[NEW] เที่ยวยุโรปไปได้เอง ไม่แพงด้วย 13 วัน 55,000 บาท | วีซ่ายุโรป – Sonduongpaper

วีซ่ายุโรป: คุณกำลังดูกระทู้

          คุณ Uncle bear traveler สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่อาสาพาเราตะลุย 8 เมืองสวย ได้แก่ Budapest (Hungary), Prague (Czech Republic), Cezky Krumlov (Czech republic), Hallstatt (Austria), Salzburg (Austria), Munich (Germany), Fussen (Germany) และ Vienna (Austria) รวมทั้งหมด 13 วัน กับค่าใช้จ่ายตลอดทริป 55,500 บาท !!! มาดูกันสิว่า…แต่ละเมืองจะสวยงามดุจเมืองในฝันดั่งเทพนิยาย และทำให้เราหลงเสน่ห์แห่งความงามนั้นได้มากน้อยแค่ไหน 

เราเชื่อว่าหนึ่งในความใฝ่ฝันของนักเดินทางหลาย ๆ คน นั่นคือการเดินทางเที่ยวยุโรป ซึ่งถือได้ว่าเป็นดินแดนในฝันสุดโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นเมืองดัง ๆ อย่างปารีส ลอนดอน และโรม แต่วันนี้เราจะพาไปตะลุยกับอีกหลากหลายเมืองในเส้นทางท่องเที่ยวยุโรป ตามรอยที่อาสาพาเราตะลุย 8 เมืองสวย ได้แก่ Budapest (Hungary), Prague (Czech Republic), Cezky Krumlov (Czech republic), Hallstatt (Austria), Salzburg (Austria), Munich (Germany), Fussen (Germany) และ Vienna (Austria) รวมทั้งหมด 13 วัน กับค่าใช้จ่ายตลอดทริป 55,500 บาท !!! มาดูกันสิว่า…แต่ละเมืองจะสวยงามดุจเมืองในฝันดั่งเทพนิยาย และทำให้เราหลงเสน่ห์แห่งความงามนั้นได้มากน้อยแค่ไหน

++++++++++++++++++++

Europe Trip in Autumn 8 เมืองสวยในฝันดั่งเทพนิยาย แห่งยุโรปตะวันออก

         

Europe Trip เที่ยว 8 เมืองสวยในฝัน

          1. Budapest (Hungary) – บูดาเปสต์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ คลาสสิก โรแมนติก สวยทุกมุมมอง

          2. Prague (Czech Republic) – ปราก เมืองเก่าที่ยังคงมีมนตร์ขลังเหนือกาลเวลา

          3. Cezky Krumlov (Czech republic) – เชสกีกรุมลอฟ เมืองแห่งเทพนิยายที่มีอยู่จริงบนโลก

          4. Hallstatt (Austria) – ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก

          5. Salzburg (Austria) – ซาลซ์บูร์ก บ้านเกิดโมสาร์ท นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกระดับโลก

          6. Munich (Germany) – มิวนิกสวรรค์ของนักดื่มเบียร์และขาหมูเยอรมันอันเลื่องชื่อ

          7. Fussen (Germany) Neuschwanstein Castle – ปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา

          8. Vienna (Austria) – เวียนนา เมืองที่พร้อมให้คุณได้ดื่มด่ำกับงานศิลปะระดับโลก

เที่ยวยุโรป

          สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ที่ผมกับเพื่อน ๆ ได้ไปท่องเที่ยวยุโรปตะวันออก 4 ประเทศ 8 เมือง รวมทั้งหมด 13 วัน กับค่าใช้จ่ายตลอดทริป 55,500 บาท เป็นการท่องเที่ยวแบบ Backpack ที่พวกเราแพลนเที่ยวกันเอง ทริปนี้มีสมาชิกร่วมอุดมการณ์ 4 คน ยุโรปทริปของพวกเราเกิดจากการรวมตัวของคนที่รักในการท่องเที่ยวและยากจะไปยุโรปตะวันออก เมืองที่มีความคลาสสิกและสวยงาม

          โดยเนื้อหาของการรีวิวในส่วนแรกนี้ผมจะเน้นที่การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง การเขียนแผนการเดินทาง (Travel itinerary) เพื่อยื่นขอเชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) การจองที่พัก การใช้ Google map ในการวางแผนเที่ยวในแต่ละเมือง ค่าใช้จ่าย (Budget) และสุดท้ายเป็นการวีวิวการท่องเที่ยวในแต่ละเมือง ส่วนรายละเอียดแบบเจาะลึกนั้นผมจะมารีวิวอีกทีในครั้งต่อไปนะครับ

          ผมหวังว่าการรีวิวของผมในครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อน ๆ อย่าเก็บความฝันที่อยากจะเที่ยวยุโรปไว้เป็นเพียงแค่ความฝัน เชื่อผมยุโรปไปเองได้ง่ายนิดเดียว

          ฝากรีวิวแรกที่ผมเขียนด้วยนะครับ

          > ลุยเดี่ยว เที่ยวญี่ปุ่นเมืองหิมะ 6วัน 5คืน ด้วยเงิน 20,000 บาท (Takayama, Matsumoto, Nagano, Shibu)

Part 1 : การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง

          1. Timing : การเลือกช่วงเวลา

          สำคัญมากนะครับเพราะเราจะได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของการแต่งตัวรวมถึงการวางแผนการเที่ยวได้ถูก โดยทริปนี้พวกเราเลือกเดิน ทางวันที่ 12-24 ตุลาคม 2017 ซึ่งเป็นช่วง Autumn อากาศก็จะเริ่มเย็นลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นฤดูที่น่าเที่ยวของยุโรปอยู่นะครับ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองปนน้ำตาล อากาศช่วงนี้กำลังเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยก็สิบกว่าองศา กลางวันจะยังคงยาวนานกว่าช่วงหน้าหนาว ทำให้มีเวลาเที่ยวเยอะมากกว่าครับ ช่วงที่พวกเราไปกันเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงพอดี บรรยากาศมันก็จะเหลือง ๆ น้ำตาล ๆ หน่อยครับ

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

2. Visa Applying : การยื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่าเชงเก้น

          ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าวีซ่าเชงเก้น (Shengen) กันก่อนนะครับ เชงเก้นเป็นวีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศในโซนยุโรป วีซ่านี้สามารถท่องเที่ยวได้ 26 ประเทศในยุโรโซน โดยการเลือกขอวีซ่าเชงเก้นกับประเทศไหนดี มีวิธีพิจารณาอยู่ 2 ข้อ คือ

          1. เลือกขอวีซ่ากับประเทศที่อยู่นานที่สุด
          2. กรณีที่เดินทางเฉลี่ยเท่ากันทุกประเทศ ให้ขอวีซ่ากับประเทศที่เข้าเป็นประเทศแรก

          พวกเราอยู่ฮังการีนานสุดรวม 4 วัน เราจึงขอวีซ่ากับประเทศนี้ โดยรายละเอียดของเอกสารที่ต้องเตรียมสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของทางสถานทูตฮังการี Link :

          สำหรับการเขียนแผนการเดินทาง (Travel itinerary) เพื่อยื่นขอเชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) เป็นการเขียนบอกรายละเอียดว่าเราจะไปที่ไหนบ้าง ไปอย่างไร พักที่ไหน เป็นระยะเวลานานแค่ไหน โดยต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ การยื่นขอวีซ่ากับทางสถานทูตฮังการีถ้าเอกสารเราพร้อมเขียนแผนการเดินทางชัดเจน วีซ่าผ่านแน่นอนไม่ต้องสัมภาษณ์ด้วยครับ

เที่ยวยุโรป

          3. Hotel Booking : การจองที่พัก

          การเลือกที่พัก สิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือ Location คือต้องใกล้ระบบขนส่งสถานีรถไฟ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง เพราะเราคงไม่อยากเหนื่อยในการลากกระเป๋าเดินไกล ๆ ผมมีทริคส่วนตัวครับ โดยผมจะใช้อยู่ 3 application/websites ในการเลือกที่พัก

          1. Booking.com ที่พักส่วนใหญ่จะสามารถยกเลิกได้ จองก่อนได้เลยแล้วค่อยจ่ายเงินที่หลังเมื่อไปถึงโรงแรมตัว application ใช้ง่าย

          2. Maps.google.com (Google map street view) อันนี้ใช้ดูสถานที่จริง ถึงแม้ตัวเราจะอยู่เมืองไทยแต่เราสามารถเข้าไปดูสถานที่จริงก่อนไปได้

          3. TripAdvisor.com เป็นรีวิวจากนักเดินทางจริง ๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติเขาจะค่อนข้าง comment กันตามจริง ตั้งแต่การบริการ ความสะอาด ไปจนถึงที่ตั้งของโรงแรม ตารางข้างล่างผมรวบรวมที่พักตลอดทริปยุโรปของพวกเรา ผมทำเป็นตารางจะได้ง่ายในการจัดการ

เที่ยวยุโรป

          ที่พักของพวกเราห้องจริงกับรูปในอินเทอร์เน็ตก็จะเหมือน ๆ กันครับ ตกแต่งภายในสไตล์วินเทจ

เที่ยวยุโรป

          4. Transportation : การพิจารณาเลือกการเดินทาง

          การเดินทาง Public Transportation ในยุโรปตะวันออกมีความสะดวกสบายมาก โดยผมจะแบ่งการเดินทางออกเป็น 2 ส่วนนะครับ

          1. การเดินทางภายในตัวเมือง ส่วนใหญ่แล้วก็จะเหมือน ๆ กันหมดทุกเมือง คือ

          – รถไฟใต้ดินหรือเมโทร (Metro)
          – รถเมล์ลากหรือโทรลิบุช (Trolley bus) ที่วิ่งตามสายเคเบิล
          – รถราง (Tram) รถเมล์ (Bus)

          2. การเดินทางระหว่างเมืองและการเดินทางระหว่างประเทศ

          ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 4 ประเทศ 8 เมือง เราใช้บริการทั้งรถบัส (บริษัท Student Agency, Flix bus, CK Shuttle) และรถไฟ (ของ ÖBB, DB)

          – Student Agency บริษัทนี้ให้บริการเดินรถในหลาย ๆ ประเทศในยุโรป หลายคนพอได้ยินชื่อก็จะคิดว่าบริษัทนี้ให้บริการเฉพาะนักเรียน แต่จริง ๆ แล้วเขาให้บริการกับทุกคน มี Wi-Fi Free บริการบนรถด้วยนะครับ

          – CK Shuttle เป็นบริษัทที่ให้บริการในลักษณะ door-to-door service เลือกได้ว่าจะให้เขาไปรับไปส่งเราที่ไหน

          – ÖBB (Österreichische Bundesbahnen) เป็นองค์กรรถไฟแห่งชาติของประเทศออสเตรีย

          – DB (Deutsche Bundesbahn) เป็นบริษัทรถไฟหลักในประเทศเยอรมนี

          ซึ่งเหมือนเช่นเคย ผมได้จอง online ไว้หมดแล้วจากเมืองไทย ผมสรุปให้ดูง่ายในแผนภาพนี้นะครับ

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          5. Studying : ศึกษาข้อมูลทำความรู้จักยุโรปก่อนไป

          สำหรับพวกเราทริปนี้เป็นการไปเที่ยวยุโรปตะวันออกครั้งแรก ดังนั้นพวกเราจะให้ความสำคัญกับการทำการบ้าน ศึกษาขอมูลก่อนไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนอกจากจะหาร้านอาหารหรือสถานที่เที่ยวที่เป็น highlight หรือ the must แล้วสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการศึกษาข้อมูลว่าเราต้องถ่ายรูปจากจุดไหนถึงจะได้รูปภาพที่สวยงาม ซึ่งผมได้รวบรวมทริคต่าง ๆ ไว้แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่มืออาชีพในการถ่ายรูป เราก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้ครับ

เที่ยวยุโรป

          6. Google Mapping : ใช้คำนวณระยะทางและตำแหน่งสถานที่ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน

          เป็นการวาดภาพในหัวให้เราสามารถจินตนาการได้ว่าสถานที่เที่ยวต่าง ๆ อยู่ตรงไหนบ้าง ใกล้หรือไกลแค่ไหนจะได้วางแผนได้ว่าจะเดินไปหรือนั่งรถไฟเป็นต้น ซึ่งผมจะใช้ Google map แล้วเอามาใส่ใน Excel ทำแผนที่ท่องเที่ยวแบบเดียวกันนี้กับทุกเมืองทั้ง 8 เมืองตลอดทริปนี้ครับ ดั่งตัวอย่างรูปนี้เป็นเมืองปราก

เที่ยวยุโรป

          7. Internet Sim/Pocket Wi-Fi : เลือกใช้อะไรดี

          ขอรีวิวจากประสบการณ์ตรงเลยนะครับ ประทับใจกับ AIS SIM2Fly มาก สัญญาณอินเทอร์เน็ตถือว่าแรงดีเลยทีเดียว ในทุก ๆ เมืองที่ผมไปตลอดทริปนี้ ผมใช้ทั้ง Facebook Live, Upload รูปลง Social Network ตลอดเวลา หรือใช้ Google map หาเส้นทาง บอกเลยว่า 4GB ยังเหลือครับ แนะนะเลยครับว่า Sim2Fly ของ AIS เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก 899 บาท สามารถเล่นเน็ตได้เต็มสปีด 4GB นาน 15 วัน ผมว่าวิธีคำนวณจำนวน GB ที่ใช้ต่างจากบ้านเราครับ เพราะว่าผมใช้อย่างไงก็ไม่เกินครับ ส่วน Pocket Wi-Fi ขอเสียคือราคาแพงกว่า และคุณต้องจับกลุ่มกันไปตลอดทริป ไม่งั้นสัญญาณ Wi-Fi จะหลุดทันทีต่างกับ internet sim ที่ให้อิสระในการใช้งานมากว่านั้นเอง

          8. Travel Budget – 55,500 บาท/คน

          ค่าใช้จ่ายตลอดทริปของพวกเรา 4 ประเทศ 8 เมืองรวมทั้งหมด 13 วัน โดยแบ่งตามประเภทค่าใช้จ่าย ดังนี้

เที่ยวยุโรป

Part 2 : Time to Explore Eastern Europe

         

Budapest (Hungary) – โรแมนติก สวยทุกมุมมอง

          บูดาเปสต์เมืองนี้อาจไม่คุ้นหูคนไทยเท่าไรเมื่อเปรียบเทียบกับปรากหรือเวียนนา แต่ผมอยากจะบอกว่าเป็นเมืองที่ผมประทับใจมากที่สุดในทริปนี้เลยทีเดียว มันมีความคลาสสิกไปซะทุกที่ในเมืองนี้ มีความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรม สถานีรถไฟ ตึกร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงผู้คนที่นี่ก็ใจดีด้วยครับ

          บูดาเปสต์เป็นเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน บูดาเปสต์เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี โดยถูกแบ่งเป็นสองฝั่งโดยมีแม่น้ำดานูบ (Danube) ไหลผ่าน คือ Buda เป็นฝั่งเมือง

เที่ยวยุโรป

          1. Fisherman’s Bastion

          เช้าวันแรกที่บูดาเปสต์ พวกเราตื่นนอนกันแต่เช้าเดินทางไป Fisherman’s Bastion เพื่อถ่ายรูปให้ได้แสงยามเช้า เมื่อก่อนที่นี่เป็นป้อมปราการ ชาวประมงใช้เป็นที่ป้องกันข้าศึกหันหน้าออกสู่แม่น้ำดานูบ ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นอาคารรัฐสภา Hungarian Parliament Building ที่อยู่ติดแม่น้ำดานูบ สวยงามมากจริง ๆ

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          2. Chain Bridge

          สะพานเชน (Chain Bridge) หรือสะพานโซ่ ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นมาเพื่อข้ามแม่น้ำดานูบ จุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ เป็นสะพานที่มีความสวยงาม ตรงสะพานเชนนี้มีรูปปั้นแกะสลักสิงโต ในยามค่ำคืนสะพานนี้จะเปิดไฟสวยงามมากเช่นกัน

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          3. St.Stephen’s Basilica – มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น บาซิลิกา

          อาสนวิหารที่สร้างขึ้นอุทิสแก่นักบุญสตีเฟ่น ท่านเป็น “ปฐมมรณสักขี” เป็นคนแรกที่ยอมพลีชีพเพื่อศาสนาคริสต์ ท่านถูกขว้างด้วยก้อนหินจนตาย ราวปี ค.ศ. 35

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          4. Liberty Bridge

          เป็นอีกหนึ่งสะพานที่เซื่อมระหว่างฝั่ง Buda (เมืองเก่า) กับฝั่ง Pest (เมืองใหม่) เข้าด้วยกัน เป็นสะพานที่มีสีเขียว อยู่ใกล้กับ Gellért Hill ตัวสะพานจะไปบรรจบกับทางเข้า Central Market Hall

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          5. New York Cafe ร้านกาแฟที่สวยที่สุดในโลก

          ไม่ว่าคุณจะดื่มกาแฟหรือไม่ ก็ไม่ควรพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวง New York Cafe เป็นคาเฟ่ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก โดยคาเฟ่แห่งนี้ได้ถูกสร้างในแบบ Italian Renaissance ในปี 1894 ภายในตบแต่งด้วยสีเหลืองทองหรูหราอย่างมาก หลายคนคงสงสัยทำไมชื่อ New York ที่มาของชื่อเป็นเพราะอดีตเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของ New York Life Insurance Company (NYLIC) ประจำที่กรุงบูดาเปสต์มาก่อนนั้นเอง ก่อนจะมาทำเป็นคาเฟ่ร้านกาแฟในปัจจุบัน

เที่ยวยุโรป

          6. Hungarian Parliament Building

          อาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก ผมยกให้เป็นไฮไลท์อันดับหนึ่งของผมเลยครับ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผมประทับใจมาก และที่ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงคือการนั่งเรือล่องแม่น้ำดานูบ ยิ่งยามค่ำคืนเขาจะเปิดไฟที่ตัว Hungarian Parliament และ Chain Bridge สวยงามมากจริง ๆ

          Tips : เราสามารถหาซื้อตั๋วนั่งเรือล่องแม่น้ำดานูบได้ที่บริเวณสะพานเชน มีหลายเจ้าให้เราเลือก ราคาไม่ค่อยต่างกันมากประมาณคนละ 270 บาท (2,200 โฟรินท์)

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

         

Prague (Czech Republic) – เมืองเก่าที่ยังคงมีมนตร์ขลังเหนือกาลเวลา

          มีคำกล่าวเอาไว้ว่า “เข็มนาฬิกาที่เมืองปราก ไม่ได้เดินช้ากว่าที่อื่น แต่ “กาลเวลา” ของปรากต่างหากที่เดินช้ากว่าเข็มนาฬิกา” ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ทุกประการครับ ผมประทับใจมากกับบรรยากาศสะพานชาลส์ในตอนรุ่งเช้า แสงอาทิตย์สีเหลืองอ่อนเป็นฉากหลังของรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกสีดำ ผมสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ของที่นี่มันมีมนตร์ขลังอย่างบอกไม่ถูก

          กรุงปราก (Prague) หรือที่คนท้องถิ่นว่าจะออกเสียงว่า ปราฮา (Praha) เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีเลยทีเดียว กรุงปรากตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำวัตตาวา (Vltava) ปรากขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของยุโรป ปรากมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปะและดนตรี ปรากได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก (UNESCO World Heritage Sites in Czech Republic)

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          Charles Bridge (สะพานชาลส์)

          สะพานชาลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวและถ่ายรูปคือตอนเช้า เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดี เพราะช่วงเวลานี้ผู้คนไม่พลุกพล่าน พวกเราตื่นกันแต่เช้า 05.30 น. ตั้งใจจะไปถ่ายรูปแสงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น

          ทั้งสองข้างของสะพานชาลส์จะประดับไปด้วยรูปปั้นของนักบุญในศาสนาคริสต์ทั้งหมด 30 รูป ตามตำนานเล่าว่าท่านเหล่านั้นถูกโยนลงแม่น้ำวัลตาวาโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่ง เนื่องจากท่านนักบวชปฏิเสธที่จะเปิดเผยความลับว่าพระราชินีของพระองค์มาสารภาพบาปว่าอะไรบ้าง ท่านยอมที่จะให้ความลับนั้นตายไปกับตัวของท่านเอง

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

St. Vitus Cathedral (มหาวิหารเซนต์วิตัส)

          สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ด้วยศิลปะแบบโกธิค เป็นที่เก็บมงกุฎเพชรซึ่งทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาลส์ที่ 4 เป็นวิหารที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดของพระราชวังปราก (Prague Castle)

เที่ยวยุโรป

          ผมชอบรถรางที่ปรากครับ มีความสวยงามและคลาสสิกมากจริง ๆ

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

         

Cesky Krumlov – เชสกีกรุมลอฟ เมืองเล็ก ๆ ดุจเทพนิยาย

          ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนังแนวเทพนิยายที่มีความแฟนตาซีแบบผม อย่างเช่นเรื่อง Lord of the Ring, Narnia, Hobbit คุณจะต้องชอบที่นี่มากอย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้เต็มเปี่ยมด้วยบรรยากาศของเทพนิยาย ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกย้อนยุคจนคุณไม่อยากกลับไปในโลกปัจจุบัน

          เชสกีกรุมลอฟเป็นเมืองเล็ก ๆ ในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมหลังคาสีส้ม บ้านเรือนที่นี่เขาแต่งได้น่ารักมาก  เราใช้เวลาเดินเที่ยวทั้งวันสำหรับ Old Town Square ซึ่งเป็นจัตุรัสเมืองเก่าแห่งนี้และ Cesky Krumlov Castle ปราสาทครุมลอฟ มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

Hallstatt (Austria) ฮัลล์สตัทท์ เมืองริมทะเลสาบวิวมรดกโลก

          วินาทีแรกที่ผมได้มาถึงฮัลล์สตัทท์ ผมรู้สึกสตั๊นต์ไปชั่วขณะ ทำไมมันสวยงามได้ขนาดนี้ พร้อมกับรู้สึกแอบอิจฉาคนที่เขาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ พวกเขาจะได้ตื่นนอนมาแล้วเจอกับวิวทะเลสาบที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยหุบเขาแบบนี้ในทุก ๆ เช้า

          ฮัลล์สตัทท์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศออสเตรีย (Austria) เชื่อหรือไม่ครับว่าฮัลล์สตัทท์มีประชากรไม่ถึงพันคน (ประชากร 946 คน จากการสำรวจปี 2001)

          Tips : ที่พักของพวกเราอยู่ฝั่ง Obertraun ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่ง Hallstatt เราพักที่โรงแรมชื่อ Seehotel am Hallstätter See, ที่ Obertraun ที่พักจะมีราคาถูกกว่าที่ตัว Hallstatt  เราสามารถนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวฝั่ง Hallstatt ได้โดยตัวโรงแรมอยู่ติดกับท่าเรือเลยครับ

          I wanna wake up and see this View every day.

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

         

Salzburg (Austria)

          จากฮัลล์สตัทท์พวกเรานั้ง OBB train มาลงที่ Bad Ichi แล้วนั่งรถบัสต่อไปที่ Salzburg Hbf ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมือง Salzburg คำว่า “ซาลส์” (Salz)  เป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า “เกลือ” คล้ายกับคำว่า “ซอลท์” (Salt) ในภาษาอังกฤษครับ
 
          Salzburg แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งเมืองใหม่และฝั่งเมืองเก่า โดยมีแม่น้ำ Salzach ไหลผ่านกลางเมือง ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1997 หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเมืองซาลส์บวร์ก Salzburg เป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังระดับโลกอย่าง โมสาร์ท (Mozart) และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง The Sound of Music ที่โด่งดัง เมืองนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ตามพวกเราไปเลยครับ

See also  อาการของโรคเบาหวาน [Thonburi Health Share EP28] | อาการ เบาหวาน

          * Tips : สำหรับคนที่ไม่ได้ค้างที่เมือง Salzburg นี้ เราสามารถฝากกระเป๋าได้ที่สถานีรถไฟ Salzburg Hbf แล้วค่อยเดินเที่ยว โดยเราไม่ต้องซื้อตั๋วรถอะไรทั้งนั้น เพราะจุดท่องเที่ยวแต่ละที่ในเมืองนี้ไม่ห่างจากสถานีรถไปหลัก Salzburg Hbf มากนัก 800-900 เมตรโดยประมาณ

เที่ยวยุโรป

         

Mirabell Gardens (สวนมิราเบล)

          เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดในซาล์ลบวร์ก ซึ่งเดิมทีเป็นสวนในพระราชวัง เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังระดับโลก The Sound of Music เรื่องย่อมีอยู่ว่าพ่อม่ายนายพันเศรษฐี มีลูกติด 7 คน ซึ่งเลี้ยงลูกด้วยความเข้มงวด ทำให้ลูก ๆ แต่ละคนมีนิสัยก้าวร้าว แข็งกระด้าง ต่อมาคุณพ่อม่ายก็ได้จ้างแม่ชีสาวสวยนามว่า มาเรีย มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ เธอถูกกลั่นแกล้งโดยเด็ก ๆ ทั้ง 7 คน แต่เธอก็รับมือกับเด็ก ๆ ได้ และกลายเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เสียด้วย เธอสอนให้เด็ก ๆ รู้จักการร้องเพลงและการแสดง จนบ้านหลังนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น ในที่สุดผู้พันก็ตกหลุมรักมาเรียและแต่งงานกันในที่สุด

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

         

จัตุรัสเรสซิเดนท์ (Residenzplatz)

          เป็นจัตุรัสย่านกลางเมืองอยู่ใกล้มหาวิหารแห่งเมืองซาลส์บวร์ก ( Salzburg Cathedral)

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

          Munich (Germany)

          Munich แต่คนเยอรมันจะเรียกกันว่า มึนเช่น (München) ตัวเมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำอิซาร์ (Isar) เหนือเทือกเขาแอลป์ เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) หรือในภาษาเยอรมันที่เรียกว่า บาเยิร์น (Bayern)

          จาก Salzburg พวกเรานั้งรถไฟไป Munich โดยซื้อตั๋ว Bayern Ticket 4 คน 43 ยูโร (เฉลี่ยตกคนละ 11 ยูโร เอง) โดยเป็นตั๋วแบบเหมาขึ้น-ลงกี่ครั้งก็ได้

          – วันจันทร์-ศุกร์ ตั๋ว Bayern Ticket จะสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ตอนเช้า 09.00 น. ไปจนถึงตี 3 ในวันถัดไป (18 hours)

          – วันเสาร์-อาทิตย์ Bayern Ticket จะสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ตอนเที่ยง 12.00 น. ไปจนถึงตี 3 ในวันถัดไป (27 hours)

          Marienplatz (มาเรียนพลาตซ์)

          เป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่าง ๆ

เที่ยวยุโรป

          Victuals Market – อยู่ใกล้ ๆ กับมาเรียนพลาตซ์ เป็นตลาดนัดขนาดย่อมของคนในมิวนิก โดยสินค้าจะมีขายทั่วไปตั้งแต่พืชผัก ผลไม้ น้ำปั่น อาหาร ร้านกาแฟ

เที่ยวยุโรป

          * Recommended restaurant : ฮอฟบราวเฮาส์ (Hofbräuhaus München) ส่วนตัวผมชอบบรรยากาศที่นี่มาก ครึกครื้น คือคนที่มากินที่นี่ดูมีความสุข มีดนตรีสดด้วยออกแนวย้อนยุคได้บรรยากาศมากครับ ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังและเป็นร้านเก่าแก่ของมิวนิกคนเยอะมาก อาจจะไม่มีที่นั่งต้องรีบมานะครับ

เที่ยวยุโรป

         

Fussen (Germany) ปราสาทนอยชวานชไตน์ Neuschwanstein

          เคยไหมครับตอนเด็ก ๆ เวลาเราอ่านนิทานแล้วก็อดที่จะจินตนาการไม่ได้ว่าในอดีตคงมีพระราชา พระราชินี เจ้าหญิง เจ้าชาย และทหารองครักษ์คนรับใช้ผู้จงรักภักดี อยู่ในปราสาทหลังใหญ่ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน การได้มาเที่ยวที่ปราสาทนอยชวานชไตน์ทำให้ได้เติมเต็มความคิดตอนเด็ก ๆ ว่าปราสาทเจ้าหญิงเจ้าชายมีอยู่จริงไม่ได้มีเฉพาะแต่ในนิทาน

เที่ยวยุโรป

          การเดินทางจาก Munich ไปปราสาท Neuschwanstein

          เราซื้อตั๋ว Bayern Ticket ตั๋วสุดคุ้มที่ใช้การเดินทางในรัฐบาวาเรีย (Bavaria)

          1. นั่งรถไฟจากสถานี Munchen Hbf ไปยังสถานี Fussen (ใช้เวลา 2 hrs) ใช้ตั๋ว Bayern Ticket

          2. จากสถานี Fussen ต้องต่อรถบัสสีแดง (รถบัสสาย 73 หรือ 78) จอดอยู่ด้านขวาของสถานีรถไฟ เพื่อไปยังที่ทำการปราสาท (ใช้เวลา 10 นาที)

          3. เมื่อถึงที่ทำการปราสาทต้องซื้อตั๋วรถ Shuttle bus สีน้ำเงิน กับตั๋วเข้าชมภายในปราสาทนอยชวานชไตน์คนละ 13 ยูโร

          * Tips: การเข้าชมตัวปราสาทนอยชวานชไตน์เขามี Audio Guide เป็นภาษไทยด้วยนะครับ ภายในตัวปราสาทสวยงามมากแต่เสียดายห้ามถ่ายรูป เก็บเอาไว้ในความทรงจำก็มีความสุขมากแล้วครับ

เที่ยวยุโรป

         

Vienna (Austria) นครแห่งดนตรีคลาสสิกและศิลปะ

          Vienna หรือ Wien คือเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องดนตรีคลาสสิกและศิลปะ ตอนแรกพวกเราแพลนกันว่าจะไปเที่ยวพระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn) ที่มีความงดงามดั่งพระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจมีฝนตกในช่วงเช้า ทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนแพลนไปเที่ยวพิพิธพันธ์ Belvedere แทน

เที่ยวยุโรป

          The Belvedere (Museum – Art gallery & World Heritage Site)

          สมัยก่อนที่นี่คือพระราชวังฤดูร้อน หรืออีกชื่อหนึ่งว่าพระราชวังเบลเวเดียร์ (Belvedere palace) ของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย Prince Eugene of Savoy ที่ Belvedere มีงานศิลปะระดับโลกมากมาย ที่มีชื่อเสียงที่สุดคืองานจิตรกรรมสีน้ำมันปิดทองบนผ้าใบที่เขียนโดย กุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) จิตรกรชาวออสเตรีย ภาพวาดชื่อ The Kiss ถือเป็นงานชิ้นสำคัญที่สุดของคลิมต์

เที่ยวยุโรป

          * Recommended restaurant : สำหรับ Dinner ต้องติดดาวให้เลย ถ้ามาเวียนนาต้องอย่าพลาดมาที่นี่ Rips of Vienna ซี่โครงหมูยาวหนึ่งเมตรหั่นสามท่อนเนื้อนุ่มมากรสชาติรับรองถูกปากคนไทย ผู้จักการร้านเป็นคนน่ารักเป็นกันเองคุยสนุก ชอบมาเที่ยวเมืองไทย มากระบี่ทุกปี พอรู้ว่าพวกเราเป็นคนไทยก็เข้ามาคุยเม้าท์มอยกันอย่างเป็นกันเอง

เที่ยวยุโรป

         

ทำไมต้องไปเที่ยวยุโรปตะวันออก

          1. ยุโรปตะวันออกมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันก็ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมให้ท่องเที่ยวได้มาค้นหา

          2. จากที่ได้สัมผัสคนยุโรปตะวันออกมีความ Friendly มีน้ำใจ หลาย ๆ คนพอรู้ว่าพวกเราเป็นคนไทยเขาจะช่วยเหลือดีมาก แล้วเขาก็จะเล่าให้เราฟังว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนบ้างในเมืองไทย มันทำให้เรารู้ว่าคนที่นี่ชอบมาเที่ยวเมืองไทย บางคนมาเที่ยวบ้านเราทุกปี

          3. ค่าครองชีพที่นี่ไม่แพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับยุโรปฝั่งตะวันตก ยกเว้นน้ำเปล่าแพงมาก ขวดละ 2-3 ยูโร ประมาณ70-100 บาท

          4. สวรรค์ของนักดื่มเบียร์ ไวน์ ราคาถูกมาก เบียร์ขวดละไม่กี่สิบบาท ไวน์รสชาติดีขวดละแค่ร้อยกว่าบาทเองครับ

          5. การเดินทางในยุโรปตะวันออกสะดวกสบายมาก ระบบขนส่งมวลชนครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยว และที่ผมชอบมากคือพวกตั๋วต่าง ๆ เช่นตั๋ว Day ตั๋ว Week ที่ผมตั้งชื่อให้ว่าตั๋วบูรณาการ คือตั๋วใบเดียวใช้ได้กับขนส่งมวลชนเกือบทุกประเภท 

          เมื่อนับข้อดีได้ 5 ข้อแล้วก็อย่าลังเลที่จะใส่ทริปยุโรปตะวันออกไว้ใน Travel list ของเพื่อน ๆ นะครับ เชื่อผมยุโรปไปเองได้ ไม่ไกลเกินฝัน

          * ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ Google map สถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 8 เมือง หรือตารางการท่องเที่ยวที่เป็น Excel file เพื่อน ๆ สามารถทิ้ง email address ไว้ใน comment หรือหลังไมค์มาได้นะครับแล้วผมจะอีเมล excel file ที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างในทริปนี้ส่งไปให้ครับ

เที่ยวยุโรป

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

1. Budapest (Hungary) – บูดาเปสต์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ คลาสสิก โรแมนติก สวยทุกมุมมอง2. Prague (Czech Republic) – ปราก เมืองเก่าที่ยังคงมีมนตร์ขลังเหนือกาลเวลา3. Cezky Krumlov (Czech republic) – เชสกีกรุมลอฟ เมืองแห่งเทพนิยายที่มีอยู่จริงบนโลก4. Hallstatt (Austria) – ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก5. Salzburg (Austria) – ซาลซ์บูร์ก บ้านเกิดโมสาร์ท นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกระดับโลก6. Munich (Germany) – มิวนิกสวรรค์ของนักดื่มเบียร์และขาหมูเยอรมันอันเลื่องชื่อ7. Fussen (Germany) Neuschwanstein Castle – ปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา8. Vienna (Austria) – เวียนนา เมืองที่พร้อมให้คุณได้ดื่มด่ำกับงานศิลปะระดับโลกสวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ที่ผมกับเพื่อน ๆ ได้ไปท่องเที่ยวยุโรปตะวันออก 4 ประเทศ 8 เมือง รวมทั้งหมด 13 วัน กับค่าใช้จ่ายตลอดทริป 55,500 บาท เป็นการท่องเที่ยวแบบ Backpack ที่พวกเราแพลนเที่ยวกันเอง ทริปนี้มีสมาชิกร่วมอุดมการณ์ 4 คน ยุโรปทริปของพวกเราเกิดจากการรวมตัวของคนที่รักในการท่องเที่ยวและยากจะไปยุโรปตะวันออก เมืองที่มีความคลาสสิกและสวยงามโดยเนื้อหาของการรีวิวในส่วนแรกนี้ผมจะเน้นที่การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง การเขียนแผนการเดินทาง (Travel itinerary) เพื่อยื่นขอเชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) การจองที่พัก การใช้ Google map ในการวางแผนเที่ยวในแต่ละเมือง ค่าใช้จ่าย (Budget) และสุดท้ายเป็นการวีวิวการท่องเที่ยวในแต่ละเมือง ส่วนรายละเอียดแบบเจาะลึกนั้นผมจะมารีวิวอีกทีในครั้งต่อไปนะครับผมหวังว่าการรีวิวของผมในครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อน ๆ อย่าเก็บความฝันที่อยากจะเที่ยวยุโรปไว้เป็นเพียงแค่ความฝัน เชื่อผมยุโรปไปเองได้ง่ายนิดเดียวฝากรีวิวแรกที่ผมเขียนด้วยนะครับสำคัญมากนะครับเพราะเราจะได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของการแต่งตัวรวมถึงการวางแผนการเที่ยวได้ถูก โดยทริปนี้พวกเราเลือกเดิน ทางวันที่ 12-24 ตุลาคม 2017 ซึ่งเป็นช่วง Autumn อากาศก็จะเริ่มเย็นลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นฤดูที่น่าเที่ยวของยุโรปอยู่นะครับ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองปนน้ำตาล อากาศช่วงนี้กำลังเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยก็สิบกว่าองศา กลางวันจะยังคงยาวนานกว่าช่วงหน้าหนาว ทำให้มีเวลาเที่ยวเยอะมากกว่าครับ ช่วงที่พวกเราไปกันเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงพอดี บรรยากาศมันก็จะเหลือง ๆ น้ำตาล ๆ หน่อยครับก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าวีซ่าเชงเก้น (Shengen) กันก่อนนะครับ เชงเก้นเป็นวีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศในโซนยุโรป วีซ่านี้สามารถท่องเที่ยวได้ 26 ประเทศในยุโรโซน โดยการเลือกขอวีซ่าเชงเก้นกับประเทศไหนดี มีวิธีพิจารณาอยู่ 2 ข้อ คือ1. เลือกขอวีซ่ากับประเทศที่อยู่นานที่สุด2. กรณีที่เดินทางเฉลี่ยเท่ากันทุกประเทศ ให้ขอวีซ่ากับประเทศที่เข้าเป็นประเทศแรกพวกเราอยู่ฮังการีนานสุดรวม 4 วัน เราจึงขอวีซ่ากับประเทศนี้ โดยรายละเอียดของเอกสารที่ต้องเตรียมสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของทางสถานทูตฮังการี Link : https://bangkok.mfa.gov.hu/tha/page/konzuli-tajekoztatas สำหรับการเขียนแผนการเดินทาง (Travel itinerary) เพื่อยื่นขอเชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) เป็นการเขียนบอกรายละเอียดว่าเราจะไปที่ไหนบ้าง ไปอย่างไร พักที่ไหน เป็นระยะเวลานานแค่ไหน โดยต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ การยื่นขอวีซ่ากับทางสถานทูตฮังการีถ้าเอกสารเราพร้อมเขียนแผนการเดินทางชัดเจน วีซ่าผ่านแน่นอนไม่ต้องสัมภาษณ์ด้วยครับการเลือกที่พัก สิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือ Location คือต้องใกล้ระบบขนส่งสถานีรถไฟ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง เพราะเราคงไม่อยากเหนื่อยในการลากกระเป๋าเดินไกล ๆ ผมมีทริคส่วนตัวครับ โดยผมจะใช้อยู่ 3 application/websites ในการเลือกที่พัก1. Booking.com ที่พักส่วนใหญ่จะสามารถยกเลิกได้ จองก่อนได้เลยแล้วค่อยจ่ายเงินที่หลังเมื่อไปถึงโรงแรมตัว application ใช้ง่าย2. Maps.google.com (Google map street view) อันนี้ใช้ดูสถานที่จริง ถึงแม้ตัวเราจะอยู่เมืองไทยแต่เราสามารถเข้าไปดูสถานที่จริงก่อนไปได้3. TripAdvisor.com เป็นรีวิวจากนักเดินทางจริง ๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติเขาจะค่อนข้าง comment กันตามจริง ตั้งแต่การบริการ ความสะอาด ไปจนถึงที่ตั้งของโรงแรม ตารางข้างล่างผมรวบรวมที่พักตลอดทริปยุโรปของพวกเรา ผมทำเป็นตารางจะได้ง่ายในการจัดการที่พักของพวกเราห้องจริงกับรูปในอินเทอร์เน็ตก็จะเหมือน ๆ กันครับ ตกแต่งภายในสไตล์วินเทจการเดินทาง Public Transportation ในยุโรปตะวันออกมีความสะดวกสบายมาก โดยผมจะแบ่งการเดินทางออกเป็น 2 ส่วนนะครับ1. การเดินทางภายในตัวเมือง ส่วนใหญ่แล้วก็จะเหมือน ๆ กันหมดทุกเมือง คือ- รถไฟใต้ดินหรือเมโทร (Metro)- รถเมล์ลากหรือโทรลิบุช (Trolley bus) ที่วิ่งตามสายเคเบิล- รถราง (Tram) รถเมล์ (Bus)2. การเดินทางระหว่างเมืองและการเดินทางระหว่างประเทศทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 4 ประเทศ 8 เมือง เราใช้บริการทั้งรถบัส (บริษัท Student Agency, Flix bus, CK Shuttle) และรถไฟ (ของ ÖBB, DB)- Student Agency บริษัทนี้ให้บริการเดินรถในหลาย ๆ ประเทศในยุโรป หลายคนพอได้ยินชื่อก็จะคิดว่าบริษัทนี้ให้บริการเฉพาะนักเรียน แต่จริง ๆ แล้วเขาให้บริการกับทุกคน มี Wi-Fi Free บริการบนรถด้วยนะครับ- CK Shuttle เป็นบริษัทที่ให้บริการในลักษณะ door-to-door service เลือกได้ว่าจะให้เขาไปรับไปส่งเราที่ไหน- ÖBB (Österreichische Bundesbahnen) เป็นองค์กรรถไฟแห่งชาติของประเทศออสเตรีย- DB (Deutsche Bundesbahn) เป็นบริษัทรถไฟหลักในประเทศเยอรมนีซึ่งเหมือนเช่นเคย ผมได้จอง online ไว้หมดแล้วจากเมืองไทย ผมสรุปให้ดูง่ายในแผนภาพนี้นะครับสำหรับพวกเราทริปนี้เป็นการไปเที่ยวยุโรปตะวันออกครั้งแรก ดังนั้นพวกเราจะให้ความสำคัญกับการทำการบ้าน ศึกษาขอมูลก่อนไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนอกจากจะหาร้านอาหารหรือสถานที่เที่ยวที่เป็น highlight หรือ the must แล้วสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการศึกษาข้อมูลว่าเราต้องถ่ายรูปจากจุดไหนถึงจะได้รูปภาพที่สวยงาม ซึ่งผมได้รวบรวมทริคต่าง ๆ ไว้แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่มืออาชีพในการถ่ายรูป เราก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้ครับเป็นการวาดภาพในหัวให้เราสามารถจินตนาการได้ว่าสถานที่เที่ยวต่าง ๆ อยู่ตรงไหนบ้าง ใกล้หรือไกลแค่ไหนจะได้วางแผนได้ว่าจะเดินไปหรือนั่งรถไฟเป็นต้น ซึ่งผมจะใช้ Google map แล้วเอามาใส่ใน Excel ทำแผนที่ท่องเที่ยวแบบเดียวกันนี้กับทุกเมืองทั้ง 8 เมืองตลอดทริปนี้ครับ ดั่งตัวอย่างรูปนี้เป็นเมืองปรากขอรีวิวจากประสบการณ์ตรงเลยนะครับ ประทับใจกับ AIS SIM2Fly มาก สัญญาณอินเทอร์เน็ตถือว่าแรงดีเลยทีเดียว ในทุก ๆ เมืองที่ผมไปตลอดทริปนี้ ผมใช้ทั้ง Facebook Live, Upload รูปลง Social Network ตลอดเวลา หรือใช้ Google map หาเส้นทาง บอกเลยว่า 4GB ยังเหลือครับ แนะนะเลยครับว่า Sim2Fly ของ AIS เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก 899 บาท สามารถเล่นเน็ตได้เต็มสปีด 4GB นาน 15 วัน ผมว่าวิธีคำนวณจำนวน GB ที่ใช้ต่างจากบ้านเราครับ เพราะว่าผมใช้อย่างไงก็ไม่เกินครับ ส่วน Pocket Wi-Fi ขอเสียคือราคาแพงกว่า และคุณต้องจับกลุ่มกันไปตลอดทริป ไม่งั้นสัญญาณ Wi-Fi จะหลุดทันทีต่างกับ internet sim ที่ให้อิสระในการใช้งานมากว่านั้นเองค่าใช้จ่ายตลอดทริปของพวกเรา 4 ประเทศ 8 เมืองรวมทั้งหมด 13 วัน โดยแบ่งตามประเภทค่าใช้จ่าย ดังนี้บูดาเปสต์เมืองนี้อาจไม่คุ้นหูคนไทยเท่าไรเมื่อเปรียบเทียบกับปรากหรือเวียนนา แต่ผมอยากจะบอกว่าเป็นเมืองที่ผมประทับใจมากที่สุดในทริปนี้เลยทีเดียว มันมีความคลาสสิกไปซะทุกที่ในเมืองนี้ มีความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรม สถานีรถไฟ ตึกร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงผู้คนที่นี่ก็ใจดีด้วยครับบูดาเปสต์เป็นเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน บูดาเปสต์เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี โดยถูกแบ่งเป็นสองฝั่งโดยมีแม่น้ำดานูบ (Danube) ไหลผ่าน คือ Buda เป็นฝั่งเมืองเช้าวันแรกที่บูดาเปสต์ พวกเราตื่นนอนกันแต่เช้าเดินทางไป Fisherman’s Bastion เพื่อถ่ายรูปให้ได้แสงยามเช้า เมื่อก่อนที่นี่เป็นป้อมปราการ ชาวประมงใช้เป็นที่ป้องกันข้าศึกหันหน้าออกสู่แม่น้ำดานูบ ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นอาคารรัฐสภา Hungarian Parliament Building ที่อยู่ติดแม่น้ำดานูบ สวยงามมากจริง ๆสะพานเชน (Chain Bridge) หรือสะพานโซ่ ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นมาเพื่อข้ามแม่น้ำดานูบ จุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ เป็นสะพานที่มีความสวยงาม ตรงสะพานเชนนี้มีรูปปั้นแกะสลักสิงโต ในยามค่ำคืนสะพานนี้จะเปิดไฟสวยงามมากเช่นกันอาสนวิหารที่สร้างขึ้นอุทิสแก่นักบุญสตีเฟ่น ท่านเป็น “ปฐมมรณสักขี” เป็นคนแรกที่ยอมพลีชีพเพื่อศาสนาคริสต์ ท่านถูกขว้างด้วยก้อนหินจนตาย ราวปี ค.ศ. 35เป็นอีกหนึ่งสะพานที่เซื่อมระหว่างฝั่ง Buda (เมืองเก่า) กับฝั่ง Pest (เมืองใหม่) เข้าด้วยกัน เป็นสะพานที่มีสีเขียว อยู่ใกล้กับ Gellért Hill ตัวสะพานจะไปบรรจบกับทางเข้า Central Market Hallไม่ว่าคุณจะดื่มกาแฟหรือไม่ ก็ไม่ควรพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวง New York Cafe เป็นคาเฟ่ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก โดยคาเฟ่แห่งนี้ได้ถูกสร้างในแบบ Italian Renaissance ในปี 1894 ภายในตบแต่งด้วยสีเหลืองทองหรูหราอย่างมาก หลายคนคงสงสัยทำไมชื่อ New York ที่มาของชื่อเป็นเพราะอดีตเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของ New York Life Insurance Company (NYLIC) ประจำที่กรุงบูดาเปสต์มาก่อนนั้นเอง ก่อนจะมาทำเป็นคาเฟ่ร้านกาแฟในปัจจุบันอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก ผมยกให้เป็นไฮไลท์อันดับหนึ่งของผมเลยครับ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผมประทับใจมาก และที่ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงคือการนั่งเรือล่องแม่น้ำดานูบ ยิ่งยามค่ำคืนเขาจะเปิดไฟที่ตัว Hungarian Parliament และ Chain Bridge สวยงามมากจริง ๆTips : เราสามารถหาซื้อตั๋วนั่งเรือล่องแม่น้ำดานูบได้ที่บริเวณสะพานเชน มีหลายเจ้าให้เราเลือก ราคาไม่ค่อยต่างกันมากประมาณคนละ 270 บาท (2,200 โฟรินท์)มีคำกล่าวเอาไว้ว่า “เข็มนาฬิกาที่เมืองปราก ไม่ได้เดินช้ากว่าที่อื่น แต่ “กาลเวลา” ของปรากต่างหากที่เดินช้ากว่าเข็มนาฬิกา” ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ทุกประการครับ ผมประทับใจมากกับบรรยากาศสะพานชาลส์ในตอนรุ่งเช้า แสงอาทิตย์สีเหลืองอ่อนเป็นฉากหลังของรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกสีดำ ผมสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ของที่นี่มันมีมนตร์ขลังอย่างบอกไม่ถูกกรุงปราก (Prague) หรือที่คนท้องถิ่นว่าจะออกเสียงว่า ปราฮา (Praha) เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีเลยทีเดียว กรุงปรากตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำวัตตาวา (Vltava) ปรากขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของยุโรป ปรากมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปะและดนตรี ปรากได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก (UNESCO World Heritage Sites in Czech Republic)สะพานชาลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวและถ่ายรูปคือตอนเช้า เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดี เพราะช่วงเวลานี้ผู้คนไม่พลุกพล่าน พวกเราตื่นกันแต่เช้า 05.30 น. ตั้งใจจะไปถ่ายรูปแสงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้นทั้งสองข้างของสะพานชาลส์จะประดับไปด้วยรูปปั้นของนักบุญในศาสนาคริสต์ทั้งหมด 30 รูป ตามตำนานเล่าว่าท่านเหล่านั้นถูกโยนลงแม่น้ำวัลตาวาโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่ง เนื่องจากท่านนักบวชปฏิเสธที่จะเปิดเผยความลับว่าพระราชินีของพระองค์มาสารภาพบาปว่าอะไรบ้าง ท่านยอมที่จะให้ความลับนั้นตายไปกับตัวของท่านเองสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ด้วยศิลปะแบบโกธิค เป็นที่เก็บมงกุฎเพชรซึ่งทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาลส์ที่ 4 เป็นวิหารที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดของพระราชวังปราก (Prague Castle)ผมชอบรถรางที่ปรากครับ มีความสวยงามและคลาสสิกมากจริง ๆถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนังแนวเทพนิยายที่มีความแฟนตาซีแบบผม อย่างเช่นเรื่อง Lord of the Ring, Narnia, Hobbit คุณจะต้องชอบที่นี่มากอย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้เต็มเปี่ยมด้วยบรรยากาศของเทพนิยาย ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกย้อนยุคจนคุณไม่อยากกลับไปในโลกปัจจุบันเชสกีกรุมลอฟเป็นเมืองเล็ก ๆ ในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมหลังคาสีส้ม บ้านเรือนที่นี่เขาแต่งได้น่ารักมาก เราใช้เวลาเดินเที่ยวทั้งวันสำหรับ Old Town Square ซึ่งเป็นจัตุรัสเมืองเก่าแห่งนี้และ Cesky Krumlov Castle ปราสาทครุมลอฟ มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปีวินาทีแรกที่ผมได้มาถึงฮัลล์สตัทท์ ผมรู้สึกสตั๊นต์ไปชั่วขณะ ทำไมมันสวยงามได้ขนาดนี้ พร้อมกับรู้สึกแอบอิจฉาคนที่เขาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ พวกเขาจะได้ตื่นนอนมาแล้วเจอกับวิวทะเลสาบที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยหุบเขาแบบนี้ในทุก ๆ เช้าฮัลล์สตัทท์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศออสเตรีย (Austria) เชื่อหรือไม่ครับว่าฮัลล์สตัทท์มีประชากรไม่ถึงพันคน (ประชากร 946 คน จากการสำรวจปี 2001)Tips : ที่พักของพวกเราอยู่ฝั่ง Obertraun ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่ง Hallstatt เราพักที่โรงแรมชื่อ Seehotel am Hallstätter See, ที่ Obertraun ที่พักจะมีราคาถูกกว่าที่ตัว Hallstatt เราสามารถนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวฝั่ง Hallstatt ได้โดยตัวโรงแรมอยู่ติดกับท่าเรือเลยครับI wanna wake up and see this View every day.จากฮัลล์สตัทท์พวกเรานั้ง OBB train มาลงที่ Bad Ichi แล้วนั่งรถบัสต่อไปที่ Salzburg Hbf ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมือง Salzburg คำว่า “ซาลส์” (Salz) เป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า “เกลือ” คล้ายกับคำว่า “ซอลท์” (Salt) ในภาษาอังกฤษครับSalzburg แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งเมืองใหม่และฝั่งเมืองเก่า โดยมีแม่น้ำ Salzach ไหลผ่านกลางเมือง ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1997 หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเมืองซาลส์บวร์ก Salzburg เป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังระดับโลกอย่าง โมสาร์ท (Mozart) และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง The Sound of Music ที่โด่งดัง เมืองนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ตามพวกเราไปเลยครับ* Tips : สำหรับคนที่ไม่ได้ค้างที่เมือง Salzburg นี้ เราสามารถฝากกระเป๋าได้ที่สถานีรถไฟ Salzburg Hbf แล้วค่อยเดินเที่ยว โดยเราไม่ต้องซื้อตั๋วรถอะไรทั้งนั้น เพราะจุดท่องเที่ยวแต่ละที่ในเมืองนี้ไม่ห่างจากสถานีรถไปหลัก Salzburg Hbf มากนัก 800-900 เมตรโดยประมาณเป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดในซาล์ลบวร์ก ซึ่งเดิมทีเป็นสวนในพระราชวัง เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังระดับโลก The Sound of Music เรื่องย่อมีอยู่ว่าพ่อม่ายนายพันเศรษฐี มีลูกติด 7 คน ซึ่งเลี้ยงลูกด้วยความเข้มงวด ทำให้ลูก ๆ แต่ละคนมีนิสัยก้าวร้าว แข็งกระด้าง ต่อมาคุณพ่อม่ายก็ได้จ้างแม่ชีสาวสวยนามว่า มาเรีย มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ เธอถูกกลั่นแกล้งโดยเด็ก ๆ ทั้ง 7 คน แต่เธอก็รับมือกับเด็ก ๆ ได้ และกลายเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เสียด้วย เธอสอนให้เด็ก ๆ รู้จักการร้องเพลงและการแสดง จนบ้านหลังนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น ในที่สุดผู้พันก็ตกหลุมรักมาเรียและแต่งงานกันในที่สุดเป็นจัตุรัสย่านกลางเมืองอยู่ใกล้มหาวิหารแห่งเมืองซาลส์บวร์ก ( Salzburg Cathedral)Munich แต่คนเยอรมันจะเรียกกันว่า มึนเช่น (München) ตัวเมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำอิซาร์ (Isar) เหนือเทือกเขาแอลป์ เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) หรือในภาษาเยอรมันที่เรียกว่า บาเยิร์น (Bayern)จาก Salzburg พวกเรานั้งรถไฟไป Munich โดยซื้อตั๋ว Bayern Ticket 4 คน 43 ยูโร (เฉลี่ยตกคนละ 11 ยูโร เอง) โดยเป็นตั๋วแบบเหมาขึ้น-ลงกี่ครั้งก็ได้- วันจันทร์-ศุกร์ ตั๋ว Bayern Ticket จะสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ตอนเช้า 09.00 น. ไปจนถึงตี 3 ในวันถัดไป (18 hours)- วันเสาร์-อาทิตย์ Bayern Ticket จะสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ตอนเที่ยง 12.00 น. ไปจนถึงตี 3 ในวันถัดไป (27 hours)เป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่าง ๆ– อยู่ใกล้ ๆ กับมาเรียนพลาตซ์ เป็นตลาดนัดขนาดย่อมของคนในมิวนิก โดยสินค้าจะมีขายทั่วไปตั้งแต่พืชผัก ผลไม้ น้ำปั่น อาหาร ร้านกาแฟ* Recommended restaurant : ฮอฟบราวเฮาส์ (Hofbräuhaus München) ส่วนตัวผมชอบบรรยากาศที่นี่มาก ครึกครื้น คือคนที่มากินที่นี่ดูมีความสุข มีดนตรีสดด้วยออกแนวย้อนยุคได้บรรยากาศมากครับ ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังและเป็นร้านเก่าแก่ของมิวนิกคนเยอะมาก อาจจะไม่มีที่นั่งต้องรีบมานะครับเคยไหมครับตอนเด็ก ๆ เวลาเราอ่านนิทานแล้วก็อดที่จะจินตนาการไม่ได้ว่าในอดีตคงมีพระราชา พระราชินี เจ้าหญิง เจ้าชาย และทหารองครักษ์คนรับใช้ผู้จงรักภักดี อยู่ในปราสาทหลังใหญ่ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน การได้มาเที่ยวที่ปราสาทนอยชวานชไตน์ทำให้ได้เติมเต็มความคิดตอนเด็ก ๆ ว่าปราสาทเจ้าหญิงเจ้าชายมีอยู่จริงไม่ได้มีเฉพาะแต่ในนิทานการเดินทางจาก Munich ไปปราสาท Neuschwansteinเราซื้อตั๋ว Bayern Ticket ตั๋วสุดคุ้มที่ใช้การเดินทางในรัฐบาวาเรีย (Bavaria)1. นั่งรถไฟจากสถานี Munchen Hbf ไปยังสถานี Fussen (ใช้เวลา 2 hrs) ใช้ตั๋ว Bayern Ticket2. จากสถานี Fussen ต้องต่อรถบัสสีแดง (รถบัสสาย 73 หรือ 78) จอดอยู่ด้านขวาของสถานีรถไฟ เพื่อไปยังที่ทำการปราสาท (ใช้เวลา 10 นาที)3. เมื่อถึงที่ทำการปราสาทต้องซื้อตั๋วรถ Shuttle bus สีน้ำเงิน กับตั๋วเข้าชมภายในปราสาทนอยชวานชไตน์คนละ 13 ยูโร* Tips: การเข้าชมตัวปราสาทนอยชวานชไตน์เขามี Audio Guide เป็นภาษไทยด้วยนะครับ ภายในตัวปราสาทสวยงามมากแต่เสียดายห้ามถ่ายรูป เก็บเอาไว้ในความทรงจำก็มีความสุขมากแล้วครับVienna หรือ Wien คือเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องดนตรีคลาสสิกและศิลปะ ตอนแรกพวกเราแพลนกันว่าจะไปเที่ยวพระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn) ที่มีความงดงามดั่งพระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจมีฝนตกในช่วงเช้า ทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนแพลนไปเที่ยวพิพิธพันธ์ Belvedere แทนสมัยก่อนที่นี่คือพระราชวังฤดูร้อน หรืออีกชื่อหนึ่งว่าพระราชวังเบลเวเดียร์ (Belvedere palace) ของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย Prince Eugene of Savoy ที่ Belvedere มีงานศิลปะระดับโลกมากมาย ที่มีชื่อเสียงที่สุดคืองานจิตรกรรมสีน้ำมันปิดทองบนผ้าใบที่เขียนโดย กุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) จิตรกรชาวออสเตรีย ภาพวาดชื่อ The Kiss ถือเป็นงานชิ้นสำคัญที่สุดของคลิมต์* Recommended restaurant : สำหรับ Dinner ต้องติดดาวให้เลย ถ้ามาเวียนนาต้องอย่าพลาดมาที่นี่ Rips of Vienna ซี่โครงหมูยาวหนึ่งเมตรหั่นสามท่อนเนื้อนุ่มมากรสชาติรับรองถูกปากคนไทย ผู้จักการร้านเป็นคนน่ารักเป็นกันเองคุยสนุก ชอบมาเที่ยวเมืองไทย มากระบี่ทุกปี พอรู้ว่าพวกเราเป็นคนไทยก็เข้ามาคุยเม้าท์มอยกันอย่างเป็นกันเอง1. ยุโรปตะวันออกมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันก็ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมให้ท่องเที่ยวได้มาค้นหา2. จากที่ได้สัมผัสคนยุโรปตะวันออกมีความ Friendly มีน้ำใจ หลาย ๆ คนพอรู้ว่าพวกเราเป็นคนไทยเขาจะช่วยเหลือดีมาก แล้วเขาก็จะเล่าให้เราฟังว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนบ้างในเมืองไทย มันทำให้เรารู้ว่าคนที่นี่ชอบมาเที่ยวเมืองไทย บางคนมาเที่ยวบ้านเราทุกปี3. ค่าครองชีพที่นี่ไม่แพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับยุโรปฝั่งตะวันตก ยกเว้นน้ำเปล่าแพงมาก ขวดละ 2-3 ยูโร ประมาณ70-100 บาท4. สวรรค์ของนักดื่มเบียร์ ไวน์ ราคาถูกมาก เบียร์ขวดละไม่กี่สิบบาท ไวน์รสชาติดีขวดละแค่ร้อยกว่าบาทเองครับ5. การเดินทางในยุโรปตะวันออกสะดวกสบายมาก ระบบขนส่งมวลชนครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยว และที่ผมชอบมากคือพวกตั๋วต่าง ๆ เช่นตั๋ว Day ตั๋ว Week ที่ผมตั้งชื่อให้ว่าตั๋วบูรณาการ คือตั๋วใบเดียวใช้ได้กับขนส่งมวลชนเกือบทุกประเภทเมื่อนับข้อดีได้ 5 ข้อแล้วก็อย่าลังเลที่จะใส่ทริปยุโรปตะวันออกไว้ใน Travel list ของเพื่อน ๆ นะครับ เชื่อผมยุโรปไปเองได้ ไม่ไกลเกินฝัน* ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ Google map สถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 8 เมือง หรือตารางการท่องเที่ยวที่เป็น Excel file เพื่อน ๆ สามารถทิ้ง email address ไว้ใน comment หรือหลังไมค์มาได้นะครับแล้วผมจะอีเมล excel file ที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างในทริปนี้ส่งไปให้ครับขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Uncle bear traveller สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

See also  เทคนิคลงสีตัวละครให้เข้ากับฉาก l by Kuro_sakura | วิธีลงสีทับเส้น

Nội Dung Bài Viết

[Update] แนะนำการกรอกแบบฟอร์ม VIDEX ขอวีซ่าเชงเก้นเยอรมัน | วีซ่ายุโรป – Sonduongpaper

แนะนำการกรอกแบบฟอร์ม VIDEX ขอวีซ่าเชงเก้นเยอรมัน

แบบฟอร์มการขอวีซ่าเชงเก้นเป็นในเอกสารสำคัญที่ผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าเชงเก้นเพื่อเดินทางไปยุโรปจะต้องกรอกและลงนามในใบสมัครอย่างเป็นทางการ

สำหรับการกรอกใบสมัครวีซ่าเชงเก้นของเยอรมันนั้น ผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์ม Videx ซึ่งเป็นแบบฟอร์มออนไลน์ โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มคำร้องที่นี่

การกรอกแบบฟอร์มวีซ่าเชงเก้นจะแบ่งเป็น 5 ส่วนหลักๆ ลองมาดูรายละเอียดกันเลย

1.Personal Data: ข้อมูลบุคคล

Applicant’s personal data: ข้อมูลบุคคลของผู้สมัคร

schengen visa application

Family name: นามสกุล (ตามที่ระบุไว้ในหนังสือการเดินทาง)
Name at birth: นามสกุลเดิม (สำหรับคนที่เปลี่ยนนามสกุลมาก่อน หรือคนที่แต่งงานแล้วเปลี่ยนนามสกุล) ถ้าใครที่ยังไม่เคยเปลี่ยนนามสกุลก็เว้นว่างไว้
First Name(s): ชื่อจริง
Date of birth: วันเกิด เรียงลำดับ วัน -เดือน – ปีค.ศ.
Place of birth: สถานที่เกิด (ตามที่ระบุไว้ในหนังสือการเดินทาง)
Country of birth: ประเทศที่เกิด (ตามที่ระบุไว้ในหนังสือการเดินทาง)
Sex: เพศ
– Male: ผู้ชาย
– Female: ผู้หญิง
– Unspecified: ไม่ระบุ
Marital status: สถานะ
– Unknown: ไม่ทราบ
– Single: โสด
– Married: แต่งงานแล้ว
– Separated: แยกกันอยู่
– Divorced: หย่าร้าง
– Widowed: หม้าย
– Civil partnership: การจดทะเบียนคู่ชีวิตของบุคคลเพศเดียวกัน
Current nationality: สัญชาติปัจจุบัน
Original nationality: สัญชาติโดยกำเนิด

Occupation ข้อมูลอาชีพ

schengen visa application
Current Occupation: เลือกอาชีพปัจจุบันของเราเอง
Company name and telephone number (For student, name and telephone number of educational establishment): ใส่ชื่อบริษัทที่ทำงาน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ สำหรับนักเรียนนักศึกษาให้ใส่ชื่อสถานศึกษาพร้อมเบอร์เบอร์โทรศัพท์
Street: ถนน
House Number: บ้านเลขที่
Other Address information: ที่อยู่เพิ่มเติม
Postal Code: รหัสไปรษณีย์
Town/City: ชื่อเมือง
Country: ประเทศ

2. Contact Data: ข้อมูลติดต่อ 

Application’s address: ที่อยู่ของผู้สมัคร

schengen visa application

Street: ถนน
House Number: บ้านเลขที่
Other Address information: ที่อยู่เพิ่มเติม
Postal Code: รหัสไปรษณีย์
Town/City: ชื่อเมือง
Country: ประเทศ
Is your residence in a country other than that of your current nationality?: มีถิ่นพำนักในประเทศที่ต่างจากสัญชาติปัจจุบันหรือไม่ ถ้าไม่ก็ข้ามไปได้เลย ส่วนถ้าใช่ก็คลิก Yes จะมีรายละเอียดให้กรอกเพิ่มเติม

Details regarding the right to reside in place of residence: รายละเอียดเกี่ยวกับถิ่นพำนัก

schengen visa application

Type of authorization to return/residence permit: ประเภทของใบอนุญาตให้พำนัก
Number of authorization to return/residence permit: เลขที่ใบอนุญาตให้พำนัก
Valid until: ใช้ได้จนถึงวันที่

3. Documents เอกสาร

schengen visa application

Identification papers and travel documents เอกสารแสดงตนและเอกสารการเดินทาง ให้กรอกทุกอย่างตามรายละเอียดในหนังสือเดินทาง

Type of travel document: ประเภทเอกสารที่ถือ เลือก Ordinary passport (หนังสือเดินทางธรรมดา)
Travel document number: เลขที่หนังสือเดินทาง
National identity number, where applicable: เลขประจำตัวประชาชน
Date of issue: วันที่ออกหนังสือเดินทาง
Valid until: วันที่หนังสือเดินทางหมดอายุ
Issued state: ประเทศที่ออกหนังสือเดินทาง (เช่น Thailand)
Issued by: หน่วยงานที่ออกหนังสือเดินทาง (เช่น Ministry of Foreign Affairs)
Issued in: เมืองที่ออกหนังสือเดินทาง (เช่น Bangkok)

Biometric Data ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล หรือไบโอเมตทริกซ์

Have your fingerprints collected previously for the purpose of applying for a Schengen visa?
เคยแสกนลายนิ้วมือเมื่อมายื่นขอวีซ่ามาก่อนหรือไม่ ถ้าไม่ก็เว้นว่างไว้ ถ้าใช้ให้ใส่วันที่เคยแสกนลายนิ้วมือก่อนหน้านี้

4. Travel Data ข้อมูลเดินทาง

schengen visa application

Main purpose(s) of the journey: วัตถประสงค์ในการเดินทางว่าจะไปทำอะไร
– Airport Transit: แวะเปลี่ยนสนามบิน
– Business: ธุรกิจ
– Cultural: วัฒนธรรม
– Official Visit: ราชการ
– Medical Reasons: เหตุผลทางการแพทย์
– Sport: กีฬา
– Study: การศึกษา
– Tourism: ท่องเที่ยว
– Transit: เปลี่ยนเครื่อง
– Visit of family or friends: เยี่ยมเยือน
Others (please specify): ถ้าไปด้วยจุดประสงค์อื่นๆ ให้ระบุด้วย
Member State of first entry: ประเทศแรกที่เดินทางเข้าในกลุ่มเชงเกน
Main travel destination(s): ประเทศหลักที่จะเดินทางไป
Number of entries requested: จำนวนครั้งที่ต้องการเดินทางเข้าออกในกลุ่มประเทศเชงเก้น
– Single entry: เข้าออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้ครั้งเดียว (ไม่ใช่ประเทศเดียว)
– Two entries: เข้าออกกลุ่มเชงเก้นได้ 2 ครั้ง (ไม่ใช่ 2 ประเทศ)
– Multiple entries: เข้าออกกลุ่มเชงเก้นได้หลายครั้ง (ไม่ใช่หลายประเทศ)
Intended date of arrival in the Schengen area: กำหนดการเดินทางถึงเขตประเทศสมาชิกเชงเก้น
Intended date of departure from the Schengen area: กำหนดการเดินทางออกจากเขตประเทศสมาชิกเชงเก้น
Duration of the intended stay of transit (number of days): ระยะเวลา/จำนวนวันในการพำนักหรือเดินทางผ่าน
Have you been issued with a Schengen visas issued within the last three years?: เคยได้รับวีซ่าเชงเก้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ ถ้าไม่เคยก็ข้ามไป ถ้าเคยก็คลิก Yes และกรอกรายละเอียดที่เคยได้มาเพิ่มเติม
Valid from: ใช้ได้ตั้งแต่วันที่…
Valid Until: จนถึงวันที่…

See also  พบหมอรามาฯ - อันตรายจากการกินยาลดความอ้วน, เรียนผ่านออนไลน์เสี่ยงปัญหาสายตา 22/06/63 l RAMA CHANNEL | กิน ยา คุม กับ ยา ลด ความ อ้วน

schengen visa application

Entry permit for the final country of destination, where applicable

สำหรับผู้สมัครที่ต้องการเดินทางผ่านประเทศในเขตเชงเก้นเพื่อไปยังประเทศปลายทาง (ที่ไม่ใช่เชงเก้น) ผู้สมัครจะต้องให้รายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่าหรือใบอนุญาตพำนักที่ออกโดยประเทศที่ไม่ใช่ของเชงเก้น ถ้าไม่เดินทางต่อหรือบินกลับไทยเลยก็เว้นว่างไว้ได้เลย
Type of entry permit: ประเภทการใบอนุญาต เช่น re-entry visa, residence Permit, resident alien card
Entry permit number: เลขที่เอกสาร
Final Country of Destination: ประเทศจุดหมายปลายทาง
Issued by: หน่วยงานที่ออกเอกสาร
Valid from: เอกสารใช้ได้ตั้งแต่วันที่…
Valid Until: จนถึงวันที่…

Reference เอกสารอ้างอิงเกี่ยวกับผู้เชิญทางเมืองนอก

**ใส่ข้อมูลเฉพาะที่มีเครื่องหมายดอกจันทร์อยู่ในฟอร์ม**

ในกรณีท่องเที่ยว

 

schengen visa application
Type of reference: ถ้าไปท่องเที่ยวและไปเอง ให้เลือก Hotel (โรงแรม) และกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักโรงแรม
Name of organisation, company or hotel: ชื่อโรงแรม
Organization’s place of business, town/city: ชื่อเมืองของโรงแรมที่จะไปพำนัก
Organization’s place of business, country: ประเทศที่จะไปพำนัก
Organization’s objectives/area of activity: เดินทางไปเมืองนี้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ให้เลือก Tourism (ท่องเที่ยว)
Hotel reservation number: เลขที่จองโรงแรมไว้
Family namr of contact person: นามสกุลของผู้ที่ติดต่อ
First name(s) of contact person: ชื่อของผู้ที่ติดต่อ
Street: ชื่อถนนที่ตั้งโรงแรม
House Number: เลขที่ตั้งโรงแรม
Postal Code: รหัสไปรษณีย์
City: ชื่อเมือง
Country: ประเทศ
Telephone: เบอร์โทรศัพท์โรงแรม
Email: อีเมลล์โรงแรม

ในกรณีเยี่ยมเยือน

schengen visa application
Type of reference: ในกรณีไปเยี่ยมเยือนเพื่อนหรือแฟนให้เลือก Inviting person และกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เชิญ
Family name: นามสกุลของผู้เชิญ
First name(s): ชื่อของผู้เชิญ
Sex: เพศ
– Male: ผู้ชาย
– Female: ผู้หญิง
– Unspecified: ไม่ระบุ
Date of birth: วันเกิด เรียงลำดับ วัน -เดือน – ปีค.ศ.
Place of birth: สถานที่เกิด
Nationality: สัญชาติ
Street: ชื่อถนนที่เราจะไปพำนัก

House Number: บ้านเลขที่
Postal Code: รหัสไปรษณีย์
Town/City: ชื่อเมือง
Country: ประเทศ
Telephone: เบอร์โทรศัพท์
Email: อีเมลล์
Alternative spellings- surename (s): การสะกดนามสกุลแบบอื่น
Alternarive spelling-first name(s): การสะกดชื่อแบบอื่น
Other names: ชื่ออื่น
Previous names: ชื่อก่อนหน้านี้

ในกรณีธุรกิจ

schengen visa application
Type of reference: เลือก Inviting organisation/company
Name of organisation, company or hotel: ชื่อบริษัทที่เชิญ
Organization’s place of business, town/city: ชื่อเมืองของบริษัทที่จะไป
Organization’s place of business, country: ประเทศที่จะไปพำนัก
Organization’s objectives/area of activity: บริษัทเกี่ยวกับอะไร
Name of the register of the organisation: ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท
Location of register: สถานที่จดทะเบียน
Register number: เลขที่จดทะเบียน
Family name of contact person: นามสกุลของผู้ที่ติดต่อ
First name(s) of contact person: ชื่อของผ้ที่ติดต่อ
Date of birth: วันเกิด
Sex: เพศ
Nationality: สัญชาติ
Street: ชื่อถนนที่ตั้งบริษัท
House Number: เลขที่ตั้งบริษัท
Postal Code: รหัสไปรษณีย์
City: ชื่อเมือง
Country: ประเทศ
Telephone: เบอร์โทรศัพท์บริษัท
Email: อีเมลล์บริษัท

5. Assumption of costs

schengen visa application
Travel and living costs ค่าเดินทางและค่าครองชีพ

Travel and living costs during the applicant’s stay are being covered by: ผู้รับผิดชอบค่าเดินทางและค่าครองชีพในระหว่างการพำนักของผู้สมัคร จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ
– the applicant him/herself: รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง
– a third party (host/company/organization), please specify = รับผิดชอบค่าใช้จ่ายโดยบุคคลอื่น

ถ้าบุคคลอื่นเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ก็เลือกต่อว่าเป็นใคร
– the inviting person, see details provided above : ผู้เชิญตามรายละเอียดที่มีให้ข้างต้น หรือ
– others, see section on Sponsor(s) (if different from – reference) : บุคคลอื่นออกให้

Means of support: ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ

– Cash: เงินสด
– Traveller’s cheques: เช็คเดินทาง
– Credit card: บัตรเครดิต
– Accommodation paid in advance: ที่พักชำระเงินไว้ล่วงหน้าแล้ว
– Assumption of all expenses during the stay: ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในระหว่างการพำนัก
– Transport paid in advance: ค่าเดินทางที่ชำระเงินไว้ล่วงหน้าแล้ว
– Other (please specify): อื่น ๆ (โปรดระบุ)

 สำหรับใครที่ต้องการให้ช่วยเหลือในการกรอกแบบฟอร์มวีซ่า Videx หรือต้องการข้อมูลทริปการเดินทางในต่างประเทศ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและติดต่อเรามาได้ที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่าง : จดหมายเชิญเพื่อขอวีซ่า (ครอบครัว)

ตัวอย่าง : จดหมายเชิญเพื่อขอวีซ่า (แฟน/ คู่รัก)

[รีวิว] ขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว (วีซ่าเชงเก้น) 

[รีวิว] ขอวีซ่าเพื่อการเยี่ยมเยียน (วีซ่าเชงเก้น) 


สัมภาษณ์วีซ่าเยี่ยมแฟน วีซ่ายุโรป(Schengen Visa) เตรียมตัวตอบคำถามเมื่อสถานฑูตโทรมาสัมภาษณ์


สถาฑูตโทรมาสัมภาษณ์ เจอคำถามอะไรบ้าง??
🔸🔸สำหรับวีซ่าเยี่ยมแฟนนะคะ
หน่อยแบ่งเป็น 3 ส่วนนะคะ คือ 1.ถามเกี่ยวกับแฟน 2.ถามเกี่ยวกับตัวเราเอง 3.ถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์
↪ถามเกี่ยวกับแฟน
1. แฟนทำงานอะไร
2. บริษัทอะไร
3. แฟนอายุเท่าไร
4. แฟนเกิดวัน เดือน ปี อะไร
5. แฟนอาศัยอยู่ที่เมืองอะไร
6. แฟนมีลูกไหม มีลูกกี่คน ชื่ออะไร(ชื่อเล่น)
7. แฟนหย่าหรือยัง หย่าตอนไหน
8. แฟนมีพี่น้องกี่คน
↪ถามเกี่ยวกับตัวเราเอง
1. คุณทำงานอะไร
2. คุณสามารถลางานได้ไหม
3. คุณเคยแต่งงาน หรือมีบุตรไหม
4. ถามเกี่ยวกับที่มาเงินในบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
↪ถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์
1. รู้จักกันจากไหน
2. เป็นเวลาเท่าไร
3. ฝ่ายชายเคยมาหาหรือยัง
4. ถ้าเคย จะถามว่า เจอกันวันไหนถึงวันไหน
สัมภาษณ์เป็นภาษาไทยค่ะ เพื่อนๆไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้าทำการบ้านมาดี ตอบคำถามได้อย่างน้อย 8090%ขึ้นไป โอกาสผ่านสูงมากค่ะ ยิ่งถ้าการเตรียมเอกสารครอบคลุม ยิ่งไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
หน่อยจะทำคลิปเกี่ยวกับการเตรียมเอกสาร ในคลิปต่อไปให้ทุกคนได้รับชมกันนะคะ
หน่อยแชร์จากประสบการณ์ของหน่อยเองค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ เอากรณีของหน่อยไปตัดสินไม่ได้น๊าเพื่อนๆ รับฟังหน่อยไว้ เพื่อประดับความรู้พอนะคะ
💗💗ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ💗💗

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

สัมภาษณ์วีซ่าเยี่ยมแฟน วีซ่ายุโรป(Schengen Visa) เตรียมตัวตอบคำถามเมื่อสถานฑูตโทรมาสัมภาษณ์

ขอวีซ่าท่องเที่ยว ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องโชว์เงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ / GoNoGuide Tips #101


คำเตือน!!! นี่เป็นแค่การคิดเอาเองของพวกเรานะคะ สถานทูตไม่ได้บอก ดังนั้นไม่รับรองความถูกต้อง และไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ในการขอวีซ่าถ้าหากเป็นเยี่ยมเยียน ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินส่วนตัวของเรามากนัก แต่ถ้าเป็นวีซ่าท่องเที่ยวแล้ว เงินในบัญชีของเราก็เป็นสิ่งสำคัญมากในการพิจารณาวีซ่า
วิธีการคำนวนแบบคร่าวๆ ที่พวกเราคิดเอาเองคือ
ขั้นแรก จำนวนวัน x 2400 บาท (60ยูโร) (ขึ้นกับสถานทูตด้วย แต่ตีเป็นประมาณนี้ไปก่อน)
จากนั้น บวกด้วยค่าเครื่องบิน (ที่แสดงกับสถานทูต) และบวกด้วยค่าโรงแรม (ที่แสดงกับสถานทูต)
ให้บวกเยอะๆเกินๆไว้ก่อน อาจจะเพิ่มไปอีกซัก 23หมื่น่ ก็ยิ่งดี
และนี่คือเงินขั้นต่ำที่คุณจำเป็นต้องมีในบัญชี ซึ่งไม่ใช่เป็นการโอนเข้าเพียงครั้งเดียวก่อนยื่นวีซ่า ต้องเป็นการเดินบัญชีแบบธรรมชาติ
หากคำนวนแล้วมีปริ่มๆ หรือน้อยกว่า ก็ต้องทำใจไว้เลย แต่ก็อย่าเพิ่งตัดใจ เราก็ยื่นเอกสารทรัพย์สินที่เราเป็นเจ้าของได้ เช่น โฉนดที่ดิน บ้าน กิจการ ฯลฯ
ทั้งนี้ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นแค่การสันนิษฐานเบื้องต้น สถานทูตทุกแห่งจะพิจารณาเอกสารโดยรวม ไม่ใช่แค่เงินในบัญชี
สุดท้ายขอให้ทุกคนโชคดี ได้รับวีซ่ากันทุกคนนะคะ

เอกสารประกอบวิดีโอ
ขอวีซ่าท่องเที่ยว ต้องมีเงินเท่าไหร่
http://bit.ly/2IfCblA

ต้องการสนับสนุนเรา GoNoGuide Services / Support GoNoGuide
ดูรายละเอียดลิงค์นี้ค่ะ http://www.gonoguide.com/support/

อ๊อบกับจี๊ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากๆจากใจจริง ที่ให้การสนับสนุนนะคะ ^___^
Thank you for your support

ติดตาม GoNoGuide ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/gonoguide/
Website : http://www.gonoguide.com/
IG : https://www.instagram.com/gonoguide/
Subscribe ติดตามวิดีโอใหม่ๆ
https://www.youtube.com/c/gonoguide?sub_confirmation=1

GoNoGuide ขอวีซ่า

ขอวีซ่าท่องเที่ยว ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องโชว์เงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ / GoNoGuide Tips #101

หลักการ ขอวีซ่าท่องเที่ยว ยุโรป เชงเก้น ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่มีผู้เชิญ | GoNoGuide Visa


เทคนิคทำยังไงให้ได้ วีซ่าเชงเก้นรายปี
https://youtu.be/ig57FSXODFU
https://www.schengenvisainfo.com/schengenvisaapplicationrequirements/meanssubsistence/
https://www.gonoguide.com/support/
https://www.youtube.com/c/GoNoGuide/search?query=ตั๋วเครื่องบินขอวีซ่า
➖➖➖
🚩สนับสนุน GoNoGuide https://www.gonoguide.com/support/
➖➖➖
🚩รวมลิงค์วิธีขอวีซ่า https://www.gonoguide.com/visa/
➖➖➖
🚩ข้อมูลการเดินทาง ช่วงโควิด https://www.gonoguide.com/reopen/
➖➖➖
🚩สายการบินเข้าไทย + ข้อมูลกักตัวฟรี https://www.gonoguide.com/ticket/
➖➖➖

ติดตาม GoNoGuide
💗Facebook GoNoGuide
https://www.facebook.com/gonoguide/
💗Website GoNoGuide
http://www.gonoguide.com/
💗Instagram GoNoGuide
https://www.instagram.com/gonoguide/
💗Youtube GoNoGuide
http://bit.ly/subsyt
💗Youtube GoNoGuide Trips
http://bit.ly/2N9xWJZ
💗GoNoGuide Group
http://bit.ly/gnggroup
💗GoNoGuide แฟนฝรั่ง กลุ่มเฉพาะแฟนต่างชาติ เยี่ยมเยียน
https://bit.ly/2OPxocR
💗Twitter @GoNoGuide
https://twitter.com/GoNoGuide
💗TikTok @GoNoGuide
https://www.tiktok.com/@gonoguide

GoNoGuide GoNoGuideVisa

หลักการ ขอวีซ่าท่องเที่ยว ยุโรป เชงเก้น ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่มีผู้เชิญ | GoNoGuide Visa

ขั้นตอนการขอ EU Blue Card I วีซ่าทำงานในเยอรมัน – ยุโรป I วีซ่าเยอรมัน I วีซ่ายุโรป I 2020


ขอวีซ่าทำงานเยอรมัน ขอวีซ่าทำงานยุโรป หางานในเยอรมัน
ขั้นตอนการขอ EU Blue Card และเอกสารของผู้ติดตาม เช่น ภรรยา (ประสบการณ์ตัวเอง)
EU Blue Card คืออะไร
ใบอนุญาตทำงานที่ใช้กับประเทศสมาชิกในกลุ่มสหภาพยุโรปทั้งหมด โดยอนุญาตคนที่อยู่นอกสหภาพยุโรปที่มีทักษะและคุณสมบัติที่ตรงตามข้อตกลงสามารถอาศัยและทำงานในประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้ แต่จะได้สิทธิพิเศษนอกเหนือจากวีซ่าทำงานอื่นๆด้วย
สิทธิพิเศษของบัตร EU Blue Card มีดังนี้
1. บัตรนี้เปิดโอกาสให้ผู้ถือสามารถเดินทางกลับไปยังประเทศต้นทาง ที่ไม่ใช่สหภาพยุโรปได้นานถึง 1 ปี โดยไม่ต้องต่อวีซ่าใหม่
2. สามารถนำสมาชิกในครอบครัวมาอยู่ได้โดยไม่ต้องมีผลภาษาเยอรมัน A1
3. สมาชิกในครอบครัวสามารถได้วีซ่าพร้อมกับผู้ที่ถือบัตร EU Blue Card เลยโดยที่ไม่ต้องรอวีซ่านานเหมือนวีซ่าพำนักระยะยาวชนิดอื่นๆ อนุมัติวีซ่าระยะยาวภายใน 1 อาทิตย์ (ของตัวเอง 3 วันได้ค่ะ)
4. ผู้ถือบัตร Blue Card สามารถยื่นขอพำนักถาวรในประเทศยุโรปได้หลังจาก 21 เดือนและมีผลภาษาเยอรมันระดับ B1
(คุณสมบัติในข้อ 4 ทางเราคงไม่ได้ค่ะ เพราะมาอยู่เยอรมันได้ 7 เดือนแล้ว ภาษาไม่กระดิกเลยค่ะ…ขอผ่านไปก่อน) อายมากเวลาไปซื้อของ พูดไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ
ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
1. ข้อกำหนดทางวุฒิการศึกษา
1.1 จบการศึกษาในมหาวิทยาลัยในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป
1.2 จบการศึกษาในมหาวิทยาลัยนอกกลุ่มประเทศยุโรป สามารถเช็คในเว็บไซด์ https://anabin.kmk.org/anabin.html
ถ้าหาไม่เจอไม่ต้องตกใจเพราะเว็บไซด์เขาคงไม่ได้อับเดท เขาจะให้เราไปรับรองวุฒิการศึกษาที่ “ZAB” เท่านั้น (ไม่ใช่การที่เอาวุฒิการศึกษาไปให้สถานทูตรับรองนะคะ ไม่เหมือนกัน) ZAB เป็นองกรค์ที่เป็นตัวกลางในการประเมินวุฒิการศึกษาและ มหาวิทยาลัยและรับรองเอกสารให้เราค่ะ ออฟฟิสอยู่ที่โคโลญ เยอนมัน เราจะต้องติดต่อเขาทางเว็บไซด์เท่านั้น เว็บไซด์อันเดียวกับ Anabin
โดยให้เลือกประเทศที่เราจบการศึกษามา เช่น Thailand โดยเราจะต้องเอาเอกสารทั้งหมดไปให้สถานทูตเยอรมันบรองเอกสาร เช่น
ยื่นปริญญาตรี ต้องเอาวุฒิ ม. 6 แนบไปด้วย
ยื่นปริญญาโท ต้องแนบปริญญาตรีไปด้วย
จะไม่มีการส่งเอกสารตัวจริงไปที่ ZAB เลยนะคะ ใบจบจะเอาทั้งตัว certificate และ transcript ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ถ้าไม่มีภาษาไทยให้ไปขอใหม่
กระบวนการการทำจะนับจากวันที่ชำระเงินและได้อีเมล์ยืนยันการชำระเงินแล้วนะคะ ฉะนั้นเวลาดำเนินงานรวมส่งเอกสารโน่น นี่ นั่นก็เกือบๆเดือนเลยค่ะ และเขาไม่รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เมื่อเราส่งเอกสารทั้งหมดไปแล้วเขาจะอีเมล์รายละเอียดการชำระเงินซึ่งจะต้องไปชำระที่ธนาคารเท่านั้น แล้วสแกนใบชำระเงินส่งอีเมล์ให้เขาไปด้วย
เอกสารใบรับรองเขาจะส่งกลับมาตามที่อยู่ที่เรากรอกใบสมัครไปนะคะ รอนานมาก แต่เราสามารถส่งอีเมล์ที่ทาง ZAB ส่งใบรับรองมาให้เราส่งต่อให้สถานทูตเยอรมันในประเทศไทยที่เราไปยื่นวีซ่าได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอตัวจริง
ถ้าใครขอรับรองเอกสารโดยจะนำไปยื่นประกอบการขอ EU Blue Card ให้ระบุไปที่หน้าซองจดหมายและระบุทุกครั้งที่ส่งอีเมลล์ติดต่อ ZAB ว่าจุดประสงค์เพื่อขอ EU Blue Card เพราะถ้าไม่ระบุไปจะใช้เวลาทำการทั้งหมด 3 เดือน แต่ถ้าระบุ EU Blue Card ไประยะเวลาจะเหลือแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น
ค่าใช้จ่าย ฉบับแรกราคา 200 ยูโร ฉบับต่อไป 100 ยูโร ไม่รวมค่าส่ง DHL ค่าส่งประมาณ 800 บาท
2. สัญญาจ้างงานจากบริษัทในเยอรมัน โดยต้องระบุเงินเดือนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 55,200 ยูโร ต่อปี
เพราะมันเป็นอัตรราขั้นต่ำที่จะสามารถอาศัยในยุโรปได้ เขาระบุว่าต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น แต่ของสามีเราใช้ปริ้นออกมาแล้วเซ็นชื่อเอาไปยื่น ทางสถานทูตถามว่าตัวจริงหรือเปล่า ทางเราก็บอกไปว่าตัวจริงเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ เพราะถ้ารอให้ทางบริษัทส่งมาจะรอนานมาก คนเยอรมันทำอะไรช้าทุกขั้นตอนจริงๆ มีเร็วอย่างเดียวคือ DHL ของเยอรมัน
3. พาสปอร์ตเล่มปัจจุบันต้องมีอายุคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
(ขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถยื่นตอนขอวีซ่าที่ไทยได้เลยค่ะ แต่ข้อที่เหลือข้างล่างให้มายื่นอีกทีตอนมาถึงเยอรมันแล้ว เขาจะให้เราไปยื่นเอกสารอีกทีในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และเอกสารเพิ่มเติมก็คือ)
4. บัตรประกันสุขภาพมาทำที่เยอรมันได้
5. ที่อยู่บ้าน ใบลงทะเบียนบ้านในเขตที่เราอยู่นั้นๆ (WohnungsgeberBestätigung)
6. รูปถ่ายไบโอเมตริค พื้นขาว 2 รูป
7. ใบสมัคร National Visa เพื่อมาทำงาน
8. ประวัติการทำงาน CV
9. ใบผ่านงานทุกบริษัท
10. ชำระค่าสมัคร 100 ยูโร
สำหรับภรรยาผู้ติดตามมาอยู่ที่เยอรมันด้วย
1. ใบสมัคร National Visa เพื่อติดตามสามีมาอยู่ด้วยหรือเรียกว่า family reunion
2. พาสปอร์ตเล่มปัจจุบันต้องมีอายุคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
3. รูปถ่ายไบโอเมตริค 2 รูป
4. ใบทะเบียนสมรส และใบสมรส โดยต้องไปรับรองเอกสารที่สถานทูตเยอรมันเขาจะประทับตราบนตัวจริงของเราเลยค่ะ แล้วเอาไปแปลเป็นภาษาเยอรมันโดยจะต้องเป็นบุคคลที่ทางสถานทูตกำหนดมาเท่านั้น บุคคลหรือบริษัทเหล่านั้นได้ขึ้นทะเบียนกับทางเยอรมันตามกฏหมายแล้วค่ะ
ผลภาษาเยอรมันไม่ต้องใช้ แต่เรียนเถอะค่ะ จำเป็นจริงๆ
ราบชื่อบรัทที่แปลเอกสารจากสถานทูต
https://bangkok.diplo.de/blob/1376436/ff100ee0f7d966689b349ed849bc1b31/uebersetzerlistedata.pdf

ขั้นตอนการขอ EU Blue Card I วีซ่าทำงานในเยอรมัน - ยุโรป I วีซ่าเยอรมัน I วีซ่ายุโรป I 2020

ขอวีซ่ายุโรป เตรียมเอกสารการท่องเที่ยวสวีเดน (แบบสรุป) – เจ้าไก่ขาวพาเที่ยว


ยุโรปต้องเริ่มจากการเตรียมเอกสารวีซ่า
การเข้าประเทศยุโรปนั้นจะต้องใช้วีซ่าเชงเก้น ถ้าใครทำวีซ่าไม่ผ่านก็จะไม่สามารถเข้าประเทศกลุ่มยุโรปได้
► ประเทศที่ผมเลือกไปครั้งนี้คือประเทศสวีเดน
► เมื่อได้วีซ่าเชงเก้นแล้วเราสามารถเข้ากลุ่มประเทศยุโรปได้ทุกประเทศ
► สิ่งสำคัญในการขอคือต้องมีความชัดเจนว่าจะไปทำอะไรและจะต้องกลับมาประเทศไทยเหมือนเดิม
►► เริ่มเตรียมเอกสาร ► ยื่นเอกสาร ►รอรับวีซ่าเชงเก้น
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ
คลิปส่วนใหญ่จะเป็นประสบการณ์ชีวิตทั่วไป มีทุกเรื่อง
คลิปผมจะเน้นเนื้อหา พยายามจะทำให้สั้นๆ กระชับที่สุดทุกๆคลิป
www.youtube.com/pping4

ขอวีซ่ายุโรป เตรียมเอกสารการท่องเที่ยวสวีเดน (แบบสรุป) - เจ้าไก่ขาวพาเที่ยว

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ วีซ่ายุโรป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *