ที่เที่ยวปารีส: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

มาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro ครั้งแรกมาฝากค่ะ อยากบอกว่างงสุด แต่ก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัย
ก็ขอกราบสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัดเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผองชาวไทยและชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสดใส งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ระเบิดเทิดเทิง เปิดเปิงหัวใจกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาเว้าวอน ออนซอนต้อนรับคุณผู้อ่านเข้าสู่บล็อกของคนบ้าเที่ยว บ้าเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวกากๆ โกโรโกโส สับปะรังเค ให้ท่านได้เปิดอ่านกันจนปวดเศียร เวียนเกล้ากันอีกเหมือนเดิมนะค่ะ
สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่กำลังจะวางแผนแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบตัวดิฉัน ต้องขอบอกเลยว่า ยังไงทำการบ้านเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟมาก่อนนะค่ะ เพราะว่าเดี๊ยนเองมาเที่ยวที่เมืองนี้เป็นครั้งครั้งแรก ปวดเศียรเวียนเกล้า และสับสน งุนงงกับเส้นทางในเมืองนี้มากๆ เพราะรถไฟมีหลายสาย และหลายเส้นทาง และมีการแบ่งเขต แบ่งโซน โน้นนี้นั้น ปวดหัวเหลือเกิน เรียกว่าหากใครที่จะลุยเดี่ยว หรือไม่ได้มีคนรู้จักมักค้นพาเที่ยวปารีสแล้ว ยังไงต้องทำความรู้จักกับการเดินทางด้วยรถไฟในเมืองนี้มาก่อนเลยค่ะ
เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาแบ่งปันการเดินทางเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro และรถไฟ RER มาฝากค่ะ
ก่อนอื่นมารู้จักการเดินทางด้วยรถไฟ Metro กับ รถไฟ RER
1. รถไฟ Metro อ่านว่า เมโทร เป็นรถไฟใต้ดินทีี่วิ่งเฉพาะย่านใจกลางเมืองโซน 1-2 เท่านั้นค่ะ มีทั้งหมด 16 สาย
2. รถไฟ RER อ่านว่า แอ-เออ-แอ เป็นภาษาฝรั่งเศสนะค่ะ หากไปบ้านเค้าแล้ว จะถามคนในพื้นที่ถึงรถไฟสายนี้ อย่าเผลอพูดว่า อีอาร์อีล่ะ เดี่ยวเค้าจะงงเอาจ้า สำหรับรถไฟแอร์เออแอร์นี้ เป็นรถไฟที่วิ่งทั้งเข้าทั้งในเมืองและออกย่านชานเมืองค่ะ โดยจะวิ่งตั้งแต่โซน 1-5 เลยค่ะ และเป็นรถไฟขบวนต่างกันรถไฟ Metro
1.รถไฟ Metro
รถไฟ Metro ถือเป็นระบบขนส่งมวลสาธารณะหรือรถไฟใต้ดินท่ี่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเส้นทางทั้งหมด 14 สายครอบคลุมเฉพาะการเดินทางโซน 1 กับ โซน 2 เท่านั้นค่ะ
– ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว เริ่มต้นที่ 1.9 ยูโรตลอดสายต่อ 1 เที่ยวค่ะ ซึ่งตั๋วรถไฟเมโทรนั้นเป็นบัตร Ticket T+นั้นจะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวแต่ครบคลุมทั้งรถไฟ RER รถบัสประจำทาง และรถรางอีกด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะโซนที่กำหนดเท่านั้นนะค่ะ
– ถ้าจะให้ประหยัดแนะนำ ให้เพื่อนๆซื้อแบบ 10 ใบไปเลยค่ะ สามารถซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ หรือถ้าเกรงจะงงกับเครื่องขายบัตร ก็ซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ โดยราคาตั๋ว 10 ใบจะถูกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ หากไปหลายคนก็แบ่งกันใช้ได้ค่ะ
– เวลาให้บริการของรถไฟใต้ดิน Metro วัน ศุกร์-เสาร์ 5:30-01:40 และวันอาทิตย์-พฤหัสบดีเริ่ม 5:30-12:40 น.
– ขบวนรถไฟ Metro บางขบวนไม่มีการประกาศบอกสถานีนะค่ะ ดังนั้นเพื่อนต้องสังเกตุป้ายนอกกระจกรถไฟตลอดว่าถึงสถานีใหนแล้ว แต่บางขบวนก็มีบอกค่ะ สรุปคือต้องวัดดวงเอาค่ะว่าจะได้ขบวนรถไฟคันใหนที่มีเสียงประกาศบอกสถานี สนุกตรงนี้แหละค่ะ
– เก็บตั๋วโดยสารไว้ตลอดนะค่ะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจเช็ค
2.รถไฟ RER (แอร์-เออ-แอร์)
สำหรับรถไฟสายนี้นะค่ะ เป็นรถไฟที่เน้นการเดินทางจากใจกลางเมืองตั้งแต่โซน 1 – 5 ไปยังบริเวณชานเมืองหรือออกไปนอกเมือง ยกตัวอย่างเช่นจะเดินทางจากสถานีใกล้ๆ หอไอเฟลซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ไปยังพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งอยู่ย่านชานเมือง ก็ต้องเลือกนั่งรถไฟ ERE
หรือว่าจะนั่งจากสนามบิน CDG เข้ามาในย่านใจกลางเมืองที่สถานี Chatelet ก็ต้องนั่งรถไฟ RER เข้ามาค่ะ แล้วค่อยมาเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆด้วยรถไฟ Metro หรือ รถบัสและขนส่งแบบอื่นๆค่ะ
– จุดสังเกตที่เห็นเด่นชัดถึงความแตกต่างจากรถไฟใต้ดินนั่นคือสายที่ใช้ตัวอักษรแบ่งเป็น 5 สายหลัก ได้แก่ A, B, C, D และ E ราคาของตั๋วโดยสารนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระยะทางต้นทางถึงปลายทางค่ะ ซึ่งแตกต่างกันกับรถไฟ Metro นะค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง Metro กับ รถไฟ RER ต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ
1.รถไฟ Metro วิ่งเฉพาะโซน 1-2 เท่านั้น ส่วนรถไฟ RER วิ่งตั้งแต่ในเมืองไปย่านชานเมือง1-5 เลยค่ะ
2.รถไฟ Metro มี 16 สาย และเส้นทางในแผนที่จะบอกเป็นตัวเลขค่ะ 1,2,3,4 ไปจนถึง 16 ส่วนรถไฟ RER จะบอกเป็นตัวอักษร A,B,C,D,E สังเกตุได้ที่แผนทีี่จะเป็นวงกลมไว้ของสถานีต้นทางและปลายทางจะบอกชัดเจนค่ะ
3.ราคาตั๋วรถไฟ metro เป็นราคาเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลเพราะวิ่งเฉพาะโซน1-2เท่านั้น แต่ถ้ารถไฟ RER ราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสถานี ราคาไม่เหมือนกัน
เพื่อให้มองเห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น ขออธิบายตามรูปนะค่ะ (ไม่รู้เพื่อนๆจะเข้าใจหรือเปล่านะ แต่เดีี๊ยนพยายามให้อธิบายให้เพื่อนงงๆที่สุดจะได้เปาไปศึกษาค่ะ)
เส้นทางรถไฟ RER แบ่งโซน1-5 เครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by train คลิ๊กที่นี้เพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>>
ภาพนี้เป็นแผนที่บอกเส้นรถไฟ RER ค่ะ แบ่งทั้งหมด 5 โซน สังเกตุตัวเลขสีส้มนะค่ะ และเส้นทางรถไฟแต่ละสายจะบอกเป็นตัวอักษร A,B,C,D,E เครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by train
คลิ๊กดูภาพแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>>
เครดิตภาพจากเว็ป Paris by train
ส่วนภาพนี้คือแผนที่รถไฟ Metro+RER+ เฉพาะโซน 1 กับโซน 2 นะค่ะ โดยรถไฟ Metro นั้นมีทั้งหมด 16 สาย ใช้ตัวเลขบอกและสีบอกเส้นทางของแต่ละสายค่ะ จะเห็นได้ว่าเส้นทางรถไฟจะชุกชุมมากๆ ดูครั้งแรกก็งงแบบสุดจนหลุดโลกไปเลยล่ะค่ะ ยังไงเพื่อนๆคนใหนที่จะแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวปารีสครั้งแรกคนเดียว ศึกษาแผนที่เดินทางให้ดีนะค่ะ จะได้ไม่ปวดเศียร เวียนเกล้า
เครดิตภาพจากเว็ป Paris by train
ป้า่ยสัญลักษณ์ของสายรถไฟ Metro มี 16 สาย และ RER อีก 5 สายเพื่อประกอบในการดูในแผนที่ค่ะ
ซึ่งสัญลักษณ์นี้มีประโยชน์เพื่อสะดวกในการดูแผนที่และเป็นป้ายสัญลักษณ์ของรถไฟแต่ละสายด้วยค่ะ
ตามภาพจะเห็นรถไฟ Metro Line มีทั้งหมด 14 สายหลัก และสายลูกอีก 2 หลัก รวมเป็น 16 หลัก
ส่วนรถไฟ RER line นั้นจะมีเฉพาะ 5 สายแบ่งตามโซนไปเลยค่ะ
ราคาบัตร Ticket+T
ราคาตั๋วเที่ยวเดียว เริ่มต้น 1.9 ยูโร
แต่ถ้าให้คุ้มแบบเดินทางบ่อยก็ซื้อแบบ 10 ใบไปเลย
เพื่อให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกคนเห็นภาพการเดินทาง ดิฉันขอมารีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ Metro จากเริ่มต้นสถานี Opera ไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้สถานี Ledru-Rollin มาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนได้ดูกัน
ต่อจากบล็อกก่อนหน้า เริ่มต้นเดินทางรถไฟ Metro ที่สถานี opera
หลังจากที่นั่งรถบัสโดยสารจากสนามบินฝรั่งเศส เข้ามาจอดสุดสายที่สถานีโอเปร่าแล้วนะค่ะ จากนั้นเดี๊ยนก็แบกเป้ใบใหญ่เดินลงมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน สถานี Opera เดินลงมาครั้งแรกก็จะงงๆหน่อยค่ะ
ป้ายบอกเส้นทางรถไฟแต่ละสายในสถานี Opera มีรถไฟ Metro ผ่านสถานีนี้คือ รถไฟหมายเลข 3,7,8
เดินลงมาจะมีป้ายบอกเส้นทางของรถไฟ Metro แต่ละสายค่ะ จะเห็นว่ารถไฟ Metro ใช้ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางแต่ละสายค่ะ อย่างในป้ายบอก รถไฟRER สาย A ผ่านสถานีนี้ และรถไฟ Metro สาย 3,7,8 ผ่านสถานีนี้ค่ะ
โดยจุดมุ่งหมายของเดี๊ยนคือ เดินทางจาก Opera ไปสถานี Ledru-Rollin ซึ่งเป็นรถไฟ Metro สาย 8 หากดูในแผนที่จะเป็นสายสีม่วงค่ะ
มีข้อมูลแผนที่บอกเส้นทางให้ดูด้วยค่ะ ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ใหนจะได้ไม่เกิดอาการอิสสะงงๆ
ขยายภาพอีกครั้งนะค่ะ เผื่อตัวหนังสือในแผนที่เล็กไป นั่งรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงจากสถานี Opera ไปลงที่สถานี Ledru-Rollin
ซื้อตั๋วรถไฟ Metro กับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ
สำหรับการซื้อตั๋วรถไฟโดยสาร สามารถซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ หรือจะซื้อผ่านเครื่องก็ได้ แต่ถ้ากลัวงงๆก็ซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ก็จะสะดวกกว่าเพราะสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ด้วย
เมื่อเดินผ่านประตูมาแล้วก็มาดูแผนที่ว่าจะผ่านสถานีอะไรบ้าง
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานี Opera ไปที่สถานี Ledru-Rollin โดยต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชลาป้าย Creteil ค่ะ ตามภาพเลยนะค่ะ
อุโมงชานชลารอรถไฟใต้ดิน Metro ไปสถานีปลายทางค่ะ
เดินเข้ามาก็จะเป็นอุโมงค์รอรถไฟแบบนี้เลยค่ะ ดูน่ากลัวอิสสะนึดนึงนะค่ะ เนื่องจากดึกมากๆแล้ว บางครั้งเดี๊ยนก็กลัวจะมีเจ้าปีศาจ เอเลี่ยนหลุดออกมาจากช่องมุมมืดเหมือนกันนะค่ะ
ป้ายที่เห็นเป็นป้ายบอกทางไปยังรถไฟสายอื่น ส่วนป้ายที่เขียนว่า Sortie แปลว่าทางออกค่ะ เดี๊ยนเรียกว่า ป้ายอาซ้อ มาที่ฝรั่งเศสไม่มีป้ายเขียนว่า Exit เลยนะค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนเห็นป้ายอาซ้อ แสดงว่าทางออกแน่นอนค่ะ
รอไม่นานนัก รถไฟก็มาโดยทันทีเลยนะค่ะ พอขึ้นรถไฟมาแล้ว เนื่องจากขบวนที่เดี๊ยนขึ้นมานี้ ไม่มีการประกาศแจ้งว่าถึงสถานีใหนแล้วบ้าง และก็ไม่มีเสียงประกาศว่า พลีสมันเด้อเกต บีทวีนเทรนแอนด์พลักฟอม (Please mind the gap between the train and platform)เหมือนรถไฟ BTS และ mrt ในบ้านเรา
พักค้างแรมคืนนี้ที่ืโรงแรม โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes)
จากสถานีรถไฟ Metro Ledru Rollin เดินมาไม่ไกลนัก ก็ถึงที่พักคืนนี้แล้วค่ะ
พักที่ โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes) ชื่อโรงแรมเรียกยากมากๆ เป็นที่พักแนวโฮสเทล ห้องนอนรวม ราคาหลักร้อย ห้องน้ำรวม มีอาหารเช้าให้ทานฟรีนะ เน้นแค่นอน อย่าไปคิดอะไรมาก แต่ก็กระชากใจเว่อร์เหมือนกันนะ
แล้วเป็นบันใดแคบๆ เดินวนขึ้นไปเรื่อยๆ เวียนหัวเหมือนกันนะค่ะ มันเป็นบันใดวน เหมือนขนมเกลียวอะไรแบบนั้นเลย โอ้ย…เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะ
ห้องพักคืนละ 800 บาท รวมอาหารเช้า
ห้องพักคืนนี้ เตียงเดียว มี 3 เตียงใน 1 ห้อง ตอนนอนก็มีแขกพักอยู่อีกเตียง แต่นางนอนไปก่อนล่ะ เพราะดึกมากๆแล้วค่ะ
สภาพห้องพักพอใช้ ไม่ดี ไม่แย่ พอถูไถๆ ถือว่าราคาถูกมากนะค่ะ เพราะปกติโฮสเทลในปารีส ราคาก็ปาไปเป็นพันกว่าแล้วค่ะ แต่ที่นี้ราคาแค่หลักร้อย สงสัยที่ราคาถูก เพราะไม่ได้อยู่ในย่านท่องเที่ยวด้วยกระมัง หากเพื่อนๆคนใหนที่มองหาที่พักหลักร้อยอยู่ ก็มาพักที่นี้ได้นะค่ะ คือแบบพอพักได้ แต่เดินบันใดขาลากเลยค่ะ และห้องอาบน้ำในชั้นก็มีอยู่ 2 ห้อง ห้องส้วมอีก 2 ห้อง
เวลาปวดอึ ก็ต้องอั้นไว้เหมือนกัน เพราะต้องต่อคิว หากจะเดินไปอึ ด้านล่าง ก็เกรงจะไม่ทัน ขี้แตกเสียก่อน โอ้ยเดี๊ยนจะเป็นลม
—————————————————
อ้อเกือบลืม สำหรับเพื่อนๆที่ถามกันไว้ว่า มีวิธีการซื้อตั๋วรถไฟ Metro ผ่านตู้ขายเครื่องอัตโนมัติใหม๊
ในบล็อกนี้เดี๊ยนก็เลยนำภาพมาลงไว้ในบล็อกด้วย แต่ทำไม่สุดขั้นตอน เนื่องจากธนบัตรที่เดี๊ยนถืออยู่นั้นเป็นแบงค์ 50 กับ แบงค์ 100 ยูโร ก็เลยนำแต่วิธีเบื้องต้นมาให้ดูค่ะ น่าจะเป็นแนวทางได้นะค่ะ
เริ่มแรกไปที่เมนูภาษาอังกฤษก่อนเลยค่ะ
อันนี้เราจะซื้อบัตรโดยสารรถไฟก็เลือก Ticket T ค่ะ
Full Fare คือตั๋วราคาเต็ม
Reduced fare -10 year old คือตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี
ให้เราเลือก Full fare
ทีนี้พอกดเลือก Full fare แล้วก็จะมาให้เลือกจำนวนตั๋วค่ะ ซึ่งให้เลอกตั้งแต่ 1-20 ใบเลยค่ะ
ถ้าไปเที่ยวเดียวก็เลือก 1.90 ยูโร
แต่ถ้าซื้อจำนวน 10 ใบก็ 14.9 ยูโร
พอถึงหน้านี้แล้ว เดี๊ยนก็ต้องหยุดสต๊อป เพราะมีแต่แบงค์ใหญ่อยู่ดี
ก็เลยตัดสินใจไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ สะดวกกว่าค่ะ
ตั๋วรถไฟโดยสารซื้อแบบ 10 ใบ ราคาจะถูกและประหยัดกว่าค่ะ
ซื้อกับเจ้าหน้าที่จ่ายกับบัตรเครดิตไปเลย ได้ทั้งหมด 10 ใบตามภาพ เอาไว้เดินทางในตัวเมืองย่านโซน1-2ค่ะ
แผนที่การเดินทางในกรุงปารีส และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆยังไงเพื่อนลองไปศึกษากันดูนะค่ะ
เข้าไปดูข้อมูลการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์
และเว็ปไซต์ :
เอาเป็นรีวิวทริปการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro ในกรุงปารีส จากสถานี Opera
มายังสถานี Ledru-Rollin ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ
เดี่ยวมารีวิวต่อในบล็อกถัดไป จะพาเที่ยวกรุงปารีสแล้วค่ะ
ยังไงต้องขอขอบพระคุณเพื่อนทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านและปวดหัวไปด้วยกัน
หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ
————————————————————————————
รวมบทความรีวิวบล็อกท่องเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ
(จะทยอยเขียนเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไปคะ)
จะไปเที่ยวกรุงปารีส พักโซนใหนดี
ขอแนะนำ 8 เขตโซนที่พักพร้อมแผนที่มาให้เพื่อนๆได้เลือกกันจ้า
หรือดูข้อมูลโซนในปารีสที่เว็ปไซต์ :
http://bit.ly/2z6cOxa
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :
https://goo.gl/dLDKAX
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :
https://goo.gl/e6o4UL
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :
https://goo.gl/Bxaq9X
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :
https://goo.gl/XCFzYC
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :
https://goo.gl/7ZB3pt
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ :
https://goo.gl/YHUCtA
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ :
รีวิวเที่ยวกาฬสินธุ์ เดือน ก.พ.61 เยือนถิ่นไดโนเสาร์ นอนคลอเคล้าที่เขื่อนลำปาว สวยสกาวคั๊กอีหลีเด้อ
คลิ๊กดูภาพและรายละเอียดรีวิวค่ะ>>
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :
รีวิวเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง ม.ค.61 ตอนที่ 1 เที่ยวมาเก๊านั่งเรือเมาไปถึงเกาะฮ่องกง แถมติดด่าน ตม. เข้าห้องเย็นเจี๊ยบ
คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเกาะกูด 4 วัน
นอนสุขสันต์ริมชายหาด สวยสะอาดน้ำทะเลใส งามวิไลเลิศสะแมนแตน
รีวิวเที่ยวเมืองปาย สไตล์ชิคๆ
แวะกุ๊กกิ๊กถนนคนเดิน เช่ามอเตอร์ไซต์ขับเพลินๆ ดีเลิศสะแมนแตน
รีวิวเที่ยวแม่ฮ่องสอนตอนที่ 2
ขับมอเตอร์ไซต์ไปออนซอนที่บ้านรักไทย งามวิไลปางอุ๋ง สวยจูงเบย
ก็ขอกราบสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัดเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผองชาวไทยและชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสดใส งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ระเบิดเทิดเทิง เปิดเปิงหัวใจกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาเว้าวอน ออนซอนต้อนรับคุณผู้อ่านเข้าสู่บล็อกของคนบ้าเที่ยว บ้าเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวกากๆ โกโรโกโส สับปะรังเค ให้ท่านได้เปิดอ่านกันจนปวดเศียร เวียนเกล้ากันอีกเหมือนเดิมนะค่ะสำหรับเพื่อนๆท่านใดที่กำลังจะวางแผนแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบตัวดิฉัน ต้องขอบอกเลยว่า ยังไงทำการบ้านเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟมาก่อนนะค่ะ เพราะว่าเดี๊ยนเองมาเที่ยวที่เมืองนี้เป็นครั้งครั้งแรก ปวดเศียรเวียนเกล้า และสับสน งุนงงกับเส้นทางในเมืองนี้มากๆ เพราะรถไฟมีหลายสาย และหลายเส้นทาง และมีการแบ่งเขต แบ่งโซน โน้นนี้นั้น ปวดหัวเหลือเกิน เรียกว่าหากใครที่จะลุยเดี่ยว หรือไม่ได้มีคนรู้จักมักค้นพาเที่ยวปารีสแล้ว ยังไงต้องทำความรู้จักกับการเดินทางด้วยรถไฟในเมืองนี้มาก่อนเลยค่ะเพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาแบ่งปันการเดินทางเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro และรถไฟ RER มาฝากค่ะ1. รถไฟ Metro อ่านว่า เมโทร เป็นรถไฟใต้ดินทีี่วิ่งเฉพาะย่านใจกลางเมืองโซน 1-2 เท่านั้นค่ะ มีทั้งหมด 16 สาย2. รถไฟ RER อ่านว่า แอ-เออ-แอ เป็นภาษาฝรั่งเศสนะค่ะ หากไปบ้านเค้าแล้ว จะถามคนในพื้นที่ถึงรถไฟสายนี้ อย่าเผลอพูดว่า อีอาร์อีล่ะ เดี่ยวเค้าจะงงเอาจ้า สำหรับรถไฟแอร์เออแอร์นี้ เป็นรถไฟที่วิ่งทั้งเข้าทั้งในเมืองและออกย่านชานเมืองค่ะ โดยจะวิ่งตั้งแต่โซน 1-5 เลยค่ะ และเป็นรถไฟขบวนต่างกันรถไฟ Metroรถไฟ Metro ถือเป็นระบบขนส่งมวลสาธารณะหรือรถไฟใต้ดินท่ี่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเส้นทางทั้งหมด 14 สายครอบคลุมเฉพาะการเดินทางโซน 1 กับ โซน 2 เท่านั้นค่ะ- ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว เริ่มต้นที่ 1.9 ยูโรตลอดสายต่อ 1 เที่ยวค่ะ ซึ่งตั๋วรถไฟเมโทรนั้นเป็นบัตร Ticket T+นั้นจะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวแต่ครบคลุมทั้งรถไฟ RER รถบัสประจำทาง และรถรางอีกด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะโซนที่กำหนดเท่านั้นนะค่ะ- ถ้าจะให้ประหยัดแนะนำ ให้เพื่อนๆซื้อแบบ 10 ใบไปเลยค่ะ สามารถซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ หรือถ้าเกรงจะงงกับเครื่องขายบัตร ก็ซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ โดยราคาตั๋ว 10 ใบจะถูกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ หากไปหลายคนก็แบ่งกันใช้ได้ค่ะ- เวลาให้บริการของรถไฟใต้ดิน Metro วัน ศุกร์-เสาร์ 5:30-01:40 และวันอาทิตย์-พฤหัสบดีเริ่ม 5:30-12:40 น.- ขบวนรถไฟ Metro บางขบวนไม่มีการประกาศบอกสถานีนะค่ะ ดังนั้นเพื่อนต้องสังเกตุป้ายนอกกระจกรถไฟตลอดว่าถึงสถานีใหนแล้ว แต่บางขบวนก็มีบอกค่ะ สรุปคือต้องวัดดวงเอาค่ะว่าจะได้ขบวนรถไฟคันใหนที่มีเสียงประกาศบอกสถานี สนุกตรงนี้แหละค่ะ- เก็บตั๋วโดยสารไว้ตลอดนะค่ะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจเช็คสำหรับรถไฟสายนี้นะค่ะ เป็นรถไฟที่เน้นการเดินทางจากใจกลางเมืองตั้งแต่โซน 1 – 5 ไปยังบริเวณชานเมืองหรือออกไปนอกเมือง ยกตัวอย่างเช่นจะเดินทางจากสถานีใกล้ๆ หอไอเฟลซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ไปยังพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งอยู่ย่านชานเมือง ก็ต้องเลือกนั่งรถไฟ EREหรือว่าจะนั่งจากสนามบิน CDG เข้ามาในย่านใจกลางเมืองที่สถานี Chatelet ก็ต้องนั่งรถไฟ RER เข้ามาค่ะ แล้วค่อยมาเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆด้วยรถไฟ Metro หรือ รถบัสและขนส่งแบบอื่นๆค่ะ- จุดสังเกตที่เห็นเด่นชัดถึงความแตกต่างจากรถไฟใต้ดินนั่นคือสายที่ใช้ตัวอักษรแบ่งเป็น 5 สายหลัก ได้แก่ A, B, C, D และ E ราคาของตั๋วโดยสารนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระยะทางต้นทางถึงปลายทางค่ะ ซึ่งแตกต่างกันกับรถไฟ Metro นะค่ะความแตกต่างระหว่าง Metro กับ รถไฟ RER ต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ1.รถไฟ Metro วิ่งเฉพาะโซน 1-2 เท่านั้น ส่วนรถไฟ RER วิ่งตั้งแต่ในเมืองไปย่านชานเมือง1-5 เลยค่ะ2.ส่วนรถไฟสังเกตุได้ที่แผนทีี่จะเป็นวงกลมไว้ของสถานีต้นทางและปลายทางจะบอกชัดเจนค่ะ3.ราคาตั๋วรถไฟ metro เป็นราคาเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลเพราะวิ่งเฉพาะโซน1-2เท่านั้น แต่ถ้ารถไฟ RER ราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสถานี ราคาไม่เหมือนกันเพื่อให้มองเห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น ขออธิบายตามรูปนะค่ะ (ไม่รู้เพื่อนๆจะเข้าใจหรือเปล่านะ แต่เดีี๊ยนพยายามให้อธิบายให้เพื่อนงงๆที่สุดจะได้เปาไปศึกษาค่ะ)ภาพนี้เป็นแผนที่บอกเส้นรถไฟ RER ค่ะ แบ่งทั้งหมด 5 โซน สังเกตุตัวเลขสีส้มนะค่ะ และเส้นทางรถไฟแต่ละสายจะบอกเป็นตัวอักษรเครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by trainส่วนภาพนี้คือแผนที่รถไฟ Metro+RER+ เฉพาะโซน 1 กับโซน 2 นะค่ะ โดยรถไฟ Metro นั้นมีทั้งหมด 16 สาย ใช้ตัวเลขบอกและสีบอกเส้นทางของแต่ละสายค่ะ จะเห็นได้ว่าเส้นทางรถไฟจะชุกชุมมากๆ ดูครั้งแรกก็งงแบบสุดจนหลุดโลกไปเลยล่ะค่ะ ยังไงเพื่อนๆคนใหนที่จะแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวปารีสครั้งแรกคนเดียว ศึกษาแผนที่เดินทางให้ดีนะค่ะ จะได้ไม่ปวดเศียร เวียนเกล้าเครดิตภาพจากเว็ป Paris by trainซึ่งสัญลักษณ์นี้มีประโยชน์เพื่อสะดวกในการดูแผนที่และเป็นป้ายสัญลักษณ์ของรถไฟแต่ละสายด้วยค่ะตามภาพจะเห็นรถไฟ Metro Line มีทั้งหมด 14 สายหลัก และสายลูกอีก 2 หลัก รวมเป็น 16 หลักส่วนรถไฟ RER line นั้นจะมีเฉพาะ 5 สายแบ่งตามโซนไปเลยค่ะราคาบัตร Ticket+Tราคาตั๋วเที่ยวเดียว เริ่มต้น 1.9 ยูโรแต่ถ้าให้คุ้มแบบเดินทางบ่อยก็ซื้อแบบ 10 ใบไปเลยเพื่อให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกคนเห็นภาพการเดินทาง ดิฉันขอมารีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ Metro จากเริ่มต้นสถานี Opera ไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้สถานี Ledru-Rollin มาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนได้ดูกันหลังจากที่นั่งรถบัสโดยสารจากสนามบินฝรั่งเศส เข้ามาจอดสุดสายที่สถานีโอเปร่าแล้วนะค่ะ จากนั้นเดี๊ยนก็แบกเป้ใบใหญ่เดินลงมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน สถานี Opera เดินลงมาครั้งแรกก็จะงงๆหน่อยค่ะเดินลงมาจะมีป้ายบอกเส้นทางของรถไฟ Metro แต่ละสายค่ะ จะเห็นว่ารถไฟ Metro ใช้ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางแต่ละสายค่ะ อย่างในป้ายบอก รถไฟRER สาย A ผ่านสถานีนี้ และรถไฟ Metro สาย 3,7,8 ผ่านสถานีนี้ค่ะโดยจุดมุ่งหมายของเดี๊ยนคือ เดินทางจาก Opera ไปสถานี Ledru-Rollin ซึ่งเป็นรถไฟ Metro สาย 8 หากดูในแผนที่จะเป็นสายสีม่วงค่ะมีข้อมูลแผนที่บอกเส้นทางให้ดูด้วยค่ะ ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ใหนจะได้ไม่เกิดอาการอิสสะงงๆขอยกตัวอย่างการเดินทางด้วยรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงตามภาพเลยนะค่ะ โดยเดี๊ยนจะเริ่มเดินทางจากสถานี Opera ไปยังที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสถานี Ledru-Rollin ตามที่วงกลมสีแดงไว้ค่ะ ซึ่งต้องไปขึั้นชานชลาที่ป้ายสถานี Creteil เนื่องจากว่ารถไฟวิ่งมาจากสถานี Balard ตามวงกลมสีขาวค่ะ โดยที่สถานีจะมีป้ายบอกทางให้ค่ะ ยังไงเพื่อนๆ เรียนรู้การดูแผนที่มาก่อน ก็จะเข้าใจง่ายขึ้นค่ะขยายภาพอีกครั้งนะค่ะ เผื่อตัวหนังสือในแผนที่เล็กไป นั่งรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงจากสถานี Opera ไปลงที่สถานี Ledru-Rollinสำหรับการซื้อตั๋วรถไฟโดยสาร สามารถซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ หรือจะซื้อผ่านเครื่องก็ได้ แต่ถ้ากลัวงงๆก็ซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ก็จะสะดวกกว่าเพราะสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ด้วยเนื่องจากพึ่งมาครั้งแรก ก็เลยซื้อแบบเที่ยวเดียวก่อนค่ะ ราคาบัตรโดยสาร 1.9 ยูโรพอได้บัตรมาแล้วก็เดินผ่านประตูแบบนี้นะค่ะ มองไปเหมือนเครื่องออกกำลังแขนในฟิตเนสเลยนะค่ะเมื่อเดินผ่านประตูมาแล้วก็มาดูแผนที่ว่าจะผ่านสถานีอะไรบ้างการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานี Opera ไปที่สถานี Ledru-Rollin โดยต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชลาป้าย Creteil ค่ะ ตามภาพเลยนะค่ะเดินเข้ามาก็จะเป็นอุโมงค์รอรถไฟแบบนี้เลยค่ะ ดูน่ากลัวอิสสะนึดนึงนะค่ะ เนื่องจากดึกมากๆแล้ว บางครั้งเดี๊ยนก็กลัวจะมีเจ้าปีศาจ เอเลี่ยนหลุดออกมาจากช่องมุมมืดเหมือนกันนะค่ะป้ายที่เห็นเป็นป้ายบอกทางไปยังรถไฟสายอื่น ส่วนป้ายที่เขียนว่า Sortie แปลว่าทางออกค่ะ เดี๊ยนเรียกว่า ป้ายอาซ้อ มาที่ฝรั่งเศสไม่มีป้ายเขียนว่า Exit เลยนะค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนเห็นป้ายอาซ้อ แสดงว่าทางออกแน่นอนค่ะรอไม่นานนัก รถไฟก็มาโดยทันทีเลยนะค่ะ พอขึ้นรถไฟมาแล้ว เนื่องจากขบวนที่เดี๊ยนขึ้นมานี้ ไม่มีการประกาศแจ้งว่าถึงสถานีใหนแล้วบ้าง และก็ไม่มีเสียงประกาศว่า พลีสมันเด้อเกต บีทวีนเทรนแอนด์พลักฟอม (Please mind the gap between the train and platform)เหมือนรถไฟ BTS และ mrt ในบ้านเราดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการสังเกตุป้ายสถานีที่ผ่านแต่ละสถานีผ่านทางกระจกเอาค่ะ ถ้าไม่ดู รับรองว่านั่งสุดสาย ร้องให้ขี้มูกโป่งแน่นอนจ้า หากเกิดสมมุตินั่งผิดสาย ก็มาเริ่มต้นใหม่ หรือดูป้ายแผนที่และชานลาให้ถูกต้องค่ะและแล้วก็ถึงสถานีรถไฟ Ledru Rollin แล้วค่ะ ตอนนั่งรถไฟมาก็เมื่อยคอตลอดค่ะ เพราะต้องชะเงอดูเงียบทุกสถานีนะค่ะ ว่าถึงสถานีหรือยัง เกรงจะนั่งเลยเถิดไปไกล ทำให้เสียเวลาค่ะพอถึงสถานีปลายทางแล้ว เดี๊ยนก็เดินแบกเป้ ท่ามกลางความมืดและความหนาวเย็นของอากาศ เปิดมือถือให้ GPS นำทางไปยังที่พักค้างแรมค่ะจากสถานีรถไฟ Metro Ledru Rollin เดินมาไม่ไกลนัก ก็ถึงที่พักคืนนี้แล้วค่ะพักที่ โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes) ชื่อโรงแรมเรียกยากมากๆ เป็นที่พักแนวโฮสเทล ห้องนอนรวม ราคาหลักร้อย ห้องน้ำรวม มีอาหารเช้าให้ทานฟรีนะ เน้นแค่นอน อย่าไปคิดอะไรมาก แต่ก็กระชากใจเว่อร์เหมือนกันนะทำการ check in เข้าพักมีกุญแจแบบคีย์การ์ดให้ค่ะได้ห้องพักชั้น 4 โรงแรมไม่มีลิฟท์นะค่ะ เดินขึ้นบันใด ขาแทบลากเลยค่ะแล้วเป็นบันใดแคบๆ เดินวนขึ้นไปเรื่อยๆ เวียนหัวเหมือนกันนะค่ะ มันเป็นบันใดวน เหมือนขนมเกลียวอะไรแบบนั้นเลย โอ้ย…เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะห้องพักคืนนี้ เตียงเดียว มี 3 เตียงใน 1 ห้อง ตอนนอนก็มีแขกพักอยู่อีกเตียง แต่นางนอนไปก่อนล่ะ เพราะดึกมากๆแล้วค่ะสภาพห้องพักพอใช้ ไม่ดี ไม่แย่ พอถูไถๆ ถือว่าราคาถูกมากนะค่ะ เพราะปกติโฮสเทลในปารีส ราคาก็ปาไปเป็นพันกว่าแล้วค่ะ แต่ที่นี้ราคาแค่หลักร้อย สงสัยที่ราคาถูก เพราะไม่ได้อยู่ในย่านท่องเที่ยวด้วยกระมัง หากเพื่อนๆคนใหนที่มองหาที่พักหลักร้อยอยู่ ก็มาพักที่นี้ได้นะค่ะ คือแบบพอพักได้ แต่เดินบันใดขาลากเลยค่ะ และห้องอาบน้ำในชั้นก็มีอยู่ 2 ห้อง ห้องส้วมอีก 2 ห้องเวลาปวดอึ ก็ต้องอั้นไว้เหมือนกัน เพราะต้องต่อคิว หากจะเดินไปอึ ด้านล่าง ก็เกรงจะไม่ทัน ขี้แตกเสียก่อน โอ้ยเดี๊ยนจะเป็นลม—————————————————อ้อเกือบลืม สำหรับเพื่อนๆที่ถามกันไว้ว่า มีวิธีการซื้อตั๋วรถไฟ Metro ผ่านตู้ขายเครื่องอัตโนมัติใหม๊ในบล็อกนี้เดี๊ยนก็เลยนำภาพมาลงไว้ในบล็อกด้วย แต่ทำไม่สุดขั้นตอน เนื่องจากธนบัตรที่เดี๊ยนถืออยู่นั้นเป็นแบงค์ 50 กับ แบงค์ 100 ยูโร ก็เลยนำแต่วิธีเบื้องต้นมาให้ดูค่ะ น่าจะเป็นแนวทางได้นะค่ะการซื้อตั๋วผ่านเครื่องขายบัตรโดยสารอัตโมนัติแบบทำเองได้ ตู้ขายบัตรเป็นปุ่มกดเอา และมีตัวเลือกเมนูอยู่ตรงกลางใ มีปุ่มสีแดงด้านซ้ายน่าจะหมายถึงไม่เอา ยกเลิก ส่วนปุ่มสีเงินหมายถึงตอบตกลงเริ่มแรกไปที่เมนูภาษาอังกฤษก่อนเลยค่ะจากนั้นก็ใช้มือเลื่อนแท่งยาวๆตรงกลางเพื่อมาเลือกเมนู Ture the roller press validerจากนั้นก็เลื่อนเมนูมาเลือกที่ Buy ticketsพอเลือก buy ticket แล้วจะขึ้นเมนูมาให้เราเลือกบัตรโดยสารหลายแบบค่ะอันนี้เราจะซื้อบัตรโดยสารรถไฟก็เลือก Ticket T ค่ะพอกดเลือก Ticket+T มาแล้วก็จะมาให้เลือกFull Fare คือตั๋วราคาเต็มReduced fare -10 year old คือตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีให้เราเลือก Full fareทีนี้พอกดเลือก Full fare แล้วก็จะมาให้เลือกจำนวนตั๋วค่ะ ซึ่งให้เลอกตั้งแต่ 1-20 ใบเลยค่ะถ้าไปเที่ยวเดียวก็เลือก 1.90 ยูโรแต่ถ้าซื้อจำนวน 10 ใบก็ 14.9 ยูโรพอถึงหน้านี้แล้ว เดี๊ยนก็ต้องหยุดสต๊อป เพราะมีแต่แบงค์ใหญ่อยู่ดีก็เลยตัดสินใจไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ สะดวกกว่าค่ะซื้อกับเจ้าหน้าที่จ่ายกับบัตรเครดิตไปเลย ได้ทั้งหมด 10 ใบตามภาพ เอาไว้เดินทางในตัวเมืองย่านโซน1-2ค่ะแผนที่การเดินทางในกรุงปารีส และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆยังไงเพื่อนลองไปศึกษากันดูนะค่ะเข้าไปดูข้อมูลการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์ https://parisbytrain.com/ และเว็ปไซต์ : https://www.ratp.fr/en เอาเป็นรีวิวทริปการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro ในกรุงปารีส จากสถานี Opera มายังสถานี Ledru-Rollin ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ เดี่ยวมารีวิวต่อในบล็อกถัดไป จะพาเที่ยวกรุงปารีสแล้วค่ะ ยังไงต้องขอขอบพระคุณเพื่อนทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านและปวดหัวไปด้วยกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ————————————————————————————
[Update] 14 สถานที่ท่องเที่ยว ปารีส (Paris, France) | ที่เที่ยวปารีส – Sonduongpaper
ปารีส (Paris) เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งปารีสยังมีแลนด์มาร์คชื่อดังที่เป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชมกัน เช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นต้น
1. มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral)
มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral) เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame แปลว่า แม่พระ (Our Lady) ซึ่งเป็นคำที่ชาวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์พรหมจารี
อาสนวิหารน็อทร์-ดาม ถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส ภายนอกวิหารแต่ละด้านจะมีเอกลักษณ์ความสวยงามแตกต่างกันไป ภายในวิหารกว้างขวาง ใหญ่โต เต็มไปด้วยผลงานการออกแบบ รูปปั้นแกะสลัก และภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับพระแม่มารี
2. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musee du Louvre)
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musee Du Louvre) หรือ มูว์เซดูลูฟวร์ หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีสมีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดของโลก
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กว้างขวางใหญ่โต มีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม เดินทั้งวันก็ไม่หมด ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น เช่น ภาพเขียนโมนาลิซา The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอส
3. หอไอเฟล (Eiffel Tower)
หอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน มีความสูง 324 เมตร หรือสูงเทียบเท่ากับตึก 81 ชั้น เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย
ด้านล่างหอไอเฟลเป็นส่วนต้อนรับนักท่องเที่ยว มีจุดซื้อตั๋วสำหรับขึ้นไปชั้นบนและของที่ระลึกต่างๆ ส่วนด้านบนหอไอเฟล สามารถขึ้นได้แต่ต้องซื้อตั๋วก่อนซึ่งจะมีหลายชั้น แต่ละชั้นราคาจะไม่เท่ากัน ยิ่งสูงวิวยิ่งสวย ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน หากขึ้นชั้นบนแนะนำให้นั่งร้านอาหารกินข้าว ชมวิวจากมุมสูง เพราะจะได้เห็นวิวที่สวยงาม อลังการ ภายในร้านอีกด้วย
4. สวนช็องเดอมาร์ส (Champ da mars)
สวนช็องเดอมาร์ส (Champ da mars) เป็นสวนสาธารณะแบบเปิดโล่งขนาดใหญ่ มีต้นไม้ สนามหญ้า เรียงเป็นแนวยาว อยู่ใกล้ๆ หอไอเฟล มีนักท่องเที่ยวมากมายมาถ่ายรูปเนื่องจากฉากหลังเห็นหอไอเฟลนั่นเอง
ส่วนแห่งนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในเมือง อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย เช่น คอนเสิร์ต และงานเทศกาลต่างๆ
5. ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยต (Galeries Lafayette)
ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยต (Galeries Lafayette) เป็นห้างสรรพสินค้าหรูหรา อลังการ มีลักษณะตึกเป็นทรงโดมที่ประดับประดาด้วยกระจกสี ตั้งอยู่บนถนนโฮสมานน์ (Boulevard Haussman) ใกล้กับโรงโอเปร่าการ์นิเยร์ (Opera Ganier) เดิมที่ห้างนี้เป็นเพียงแค่ร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ จนมาในปัจจุบันได้มีการขยับขยายจนใหญ่โตและมีการตกแต่งอย่างงดงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาสัมผัสเมื่อมาถึงปารีส
6. พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace)
พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace) เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก มีสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบบาโรค (Baroque) และรอคโคโค (Rococo) โดยเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมกัน
อาคารก่อสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว มีพื้นที่ 5,000 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon, และ The Park ภายในพระราชวังแวร์ซายมีห้องรวมมากถึง 700 ห้องด้วยกัน บริเวณรอบพระราชวังแวร์ซายเต็มไปด้วยสวนสวยมีสไตล์ตกแต่งเหมือนเขาวงกต จุดไฮไลท์คือน้ำพุจากเทพนิยายกรีก Fountain of Latona
ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน (เมษายน – เดือนตุลาลม) เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดเนื่องจาก เวลากลางวันจะยาวกว่ากลางคืน และอากาศเย็นสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพระราชวังแงร์ซายได้เต็มที่ ในช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม) จะมีหิมะตก ทำให้เห็นความสวยงามของพระราชวังแวร์ซายและสวนบริเวณรอบปกคลุมไปด้วยหิมะ ได้ความสวยงามอีกแบบ
7. ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)
ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc De Triomphe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม จัตุรัสแห่งดวงดาว อยู่ทางทิศตะวันตกของช็องเซลีเซ (Champs-Élysées)
ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรเพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนของประตูชัยได้ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00
8. ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES)
ถนนช็องเซลีเซ (Champs-Élysées) เป็นถนนช้อปปิ้งชื่อดังระดับโลก ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดและค่าเช่าร้านค้าแพงที่สุดในโลกอีกด้วย สองข้างทางมีต้นเกาลัดที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามปลูกเรียงราย
สองข้างทางของถนนแห่งนี้ เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรู แบรนด์เนมชั้นดังระดับโลก ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงละคร ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงกลางคืน นักท่องเที่ยวสามารถเดินได้ทั้งวัน และถนนแห่งนี้ยังเชื่อมต่อไปถึงประตูชัยฝรั่งเศส (Arc De Triomphe) อีกด้วย
9. แม่น้ำแซน (Seine River)
แม่น้ำแซน (Seine River) เป็นแม่น้ำที่มีความยาวกว่า 777 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำสายหลักทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส กิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือการนั่งเรือล่องแม่น้ำเซน เพื่อให้นักท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศย์ ดูพระอาทิตย์ตกดิน ชมแสงสียามค่ำคืน โดยมีไฮไลท์เป็นสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำสายนี้ เช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และมหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นต้น
10. มหาวิหาร ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (Basilica of the Sacred-Coeur)
มหาวิหาร ซาเคร-เกอร์ (Basilica Of The Sacred-Coeur) เป็นโบสถ์และมหาวิหารรองในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมัน-ไบแซนไทน์ (Romano-Byzantine) เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในกรุงปารีส หรือที่เรียกกันว่า มงมาทร์ (Montmartre)
ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงปารีส เนื่องจากตั้งอยู่บนยอดเขามงมาทร์ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวจากจุดนี้ได้ สามารถมองเห็นหอไอเฟลท่ามกลางความสวยงามของเมืองปารีสอีกด้วย
11. พระราชวัง ลุกซ็องบูร์ (Luxembourg Palace)
พระราชวัง ลุกซ็องบูร์ (Luxembourg Palace) ได้รับการก่อสร้างขึ้นสำหรับสมเด็จพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ปัจจุบันสวนแห่งนี้ได้กลายเป็นของวุฒิสภาฝรั่งเศส
บริเวณรอบพระราชวัง เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในกรุงปารีส มีพื้นที่กว่า 224,500 ตารางเมตร รอบสวนเต็มไปด้วยต้นไม้ สนามหญ้าสี และทางเดินกรวดที่มีรูปปั้นตั้งอยู่เป็นระยะๆ โดยมีสระน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
12. สุสานแปร์ ลาแชส (Père Lachaise Cemetery)
สุสานแปร์ ลาแชส (Père Lachaise Cemetery) เป็นสุสานขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงปารีส ที่มีการตกแต่งอย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกคล้ายกับสวนสาธารณะที่มีความร่มรื่นโดยมีการออกแบบของหลุมฝังศพในแนวทางเดียวกัน
ภายในสุสานเป็นหลุมฝังศพกว่า 33,000 หลุม มีรูปปั้นและอนุสาวรีย์ของผู้มีชื่อเสียงมากมาย เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี นักวรรณกรรม เป็นต้น
13. พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (MUSEE D’ORSAY)
พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musee D’Orsay) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแซน เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีการจัดแสดงผลงานศิลปะหลายแขนง ทั้งจิตรกรรม ภาพวาดเสมือนจริง และประติมากรรมแกะสลักหินอ่อน รวมมากกว่า 2,000 กว่าชิ้น ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์จะมีรูปปั้นแรดและม้าจากนักประติมากรรมที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่
ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นสถานีรถไฟ เพื่อใช้เป็นชุมทางรถไฟสายตะวันตกเฉียงใต้ ในปัจจุบันส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ยังคงใช้เป็นสถานีรถไฟชานเมืองด่วนพิเศษ หรือ RER โดยใช้ชื่อสถานีเดียวกัน
14. ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌปงปีดู (Centre Pompidou)
ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌปงปีดู (Centre Pompidou) ได้ชื่อมาจาก ฌอร์ฌ ปงปีดู ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนที่ 2 ผู้ริเริ่มให้สร้างอาคารแห่งนี้ขึ้น
ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌปงปีดู มีทั้งหมด 6 ชั้น ภายในอาคารประกอบด้วยหลายส่วน ได้แก่ ห้องสมุดสารสนเทศสาธารณะ (Bibliothèque publique d’information) ซึ่งเป็นห้องสมุดสาธารณะขนาดใหญ่, พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งชาติ (Musée National d’Art Moderne) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และในส่วนสุดท้ายคือ สถาบันการวิจัยและความร่วมมือทางเสียง/ดนตรี (IRCAM) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยด้านเสียงและด้านดนตรี นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถไปชมวิวที่ชั้นบนสุดของตัวอาคารได้
ลีลามี ตอน เที่ยวยอดเขาหิมะมังกรหยก เมืองลี่เจียง ประเทศจีน (25มี.ค.59)
ลีลามี เราเดินทางมาพิชิตยอดเขาหิมะมังกรหยก ท้าทายความความหนาวสุดขั้ว ยลโฉมเมืองมรดกโลกและดินแดนสุดคลาสสิคกันที่เมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน ของประเทศจีน สวยงามราวกับเทพนิยาย ดูโชว์สวยๆที่นั่งชมวิวสวยๆ
ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสัมผัสความหนาวบนยอดเขามังกรหยก ที่มีความสูงถึง 4,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนภูเขานี้มีธารน้ำแข็ง และมีหิมะปกคลุมขาวโพลนตลอดทั้งปี ในบางช่วงยอดเขานี้จะมีเมฆและหมอกบดบังทัศนียภาพ แต่วันนี้โชคดีมากที่ลีลามีมาในวันที่อากาศโปร่งใส เห็นยอดเขาได้ชัดสวยงาม ทางการจีนได้ยกว่าเป็นยอดเขาที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรที่สุด อุณหภูมิบนยอดเขา 1 องศาเซลเซียส ทัศนวิสัยปลอดโปร่ง อากาศสบาย เห็นวิวจากมุมสูงได้ทั่ว ยอดเขาที่เรียงรายกัน เปรียบเสมือนมังกรหยกที่กำลังเลื้อยขึ้นสวรรค์ ท่ามกลางม่านหมอกและตัดกัยสีท้องฟ้า สวยงามประทับใจ ที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสัมผัสให้ได้
ลงมาด้านล่างจะพบกับการแสดงโชว์ ที่มียอดเขามังกรหยกเป็นฉากหลัง แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมและวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ สร้างความตื่นตาตื่นใจ และความยิ่งใหญ่อลังการของดินแดนแห่งนี้ เป็นการแสดงกลางแจ้งที่ต้องไม่พลาด
รายการ ‘ลีลามี’ (Leela Me) รายการท่องเที่ยวแบบพรีเมียม ด้วยลีลาในแบบ คุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 13.15 น. / Rerun วันเสาร์ เวลา 9.00 น. ทางช่อง 3 Family (ช่อง 13)
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
เที่ยวฝรั่งเศส – สถานที่เที่ยวในปารีส – ออกเสียงแบบคนฝรั่งเศส
แนะนำสถานที่เที่ยวในปารีส และออกเสียงสถานที่ต่างๆแบบคนฝรั่งเศส
Oh là là! กับแตงโม มาเรียนภาษาฝรั่งเศสกับโมนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าภาษาฝรั่งเศส ง่ายกว่าที่คิด ^^\r
มาเรียนภาษาฝรั่งเศสกับโมกันนะคะ
Line : @ohlalakabtangmo (http://line.me/ti/p/[email protected])
Facebook : https://www.facebook.com/ohlalakabtangmo
Instagram : https://www.instagram.com/ohlalakabtangmo
Website : https://www.ohlalakabtangmo.com\r
กดลิงค์ด้านล่างนี้ เพื่อไม่พลาดวีดีโอใหม่ๆนะคะ
https://www.youtube.com/channel/UCHRmbcGYHdIHbCCcIzDlEGA?sub_confirmation=1\r
ในวีดีโอนี้ โมจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆในปารีส เพื่อช่วยให้ทุกคนวางแผนได้ง่ายขึ้นนะคะ และโมก็จะมาออกเสียงสถานที่ต่างๆ แบบคนฝรั่งเศสด้วยค่ะ
มีหลายๆสถานที่ในปารีส ที่หลายๆคนอาจจะไ่ม่รู้จักที่โมอยากแนะนำให้ไปมาก หรือเวลาออกเสียงเป็นภาษาฝรั่งเศสแล้ว แตกต่างจากภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษมากๆ ตามมาดูกันเลยค่า
สงสัยตรงไหนถามโมได้นะคะ
เที่ยวปารีส
เที่ยวฝรั่งเศส
ภาษาฝรั่งเศส
เที่ยวฝรั่งเศสด้วยตัวเอง
รายการ คนติดเที่ยว ฝรั่งเศส ปารีส( Paris France ) 27 มี.ค. 59 Part 1/3
ติดตามชมรายการ คนติดเที่ยว ได้ทางช่อง ททบ.5 คืนวันอาทิตย์ เวลา 23.25 24.00 น.
ดูรายการย้อนหลังได้ที่ ME infinity channel
ติดตาม รายการ คนติดเที่ยว ได้ทาง Facebook: The Tourist คนติดเที่ยว
MUKSAEN in France EP.3 l เที่ยวฝรั่งเศสกัน , Paris
เที่ยวปารีส เที่ยวฝรั่งเศส ปารีส
ทริปฝรั่งเศส EP3 มาช้าาาา แต่มานะ 🙂\r
ในที่สุดเราก็มาถึงปารีสสักที ใช้เวลาน๊านนาน
ตามไปดูปารีสในมุมมองของมุก ร้านอาหารที่มุกยกให้เป็นอันดับ1 ในทริปนี้ เที่ยวดิสนี่ย์แลนด์บ่ายสาม ถึงห้าทุ่ม! ขี่สกู๊ตเตอร์ชมหอไอเฟล จะสนุกแค่ไหน ตามไปดูกันเลย
ปารีส ‘งง’ จนโดนกรีดกระเป๋า | One Day in Paris and the Pickpocket
1 วันในปารีสแบบคนไม่ทำการบ้าน รถใต้ดินก็ปิด ฝนก็ตก งงจนโดนกรีดกระเป๋าบนหอไอเฟล… ตึงๆๆ
ปารีสที่รัก ยุโรปที่บัตรเครดิตโดนล้วงหายอาทิตย์เว้นอาทิตย์(ตอนเรียนอยู่สเปน)มิ้นท์กลับมาแล้ว อยากบอกว่าโบสถ์ยังคงสวย เมืองยังเหมือนเทพนิยาย อาหารยังกินได้ ขนมยังอร่อย และขโมยก็ยังเยอะอยู่ 5555
ในยุโรปสิ่งที่ต้องระวัง คือ การโดนขโมยของด้วยเทคนิคแพรวพราวดาวล้านดวง มิ้นท์ขอยืนยันว่าเดือดกว่าทุกทวีปที่เคยไปมา ระวังของดีๆนะจ๊ะ
ขอบคุณภาพสวยๆจาก Samsung Galaxy Note 10 โหมด Ultra Wide นี่มันดีจริงๆ! เพื่อนร่วมทริปมือถือในมือสั่น รอการเปลี่ยน 5555
Paris
GalaxyNote10TH
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ที่เที่ยวปารีส