน ?
A : กินได้ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ข้อดี ช่วยลดการใช้น้ำมัน
พอเราไม่ต้องใช้น้ำมันเป็นตัวนำพาความร้อนในการทำให้อาหารสุก
ปริมาณพลังงานที่เราได้รับจากไขมัน ก็จะน้อยลงไปด้วย
Q : สรุปแล้วเรื่องหม้อทอดไร้น้ำมัน
ทำให้อาหารมีสารก่อมะเร็งนี่เป็นอย่างไร ?
A : เรื่องนี้จริง ก็ถ้าจะแชร์ต่อเนี่ย อยากจะให้เพิ่มประเด็นให้ครบถ้วน
เพราะไม่เช่นนั้น จะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจคลาดเคลื่อนได้
และกระบวนการเกิดสารก่อมะเร็ง
ก็ไม่ได้จำกัดแค่การเกิดในหม้อทอดไร้น้ำมันเท่านั้น
ยังมีวิธีการปรุงอาหารอื่น ไม่ว่าจะเป็นการทอด ปิ้ง ย่าง อบ
ก็อาจจะนำมาซึ่งการเกิดสารก่อมะเร็งกลุ่มที่พูดไปได้
👉 ความพอดีอย่างเข้าใจ ยังคงเป็นหลักความปลอดภัย
ทั้งเรื่องการอาหาร และการดูแลสุขภาพ
ชัวร์ก่อนแชร์ sureandshare
🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ \”ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์\” 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40sureandshare
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
ชีเป้าบอกละนะEp.5 | เปิดกรุ \”วิตามินและอาหารเสริม\” ที่น้องทานเป็นประจำ
ชี้เป้า วิตามิน อาหารเสริม
กดติดตาม Naan Lardapha (น้องนี) ได้ที่นี่
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCHLFl3o1iPztxqAlDB0Cieg
Facebook: https://www.facebook.com/nn.lardapha/
Instagram: https://www.instagram.com/nn.lardapha/?hl=en
วิตามินซี ต้านหวัดสารพัดประโยชน์ by หมอแอมป์
สโมสรสุขภาพ ออกอากาศเมื่อ 29 พค. พศ. 2556
keywords for Education:
Vitamin C
Supplements
NCDs
YouAreWhatYouEat
http://www.barso.or.th
(สมาคมแพทย์ฟื้นฟูสุขภาพและส่งเสริมการศึกษโรคอ้วน กรุงเทพ)
http://www.dramp.com
Instagram: DrAmp Team
drampCopyright 2013
เทปนี้มีลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีผลในทางกฏหมาย
ปล.เป็นคลิปให้คำแนะนำแก่ผู้รักสุขภาพที่ยังไม่ป่วยและต้องการป้องกันโรคให้ตัวเอง สำหรับผู้ที่มีโรคแล้วยังไม่ควรทำตามและควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจาก หมอแอมป์
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ วิตามินต่างๆ
