[NEW] องค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) | กิจกรรม สร้าง ความ สามัคคี ใน องค์กร – Sonduongpaper

กิจกรรม สร้าง ความ สามัคคี ใน องค์กร: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

จากสภาพสังคม การเมืองและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามความเจริญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีซึ่งเข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบที่เชื่อมโยงถึงกัน ตั้งแต่บุคคล ครอบครัว  สังคม  องค์กร  และประเทศ ด้วยเหตุของการพัฒนาที่มีเป้าหมายของความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเพื่อมุ่งตอบสนองความพึงพอใจของปัจเจกบุคคลและกลุ่มคนเพียงบางส่วน แต่ขาดการคำนึงถึงหลักคุณธรรม จริยธรรมซึ่งกระทบมากมายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญคือ สภาวะจิตใจของคน ซึ่งเป็นเหตุก่อให้เกิดปัญหาทั้งทางด้านชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม และยังเป็นตัวขัดขวางการพัฒนาที่ยั่งยืน  เหตุนี้ในปัจจุบันทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนจึงหันมามองสิ่งที่อยู่ภายในตัวบุคคลแต่ละคนมากขึ้นนั่นคือ “ความสุข” ซึ่งเป็นเรื่องของจิตใจ

ประเทศ ภูฏาน เป็นประเทศที่สร้างความตื่นตัวให้กับนานาประเทศด้วยการวัดความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness : GNH) มากกว่า GDP ในการวัดความอยู่ดีกินดีและความสงบสุขของประชากร ตั้งแต่ พ.ศ.2515 เป็นเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาประเทศ ภายใต้นโยบายสำคัญ 4 ประการ คือ (1) การพัฒนาทางเศรษฐกิจ (2) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (3) การส่งเสริมวัฒนธรรม และ (4) ธรรมาภิบาล โดยในปี 2548 รายงานสำมะโนประชากรและเคหะของภูฏาน พบว่า ประชากรทั้งประเทศมีความสุข ร้อยละ 96.7 และได้มีการพัฒนาตัวชี้วัดความสุขมวลรวมของประชากรภูฏาน  ออกเป็น 10 องค์ประกอบ ซึ่งมีการสำรวจทุกปีได้แก่ 1) ความอยู่ดีมีสุขทางใจ ที่พิจารณาในด้านสุขภาพ  ความสุขทางวัตถุ  ความสมดุลในด้านงานกับชีวิต และสัมพันธภาพ  2) ความหลากหลายทางวัฒนธรรม 3) การศึกษา 4) สุขภาวะ  5) การใช้เวลาและความสมดุล 6)การบริหารจัดการที่ดี 7) ความเข้มแข็งของชุมชน 8) การดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ  9)มาตรฐานการดำรงชีพ  และ 10) เกษตรกรรม

สำหรับประเทศไทยมีการนำ “ดัชนีชี้วัดความอยู่ดีมีสุข” มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศครั้งแรกในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ.2540-2544) ต่อเนื่องมาถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ.2545-2549) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวมและคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา มีองค์ประกอบ 7 ด้าน ได้แก่ 1) สุขภาพอนามัยและโภชนากร  2) การศึกษา 3) ชีวิตการทำงาน 4) ชีวิตครอบครัว  5) การเติบโตทางเศรษฐกิจ  ความยากจน  การกระจายรายได้และสวัสดิการ 6) สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย  และ 7) ประชารัฐ และในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554) มีเป้าหมายมุ่งไปสู่ “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน” เพื่อเป็นเครื่องมือติดตามประเมินผลกระทบการพัฒนาที่มีต่อคนในสังคมไทย

ประเทศไทย ศูนย์สร้างเสริมสุขภาวะองค์กร (Happy Workplace) ภายใต้สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร  สำนักงานกอบทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สร้างแนวทางการสร้างสุขในที่ทำงานขึ้น เป็นความสุขพื้นฐาน 8 ประการ ที่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์หลายมิติ ได้แก่       1) ด้านการมีสุขภาพดี (Happy Body) , การมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ (Happy Heart), การรู้จักผ่อนคลาย (Happy Relax), การมีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวมีคุณธรรมประจำใจ (Happy Soul) มีเศรษฐกิจการเงินที่ดี (Happy Money), การพัฒนาความรู้ (Happy Brain), การมีครอบครัวที่ดี (Happy Family), และมีสังคมที่มีความสุข (Happy Society) เป็นตัวชี้วัด การสร้าง “ความสุขมวลรวมของการทำงาน” ในทุกๆองค์กร เพื่อนำมาประมวลรวมกันสะท้อนความอยู่ดีมีสุขและคุณภาพชีวิตของประชาชน(กกกร  ขลายแย้มและอธิวัฒน์  เจี่ยวิวรรธน์กุล : 2554)

บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอ องค์ความรู้เกี่ยวกับองค์กรแห่งความสุข  ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนแรก  ความหมาย ขององค์กรแห่งความสุขเพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกันในความหมาย ความสำคัญขององค์กรแห่งความสุข  ส่วนที่สอง กรอบแนวคิดของสุขภาวะในการทำงาน และส่วนที่สาม แนวทางในการสร้างองค์กรแห่งความสุข

ชาญวิทย์  วสันต์ธนารัตน์
: องค์กรที่สร้างความสุขในการทำงาน โดยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อสร้างความสุขให้เกิดในที่ทำงาน ทำให้ที่ทำงานเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของคนทำงาน

Dive, 2004
: องค์กรที่สามารถบรรลุถึงพันธกิจที่ตั้งไว้พร้อมกับมีความสามารถในการเติบโตและพัฒนาบุคลากรในองค์กรไปพร้อมๆกัน

Lowe, 2004
: องค์กรที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพของพนักงานและผลการปฏิบัติงานที่สูงขึ้น

Smet,Loch,Schaninger,2007
: องค์กรที่มีความสามารถในการปฏิบัติงานได้ดี  พนักงานมีจุดมุ่งหมายร่วมกับองค์กรมุ่งเน้นการปรับกระบวนการทำงานใหม่และมีแนวทางการปฏิบัติงานที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน

จากความหมายดังกล่าว  สรุปได้ว่า  องค์กรแห่งความสุข  คือ องค์กรที่สามารถกระตุ้น  จูงใจ สร้างความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้ทุกคนในองค์กร สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร พร้อมปฏิบัติภารกิจขององค์กรให้บรรลุตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของ องค์กรแห่งความสุข

องค์กรแห่งความสุข เป็นแนวคิดหลักที่มุ่งดำเนินงานกับกลุ่มเป้าหมายหลักคือ “คนทำงานในองค์กร”ที่ถือเป็นบุคคลสำคัญและเป็นกำลังหลักของทั้งครอบครัว  องค์กร  ชุมชน และสังคม มีการส่งเสริมและพัฒนานโยบาย  การสร้างองค์ความรู้และการขับเคลื่อนเครือข่ายในการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตคนทำงาน  ด้วยเป็นความสำคัญว่า เมื่อคนทำงานในองค์กรมีความสุข  ย่อมส่งผลดีต่อผลประกอบการหรือผลผลิตขององค์กร  ความผาสุกในครอบครัว ชุมชน ส่งผลต่อสังคมที่มีความสุขที่ยั่งยืน

การสร้างความสุขในที่ทำงาน นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารองค์กร มุ่งเน้นให้บุคลากรทุกคนในองค์กรมีความสุขในการทำงาน ความสุขที่เกิดขึ้นนั้นก่อให้เกิดการรังสรรค์ทางความคิด งานที่ได้รับมอบหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความตึงเครียดจากการทำงาน และสภาพแวดล้อมลดความขัดแย้งในองค์กรความสุขที่เกิดขึ้นจากการทำงานเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้พฤติกรรมคนปรับเปลี่ยนและพัฒนาในแนวโน้มที่ดีขึ้น

กรอบของสุขภาวะในที่ทำงาน (WHO : Healthy Workplace Framework)

องค์การอนามัยโลก (Burton, 2010) ได้กำหนดแนวทางของการสร้างเสริมสุขภาวะในที่ทำงานขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตและการแข่งขัยขององค์กรนั้น องค์กรจะต้องพิจารณาแนวทาง 4 ด้าน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  1. สภาพแวดล้อมทางกายภาพ หมายถึง ส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกในที่ทำงาน เช่น สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ อากาศ  เครื่องจักร  เฟอร์นิเจอร์  ผลิตภัณฑ์  เคมี  วัสดุ และกระบวนการที่ปรากฏในสถานประกอบการ  ซึ่งมีผลกระทบต่อความปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ  ตลอดจนสุขภาวะและความเป็นอยู่ของพนักงาน  สภาพแวดล้อมทางกายภาพนับเป็นพื้นฐานของความปลอดภัยและสุขภาวะในการประกอบอาชีพ และส่งผลกระทบต่อการทำงาน  ความเจ็บป่วย  การบาดเจ็บ และอาจก่อให้เกิดการพิการหรือเสียชีวิตได้
  2. สภาพแวดล้อมทางจิตสังคม  หมายถึง องค์กร  การทำงานวัฒนธรรมองค์กร  ทัศนคติ  ความเชื่อ  ค่านิยม และการปฏิบัติ และส่งผลกระทบต่อความผาสุกของพนักงานทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ  ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเครียดขึ้นได้ เช่น การขาดนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในองค์กร  ขาดการสนับสนุนรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาวะ  เป็นต้น
  3. แหล่งของสุขภาวะบุคคลในที่ทำงาน  หมายถึง  สภาพแวดล้อมที่สนับสนุนบริการสุขภาพ  ข่าวสาร  ทรัพยากรและโอกาสที่บริษัทหรือองค์กรจัดเตรียมไว้สำหรับพนักงาน หรือสนับสนุน หรือกระตุ้นเพื่อปรับปรุง  หรือคงไว้ซึ่งวิธีปฏิบัติในการดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาวะ  มีการติดตามและสนับสนุนทั้งสุขภาพทางกายและสุขภาพจิต
  4. ชุมชนบริษัท   เป็นความเชื่อมโยงของชุมชนและบริษัท  อันประกอบด้วย กิจกรรม ทักษะ ความเชี่ยวชาญและแหล่งทรัพยากรอื่น ๆ ความผูกพันของบริษัท  สภาพชุมชนทั้งทางกายภาพและสังคม  ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ  ความปลอดภัยและความผาสุกของพนักงานและครอบครัว

สำหรับประเทศไทย นายแพทย์ชาญวิทย์  วสันต์ธนารัตน์ (2553) ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  กล่าวถึง องค์กรที่มีความสุขว่าจะต้องประกอบด้วยหัวใจสำคัญหลายอย่าง คือ การทำงานเป็นทีม (Teamwork) การมีความสุข  (happy)  มีความคิดสร้างสรรค์ที่นำไปสู่ความก้าวหน้า (creativity) โดยได้เสนอแนวคิดและหลักการสร้างองค์กรแห่งความสุข  แบบความสุข 8 ประการ คือ

1.       Happy body มีสุขภาพดี สุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจมาจากการที่รู้จักใช้ชีวิต รู้จักกิน รู้จักนอน ชีวิตมีความสุข

2.       Happy heart มีน้ำใจงาม สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการที่มนุษย์จะอยู่กับคนอื่นได้ต้องมีน้ำใจคิดถึงคนอื่น เอื้ออาทรต่อกัน เพราะคนเราอยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้ไม่ได้ ต้องรู้จักแบ่งปันอย่างเหมาะสม

3.       Happy relax การผ่อนคลาย ต้องรู้จักผ่อนคลายสิ่งต่างๆ ในการดำเนินชีวิต เพื่อไม่ให้ตนเองรู้สึกกดดันมากเกินไป หากทำงานเครียดก็ต้องมีวิธีผ่อนคลายในการทำงาน หรือแม้แต่ชีวิตส่วนตัวก็ด้วย ต้องรู้จักผ่อนคลายให้เหมาะสม

See also  ยังคิดถึง...(same) - MARC TATCHAPON [ Official MV ] | เป๊ ป ที น ดี ไหม

 4.   Happy brain การหาความรู้ มนุษย์เราอยู่ได้ด้วยการศึกษาหาความรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลาจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเป็นมืออาชีพและเกิดความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน หรือพูดง่ายๆ คือ เรียนเพื่อรู้ และสอนคนอื่นได้ในงานที่ตนรู้

         5.  Happy soul การมีคุณธรรมอันเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในสังคม คือการมี หิริโอตตัปปะ ในการทำงานเป็นทีม หิริโอตตัปปะ คือ ความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำของตนเองโดยเฉพาะการกระทำที่ไม่ดี คนดีมีคุณธรรมนำมาซึ่งความสุขขององค์กร เพราะคนมีความศรัทธาในศาสนาและมี ศีลธรรมในการดำเนินชีวิต

1.    Happy money รู้จักใช้เงินให้เป็น สามารถจัดการรายรับรายจ่ายของตัวเองได้ มีเงินรู้จักเก็บรู้จักใช้ เป็นหนี้ให้พอดี มีชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะวันนี้คนปฏิเสธการเป็นหนี้ไม่ได้ แต่สามารถจัดการค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับตนเองได้

  1. Happy family ครอบครัวที่ดี การให้ความสำคัญกับครอบครัวทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่นมั่นคง เกิดกำลังใจที่ดีในการทำงาน เหมือนเป็นภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้เผชิญกับอนาคตหรืออุปสรรคในชีวิตได้

3.    Happy society สังคมดี สังคมมีสองมิติ คือ สังคมในที่ทำงานกับสังคมนอกที่ทำงาน มนุษย์ทุกคนต้องมีความรักสามัคคีเอื้อเฟื้อต่อสังคมที่ตนเองอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดสังคมและสภาพแวดล้อมที่ดีตามมา

การสร้างความสุขในที่ทำงานไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งในองค์กร เป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์กร ที่ต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อสร้างความสุขให้เกิดในที่ทำงาน ทำให้ที่ทำงานเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของคนทำงาน

แนวทางการสร้างองค์กรแห่งความสุข

การสร้างองค์กรแห่งความสุข ไปปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จนั้นองค์กรจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  มีระบบการจัดการและการร่วมมือทั้งในด้านองค์ความรู้และการวิจัยปฏิบัติการ ซึ่งหลักสำคัญที่เป็นแกนกลางจะต้องปรากฏอยู่ในทุกขั้นตอนของกระบวนการ  คือ  ความเป็นผู้นำ (Leadership  engagement)  การมีส่วนร่วมของพนักงาน (worker involvement) ซึ่งขึ้นอยู่กับจริยธรรมและ    การให้คุณค่า (values and ethics)

ความเป็นผู้นำ Leo J Hindery  (ทศ  คณนาพรและ พันโทอานันท์  ชินบุตร, 2555 :72-73) ได้เขียนหนังสือเรื่อง It  takes a CEO : It’s time to lead with  integrity ได้เขียนถึงคุณสมบัติของ “ผู้นำองค์การในอนาคต” ที่น่าสนใจมากคือ

  1. Bright. Well educated  and  well-informed : เป็นคนเฉลียวฉลาด  การศึกษาดี และมีข้อมูลพร้อม
  2. An  inquiring  mind  : มีจิตใจใฝ่รู้
  3. Articulate  : สามารถสื่อสารถ่ายทอดความคิดออกมาได้เป็นภาพพจน์อย่างชัดแจ้ง
  4. Exceptionally  hard working : ตั้งใจมุ่งมั่นทำงานหนัก
  5. Honest  and  ethical : มีจริยธรรมและความซื่อสัตย์
  6. Demonstrates  a  sense  of  fairness  and  fair  play  : แสดงออกให้เห็นถึงการมีความเป็นธรรมและยอมรับการแข่งขันอย่างยุติธรรม
  7. Lives  life  with  grace  : ตั้งมั่นบนชีวิตแห่งความโอบอ้อมอารีและรู้จักให้อภัย
  8. Loves  peple  : รักผู้คน
  9. Hates  bigotry : ไม่ดันทุรัง  เกลียดการดูถูกเหยียดหยาม
  10. Shows  courage : แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ
  11. Take (smart)risks : ยอมรับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด
  12. Make  tough  decisions  in  a  timely  way : สามารถตัดสินใจในเรื่องยากๆได้ภายในเวลาอันเหมาะสม
  13. Acts on conviction : สามารถดำเนินการบางอย่างเพื่อยอมรับความผิด
  14. Demonstrates  patience-up to a point : มีความอดกลั้นได้ถึงในระดับหนึ่ง
  15. Spots  talent  and  keeps  on  looking : รู้จักเลือกและแสวงหาคนเก่ง
  16. Delegates  without  second  question : มอบอำนาจให้โดยปราศจากความกังวลใจ
  17. Acknowledges  multiple  constituencies : เปิดเผยและมีความรับผิดชอบต่อบรรดากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
  18. Know  where  the  buck  really  stops : รู้ว่าต้องเป็นผู้ตัดสินใจ  โยนออกไปให้ใครไม่ได้อีกแล้ว
  19. Tolerates  loneliness : ทนสภาพการถูกโดดเดี่ยว

การมีส่วนร่วมของพนักงาน (worker involvement)  ผู้นำต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ของการทำงานต้องมี “สติ” รู้ตระหนักในหน้าที่อันควรทำและไม่ควรทำทั้งต่อตนเองและผู้อื่น  มีชีวิตที่มีทั้ง “คุณค่า”และ “คุณภาพ” เพราะความสุขกับความเป็นจริงในปัจจุบัน  สุขอย่างมีสติ และ สุขอย่างมีคุณภาพ  ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่มีความสำคัญยิ่งต่อองค์กร พนักงานทุกคน คือทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดขององค์กร  ผู้นำมีหน้าที่ที่จะต้องสร้างทายาทในการทำงาน  สร้างทีมงานที่แข็งแกร่งให้เป็นที่ยอมรับ

นอกจากความเป็นผู้นำ  การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในองค์กรแล้ว  ยังมีเงื่อนไขจำเป็นต่อการสร้างองค์กรแห่งความสุข  อยู่ที่บุคคล 3 ฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันคือ 1) ผู้นำองค์กร          2) ผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาบุคลากร  และ3) บุคลากรทุกคนในองค์กร

สิ่งสำคัญในการเตรียมการขับเคลื่อนองค์กรแห่งความสุข ทุกคนในองค์กรจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดองค์กรแห่งความสุขให้เข้าใจเสียก่อน เพราะการดำเนินการกิจกรรมส่งเสริมองค์กรแห่งความสุขไม่จำเป็นต้องทำทั้ง 8 กล่องแห่งความสุข แต่ทุกคนในองค์กรสามารถช่วยกันประเมินความพร้อมได้ว่าองค์กรแห่งความสุขที่แท้จริงขององค์กร มีเรื่องใดมาก น้อย สภาพบริบท  ทุนเดิมและวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร

อธิวัฒน์  เจี๋ยวิวรรธน์กุล(2553) ได้เสนอแนวคิด  7 Cs ปัจจัยสู่ความสำเร็จของการทำงานสร้างเสริมสุขภาวะองค์กรเชิงพื้นที่ โดยนำร่อง 6 จังหวัด (ชลบุรี  เชียงราย  นครราชสีมา  ปทุมธานี  พระนครศรีอยุธยา  และราชบุรี)ในระยะที่ 1 และขยายผลไปจังหวัดใกล้เคียง ของจังหวัดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างองค์กรสุขภาวะในจังหวัดในระยะที่ 2 (2554-2556) ซึ่งได้แนวคิดจากการทำงาน สามารถระบุปัจจัยสู่ความสำเร็จของการทำงานเชิงพื้นที่ในการเสริมสร้างองค์กรสุขภาวะ  อันเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการทำงานเสริมสร้างสุขภาวะองค์กร  หรือองค์กรแห่งความสุขในจังหวัดนำร่อง ได้เป็น7 Cs  ดังนี้

  1. Construction (โครงสร้างของคณะทำงาน) จะต้องมีการกำหนดโครงการสร้างการทำงาน ตลอดจนบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน ต้องอาศัยคนที่มีจิตอาสา  อยากเห็นคนทำงานในองค์กรมีความสุข  ดังนั้นคนที่จะช่วยขับเคลื่อนงานได้สำเร็จ ต้องเป็นคนคอยประสานงาน  มีความสามารถวิเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ที่จะนำมาใช้ในการทำงาน  การติดตาม  ประเมินผลกรดำเนินงาน  แสวงหาแนวคิดในการทำให้คนทำงานมีความสุขจากการให้ โครงสร้างของคณะทำงาน จึงควรประกอบด้วยทีมที่ปรึกษา  ทีมวิชาการ  ทีมวิทยากรกระบวนการ  ทีมสนับสนุน ประสานงานเครือข่าย ซึ่งแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการดำเนินงาน
  2. Context (บริบทในการทำงานเชิงพื้นที่) เป็นการวิเคราะห์บริบทในด้านทุนทางสังคม  ทุนทางวัฒนธรรมและทุนทางปัญญาที่จะหนุนเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กร เพื่อวางแผนการทำงาน  การจัดกิจกรรมที่เหมาะสมตามบริบท และตามศักยภาพที่แท้จริง
  3. Conception (ฐานคิดเรื่ององค์กรสุขภาวะ)  เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน ว่า องค์กรสุขภาวะ  หรือองค์กรแห่งความสุข มีที่มาจากไหน  หมายถึงอะไร  ทำเพื่อใคร  ทำไมต้องทำ  ทำอย่างไร  ทำที่ไหน  หรือทำเมื่อไร  คณะทำงานต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนและหาคำตอบร่วมกัน  พร้อมจะเป็นผู้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริงโดยเริ่มนำแนวคิดหรือฐานคิดนี้ไปใช้กับองค์กรของตนก่อน  แล้วแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกองค์กรต่อไป
  4. Contact (การติดต่อประสานงาน)
  5. Contribution (การหนุนเสริมจากภาคีเครือข่าย) ต้องค้นหาแหล่งทุนที่จะมาหนุนเสริม ไม่ว่าจะเป็นทุนทางสังคม  ทุนทางวัฒนธรรม  และทุนทางปัญญา ต้องอาศัยแรงใจและแรง
See also  ใช้ประกันอุบัติเหตุที่มากับ ATM ของคุณ | ประกัน ธนาคาร กรุง ไทย

ความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือ  ให้คำปรึกษา และการที่จะเกิดความยั่งยืนในการทำให้องค์กรมีความสุขนั้นต้องเกิดจากความร่วมมืและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน

  1. Control (การติดตามประเมินผลภายใน) เพื่อประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงาน ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่  อย่างไร  ในการดำเนินการประเมินผลภายในโครงการ
  2. Continuity (การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง)  เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสุขในองค์กรที่ยั่งยืนได้  ต้องเกิดจากการพัฒนาและการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายและการสนับสนุนของผู้บริหารองค์กรที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความสุขของคนทำงานในองค์กร  ตลอดจนการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับในองค์กร  และวัฒนธรรมองค์กรที่กำหนดไว้ชัดเจน

สรุป   การสร้างองค์กรแห่งความสุข  จะต้องสร้างสมดุลของการทำงานให้เกิดขึ้นทั้งทางด้านร่างกาย  จิตใจ  สังคม และปัญญาเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นองค์กรคุณภาพ หรือองค์กรสู่ความเป็นเลิศในอนาคตโดยอาศัยภาวะผู้นำที่ต้องร่วมกัน ขับเคลื่อนสุขภาวะที่สมบูรณ์ 4 ด้านคือ

1)      กาย   ได้แก่ การประกอบสัมมาชีพ  ความปลอดภัยในการทำงานหรือสภาพแวดล้อมของการทำงานมีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน   ปลอดภัยจากสารพิษ  อุปกรณ์  เครื่องมือ  เครื่องจักร ฯ  มีสุขภาพทางด้านร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ มีสวัสดิการด้านสุขภาพอนามัยทั้งต่อตนเองและครอบครัว

2)      จิต   ได้แก่  ความมีสติ   ความสงบ   ความงาม  และความดี  ยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนา

3)      สังคม  ได้แก่  สังคมสัมพันธ์ มีการสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันในองค์กร ระหว่างองค์กรโดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ   การสร้างสังคมเข้มแข็ง การช่วยเหลือเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน การรู้จักใช้จ่าย การรู้จักความพอดี  พอประมาณ และการใช้เหตุผล  การสร้างสังคม

ยุติธรรม  ให้ความเสมอภาคและสร้างโอกาสในการทำงาน สร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ สร้างขวัญกำลังใจให้เกิดขึ้นในองค์กร  และสร้างสังคมสันติสุข  มีการประนีประนอม การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

4)      ปัญญา  ได้แก่ การส่งเสริมให้บุคลากร คิดเป็น  ทำเป็น  แก้ปัญหาเป็น  มีอิสระได้รับความไว้วางใจในการทำงาน  มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ และการตัดสินใจตามศักยภาพในหน้าที่ที่รับผิดชอบ

คนในองค์กรมีความสุขในการทำงานตามที่ตนถนัดและได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม ก็จะทำให้ได้คนเก่งไว้ในองค์กรซึ่งส่งผลต่อผลิตผลขององค์กรที่จะบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน

………………………………………………………………………….

บรรณานุกรม

กกกร  ชลายแย้ม และอธิวัฒน์  เจี๋ยวิวรรธน์กุล,(2556) ความสุขมวลรวมของการทำงาน. ที่มา http://www.happy-workplace.com/Main/Frontpages/HWFM008_Article.php?Article=100&Hit=y

ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์. (2553). Change… เพื่อสร้างความสุขในองค์กร. ที่มา จาก http://www.wiseknow.com/blog/2009/05/22/2534/#axzz1XM0jYg4j

จิตรสุดา  ลิมเกรียงไกร.(2556) การเดินทางสู่ “องค์กรแห่งความสุข” ที่มา http://www.happy-workplace.com/Main/Frontpages/HWFM008_Article.php?Article=179&Hit=y

ดวงเนตร  ธรรมกุล. การสร้างสุขภาวะในองค์กร. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ  ปีที่ 6 ฉบับที่ 1 : มกราคม – มิถุนายน ปี 2555.

ทศ  คณนาพร และพันโท อนันท์   ชินบุตร.(2555) The  Best  CEOs คัมภีร์สร้าง “มืออาชีพ” และ “เพิ่มความสุข” ในองค์กร ของ เดอะ เบสท์ ซี อี โอ. กรุงเทพฯ, แฮ็ปปี้บุ๊ค.

Burton, J (2010). WHO  Healthy Workplace  Framework  and  Model : Background and Supporting  literature and Practices. Submitted to Evelyn  Kortum. (WHO Headquarters, Geneva, Geneva, Switzerland  February 2010)

Dive, B.(2004). The  healthy  organization. USA : DMA Consultancy  Limited.

Leitgb, H.& Sebinger, S.(2009). Move Europe, A Campaign  for  the  Improvement of Lifestyle-related  Workplace  Health  Promotion in Europe, BUSINESS REPORT. Linz : Gutenberg – Werbering GmbH.

Lowe, G. S. (2004). Health  workplace  strategies : creating  change  and  achieving  results. USA : The Graham Lowe  Group  Inc.

World  Health  Organization : Workplace Health Promotion. Retrived November 29,2010,

Share this:

Like this:

ถูกใจ

กำลังโหลด…

[Update] | กิจกรรม สร้าง ความ สามัคคี ใน องค์กร – Sonduongpaper

          บุคลากรภายในองค์กรต้องการได้รับการดูแลจากองค์กร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อเป็นแรงกาย แรงใจในการมุมานะทำงานให้แก่องค์กร และเป็นกลไกสำคัญผลักดันให้องค์กรก้าวไปสู่ความสำเร็จ องค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อบุคลากรของตนจะต้องไม่ละเลยการดูแลเอาใจใส่พนักงาน แม้เพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำให้บุคลากรมีขวัญและกำลังใจที่ดี พร้อมที่จะอุทิศตนจงรักภักดีต่อองค์กรอย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะฉะนั้น jobsDB ขอนำเสนอกิจกรรมภายในองค์กรที่จะทำให้พนักงานของคุณปราบปลื้ม และมีความสุขในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ดังต่อไปนี้

1. การอบรมพนักงาน

          องค์กรควรสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพในการทำงานของบุคลากร ให้เขาได้รับองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาขาอาชีพของตน โดยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้บุคลากรได้ทำความรู้นั้นมาเพิ่มความเชี่ยวชาญและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้อง

2. การศึกษาดูงาน

          เพื่อเปิดโลกทัศน์ของบุคลากรให้กว้างขวางขึ้น องค์กรควรจัดให้มีการศึกษาดูงานทั้งใน และต่างประเทศ หากไม่สามารถจัดให้กับพนักงานได้ทั้งแผนก อาจทำโดยการคัดเลือกผู้ที่มีผลงานโดดเด่น เป็นผู้ที่จะได้ไปศึกษาดูงาน เป็นการจูงใจให้พนักงานตั้งใจทำงาน ทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด

3. การจัดทริปพักผ่อนประจำปี

          เป็นกิจกรรมที่บุคลากรทั้งองค์กรได้ทำร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในองค์กรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และบุคลากรได้พักผ่อน จากความเหน็ดเหนื่อยที่ทำงานกันมาตลอดทั้งปี

4. การจัดสวัสดิการให้แก่บุคลากร

          องค์กรที่มีสวัสดิการดี แม้พนักงานจะไม่ได้เงินเดือนสูงมาก แต่พนักงานก็รักที่จะทำงานให้กับองค์กร เพราะได้รับการดูแลอย่างดีในด้านต่าง ๆ เช่น การจัดกองทุนให้กับพนักงาน การดูแลครอบครัว บุตรหลานของพนักงาน การจ่ายโบนัสอย่างสม่ำเสมอ การตรวจสุขภาพประจำปี การส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมทั้งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการจัดงานวันเกิดให้แก่พนักงาน เป็นต้น

5. การจัดกิจกรรมพนักงานดีเด่น

          เป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความกระตือรือร้นในการทำงานของบุคลากรได้เป็นอย่างดี เมื่อพนักงานมีความปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน ได้เป็นคนโปรดของหัวหน้างาน เขาจะเพียรพยายามให้ได้รับการคัดเลือก และเมื่อเพื่อนร่วมงานเห็นคนอื่น ๆ มีพัฒนาการในการทำงาน เขาก็จะต้องพัฒนาตนเองด้วยเช่นกัน กิจกรรมนี้ไม่เพียงเป็นที่ต้องการของบุคลากร แต่ยังจะเป็นผลดีต่อองค์กรที่จะได้พนักงานที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

          หากองค์กรต้องการมัดใจพนักงานให้รักในงานที่ทำ และทำงานอย่างมีความสุข ดูแลพวกเขาด้วยการให้ความสำคัญ จัดกิจกรรมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งพัฒนาสภาพแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิต ผลที่ตามมาคือพลังอันยิ่งใหญ่จากเหล่าพนักงานที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จที่ปรารถนา

Increase your chances of getting hired. Create a jobsDB profile

Increase your chances of getting hired. Update your jobsDB profile

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เทคนิคสร้างสมดุลชีวิตให้กับพนักงาน

สวัสดิการและผลประโยชน์ดี ๆ ที่พนักงานควรได้รับ


กิจกรรมสันทนาการ เกม สร้างความสามัคคี EP.2 | OP Autotech


กิจกรรมสันทนาการที่เราจัดขึ้นให้กับพนักงาน ไม่ใช่เพื่อให้พนักงานสนุกสนานเท่านั้น ภายในกิจกรรมยังสอดแทรกหลายๆ อย่างให้กับพนักงานอีกด้วย
1. เพื่อให้พนักงานได้ละลายพฤติกรรม
2. ได้ทำความรู้จักกัน
3. ได้แก้ไขปัญหาร่วมกัน
4. สร้างความสามัคคี
5. สร้างทัศนคติที่ดีให้กับเพื่อนร่วมงาน
เรามาดูเกมที่เราได้จัดขึ้นกันค่ะ
เกมดีดมะนาว
เกมเรียงลูกโป่ง
เกมลูกโป่งข้ามแดน
เกมโยนปิงปอง
เกมลูกเต๋าเสี่ยงทาย
เป็นกิจกรรมที่ดีเลยใช่ไหมหล่ะคะ ถ้าหากเพื่อนๆบริษัทไหนอยากให้ความรู้เพื่อนพนักงานพร้อมกับสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนในที่ทำงานไปพร้อมๆกันก็ลองนำกิจกรรมกันนี้ไปทำตามกันได้นะคะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

กิจกรรมสันทนาการ เกม สร้างความสามัคคี EP.2 | OP Autotech

good teamwork and bad teamwork


good teamwork and bad teamwork

เกมส์แก้เซ็งโดยไม่พึ่งอุปกรณ์


ไปเที่ยวบางทีนั่งรถนานๆ หรือเที่ยวที่ไม่มีสัญญาณ
ตอนว่างๆไม่รู้จะทำอะไร อยากหาเกมส์มันส์ เกมส์แก้เบื่อ
นี่เลย เกมส์แก้เบื่อ โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เยอะ

เกมส์แก้เซ็งโดยไม่พึ่งอุปกรณ์

เกมฝึกสติ(ตา หู จมูก ปาก).flv


สนใจดาวน์โหลดสื่อการสอนได้ที่เว็บวัดสวนวาง https://www.watsuanvang.com

เกมฝึกสติ(ตา หู จมูก ปาก).flv

5 แนวทางใน \”การทำงานเป็นทีม\” I จตุพล ชมภูนิช I Supershane Thailand


5 แนวทางใน “การทำงานเป็นทีม”
(1) รู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน
(2) ร่วมหัวจมท้าย
(3) ต้องสำเร็จร่วมกัน
(4) ยอมรับกันและกัน
(5) รู้หน้าที่ตัวเอง
==============================
ฝากติดตาม
กด Like
กด Share
กด Subscribe
เพื่อเป็นกำลงใจในการทำคลิปต่อๆไปด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกคนที่รับชม….
=================================
6 สิ่งที่ทำ นำไปสู่ความสำเร็จ
https://www.youtube.com/watch?v=zRuHxA3Vfco\u0026t=41s
======================================
บรรยาย ทอล์คโชว์ อบรม สัมมนา
ติดต่องานโดยตรง…
สถาบันฝึกอบรม บริษัท เทรน แอนด์ ทอล์ค จำกัด
วิทยากรโดย : จตุพล ชมภูนิช
Tel. 0842246541 , 0865655641 (office)
www.jatuponechompoonich.com
Email : [email protected]
ติดตามผลงานต่างๆ ได้ที่ Facebook , Instagram , [email protected] ตามลิงก์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jatuponechom…
https://www.instagram.com/jatuponecho…
[email protected] : http://line.me/ti/p/%40sjm2414w

5 แนวทางใน \

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ กิจกรรม สร้าง ความ สามัคคี ใน องค์กร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *