[NEW] ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ จนถึงผ่านด่าน ตม. แบบเข้าใจง่าย พร้อมรูปประกอบ | อะไร ที่ เอา ขึ้น เครื่องบิน ไม่ ได้ – Sonduongpaper

อะไร ที่ เอา ขึ้น เครื่องบิน ไม่ ได้: คุณกำลังดูกระทู้

15.1k

SHARES

Share

Tweet

เค้าว่ากันว่าอะไรที่มันเป็นครั้งแรกมันจะดูยาก เพราะไม่เคยทำมาก่อน กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด ไม่เว้นแม้แต่การเดินทางไปต่างประเทศ ครั้งแรกอาจจะกลัวทำขั้นตอนไม่ถูก ตื่นเต้น กลัวตกเครื่อง ฯลฯ แต่ความกลัวทั้งหลายสามารถแก้ได้ด้วยการหาข้อมูลเยอะๆ เตรียมความพร้อมให้มากที่สุด พอรู้ขั้นตอนก็จะไม่กลัวแล้ว

ในรีวิวนี้จะบอก ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงผ่าน ตม. ประเทศปลายทาง เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเอง การขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศนั้นจะมีขั้นตอนที่มากกว่าการบินในประเทศ เพราะต้องมีเรื่องตรวจคนเข้าเมือง ปริมาณของที่พกติดตัว และความปลอดภัยที่เข้มงวด

ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศเป็นขั้นตอนสากลมีเหมือนกันทุกสนามบิน ทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง หรือสนามบินต่างๆ ทั่วโลก

สิ่งของต้องห้าม

การที่จะบอกถึงขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน ขอบอกสิ่งของต้องห้ามก่อน จะได้ไม่เผลอนำขึ้นเครื่องไปประเทศปลายทาง การนำสิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศนั้นอาจเป็นการทำผิดกฎหมาย อาจต้องรับโทษทั้งจำ หรือ ปรับ หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต

1. อาวุธปืน กระสุน ประเทศสิงคโปร์ถือว่าการมีอาวุธปืนในครอบครองมีโทษร้ายแรงมาก

2. ยาเสพติดให้โทษ ไม่ว่าจะเข้าประเทศไหน ก็ถือว่ามีความผิดร้ายแรง ยิ่งประเทศสิงคโปร์มีโทษถึงประหารชีวิต

3. เหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล บุหรี่ ในปริมาณที่เกินกว่าบริโภคเอง จัดเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมปริมาณการนำเข้า จะต้องถูกปรับ ในแต่ละประเทศจะมีปริมาณแตกต่างกันไป โปรดศึกษาข้อมูลก่อนที่จะนำสิ่งเหล่านั้นเข้าประเทศ

4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เสื้อผ้า กระเป๋าของก๊อป ของปลอม ในประเทศโซนยุโรปมีกฎหมายลิขสิทธิ์ การใช้กระเป๋าหลุยปลอม หรือสินค้าปลอมยี่ห้ออื่นๆ ก็มีโทษ แต่ประเทศในโซนเอเชียไม่มีกฎหมายนี้

5. สื่อลามกอนาจาร

6. Power bank ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดย Power bank ต้องมีขนาดไม่เกิน 32,000 mAh

Nội Dung Bài Viết

สิบเอ็ดขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ จนถึงผ่านด่าน ตม. ของประเทศนั้น

1. เตรียมตัว

หลังจากที่เราได้จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบิน หรือ เอเจนซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เราพิมพ์ Itinerary หรือ E-Ticket ติดตัวไปขึ้นเครื่องด้วย ใบ Itinerary หรือ E-Ticket ยังไม่ใช่ตั๋วที่ขึ้นเครื่องได้เลย เราจะต้องผ่านกระบวนการเช็คอิน ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง สำหรับมือใหม่แนะนำว่าควรไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2-3 ชั่วโมง

ซ้าย. Air asia Travel Itinerary ขวา. E-Ticket จากเอเจนซี่รับจองตั๋วเครื่องบิน

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมก็มี Passport (มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนในวันเดินทาง) + Itinerary หรือ E-ticket ของสายการบิน ในกรณีที่ใช้บัตรเครดิตชำระค่าตั๋วเครื่องบิน ทางสายการบินอาจขอดูบัตรเครดิตใบนั้น จำเป็นต้องพกบัตรเครดิตใบนั้นไปด้วย และสุดท้ายอย่าลืมพกปากกาไปด้วย 2 ด้าม (สำรอง 1 ด้าม)

2. ตรวจสอบเที่ยวบิน

เมื่อถึงสนามบินให้เช็คดูจอมอนิเตอร์ว่าเที่ยวบินที่เรานั่งมีสถานะเป็นยังไง ออกตามเวลาหรือ Delay หรือไม่ เค้าน์เตอร์เช็คอินหมายเลขอะไร

ป้ายแสดงสถานะเที่ยวบิน สนามบินสุวรรณภูมิ

ป้ายแสดงสถานะเที่ยวบิน สนามบินดอนเมือง

3. เช็คอิน – โหลดกระเป๋า

ให้เดินไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินช่องผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อทำการเช็คอิน – โหลดกระเป๋า โดยจะต้องใช้ Itinerary + หนังสือเดินทาง (Passport) เสร็จจากขั้นตอนนี้เราจะได้ใบ Boarding Pass ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อ – นามสกุล ที่นั่ง เกต

ส่วนใบ ตม. ไทย ไม่ต้องกรอกเหมือนแต่ก่อนแล้ว (ยกเลิกใบ ตม. สำหรับคนไทย ตั้งแต่ 16 กันยายน 2560)

Counter check-in สนามบินสุวรรณภูมิ

ตัวอย่าง Boarding Pass

 

4. ตรวจหนังสือเดินทาง

เอกสารที่ต้องใช้ Passport เพียงอย่างเดียว

ทางเข้าที่ตรวจหนังสือเดินทาง สนามบินดอนเมือง

หลังจากเช็คอิน เสร็จเรียบร้อยแล้วให้เดินหาป้ายตรวจหนังสือเดินทาง (Passport Control) แล้วเดินไปตามป้ายเข้าประตูตรวจหนังสือเดินทาง ญาติ และ เพื่อนที่มาส่งจะส่งได้ถึงแค่ตรงนี้

ที่ตรวจหนังสือเดินทางจะแบ่งช่องสำหรับคนไทย และ สำหรับชาวต่างชาติ ให้มองดูป้าย เลือกเข้าให้ถูก

การออกนอกประเทศจะต้องให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตรวจประวัติว่าเป็นบุคคลที่สามารถออกนอกประเทศได้ ปัจจุบันมีการตรวจหนังสือเดินทางอยู่ 2 แบบ

4.1 ช่องตรวจอัตโนมัติ (Automatic Channel) เป็นช่องขนาดเล็กให้ผู้เดินทางเข้าไปได้ทีละคน ให้เราทำตามขั้นตอน (มีคนช่วยแนะนำ) เมื่อเสร็จแล้วประตูช่องจะเปิดให้เอง มีการบันทึกข้อมูลการออกนอกประเทศที่แถบบันทึกในเล่ม Passport แต่จะไม่มีตราประทับให้เห็น

4.2 ช่องตรวจโดยใช้เจ้าหน้าที่ ให้เข้าไปทีละคน ยื่น Passport ให้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะเช็คประวัติและลงตราประทับออกนอกประเทศลง Passport

หมายเหตุ. ถ้าใครเคยอ่านขั้นตอนขึ้นเครื่องบินในในช่วงปี 2006 ลงมาจะมีการไปชำระค่าภาษีสนามบิน (Airport Tax) ก่อนเข้า ตม. แต่ปัจจุบันไม่มีแบบนี้แล้ว ภาษีสนามบินได้ถูกรวมไปกับค่าโดยสารแล้ว ไม่ต้องไปจ่ายเพิ่ม สนามบินส่วนมากก็จะรวมค่าภาษีสนามบินเข้าไปในค่าโดยสาร ส่วนน้อยที่ยังต้องจ่ายแยกก็มีสนามบิน Denpasar (Ngurah Rai International Airport) บาหลี

5. สแกนสัมภาระ

หลังจากตรวจหนังสือเดินทางเสร็จ จะเป็นทางเดินเข้าช่องสแกนสัมภาระ ให้เอาสิ่งของในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง กระเป๋าสตางค์ ไปเก็บไว้ในกระเป๋าถือ เสื้อคลุมต้องถอดออก บางสนามบินที่เข้มงวดมากจะต้องถอดเข็มขัด และ รองเท้าด้วย ส่วนน้ำดื่มจะต้องทานให้หมดก่อนเข้าสแกนสัมภาระ หรือไม่ก็ต้องทิ้งลงถังขยะ

See also  ป๊อกจัดให้ของจริง รถในฝันคุณปู่! คันละ 22,000,000 บาท! | ป๊อกกี้ on the run SS4 EP47 | บอกล่วงหน้า ภาษาอังกฤษ

กระเป๋าถือ เป้ ให้วางลงในสายพานผ่านเครื่อง x-ray ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนตัวผู้โดยสารจะต้องเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ

6. รอขึ้นเครื่อง

หลังจากสแกนสัมภาระเสร็จ ให้หยิบกระเป๋าคืนกลับมา ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเครื่องออกมากกว่า 2 ชั่วโมงอาจจะกินข้าว แวะดูของ หรือชอปปิ้ง Duty free ได้ จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding Time ระหว่างรอขึ้นเครื่องให้สังเกตจอหน้าเกตว่าเป็น Flight ที่เราบินหรือเปล่า บางครั้งก็มีการเปลี่ยนเกตได้เหมือนกัน

Duty Free สนามบินดอนเมือง

เกตรอขึ้นเครื่อง สนามบินดอนเมือง

เกตรอขึ้นเครื่อง สนามบินสุวรรณภูมิ

7. ขึ้นเครื่องบิน

ก่อนเครื่องออก 30-40 นาที (Boarding Time) จะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง โดยจะเรียกผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วใน class แพงขึ้นก่อน เช่น First Class, Business class จากนั้นจึงตามด้วยผู้โดยสารที่เหลือ เจ้าหน้าที่จะขอดู Passport พร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา

การขึ้นเครื่องบินจะมี 2 แบบดังนี้

  • งวงช้าง

    เป็นทางเดินจากเกตเข้าสู่ตัวเครื่องบินได้เลย

  • บัสเกต

    ต้องนั่งรถบัสจากเกตไปยังลานจอดเครื่องบินที่อยู่ไกลออกไปจากอาคารผู้โดยสาร

เดินขึ้นเครื่อง

งวงช้างเดินขึ้นเครื่อง

บัสเกต

8. นั่งตามหมายเลข

เมื่อขึ้นไปอยู่บนเครื่องแล้วให้นั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้ หมายเลขที่นั่งจะติดอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระ หากหาไม่เจอ หรือมีคนมานั่งที่เรา ให้ขอความช่วยเหลือกับแอร์ฯ หรือ สจ๊วต บนเครื่อง สัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องสามารถเก็บไว้ในช่องด้านบนได้ ส่วนของมีค่าให้เก็บไว้กับตัว จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัย รูดสายให้กระชับพอดีตัว ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เปิดม่านบังแสง ปิดโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ดูสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน

หมายเลขที่นั่งบนเครื่อง

9. เดินทาง

ระหว่างเดินทางแนะนำให้คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอด บนเครื่องบินมีห้องน้ำสามารถใช้งานได้ในช่วงที่รักษาระดับการบินไว้ได้แล้ว ให้สังเกตจากไฟสถานะในห้องน้ำว่าสามารถใช้ได้หรือเปล่า หลังจากเครื่องบินขึ้นแล้วสามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Tablet, Smartphone (ใน Flight mode), กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ ฯลฯ

บนเครื่องบินเจ้าหน้าที่จะแจกใบ ตม. ของประเทศที่เรากำลังจะเดินทางไปถึง ในบางประเทศอาจจะมีใบศุลกากรให้กรอกเพิ่มอีก 1 ใบ เช่นญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ให้กรอกบนเครื่องให้เรียบร้อยก่อนถึงจุดหมายปลายทาง

ระหว่างเดินทาง

ห้องน้ำบนเครื่องบิน Air asia A320-200

กรอกใบ ตม. บนเครื่องบิน

10. ถึงที่หมาย

เดินตามป้าย Arrivals หรือ Immigration เตรียมเข้าด่าน ตม. ของประเทศนั้น ให้เตรียมเอกสารดังนี้ Passport + ใบ ตม. ของประเทศนั้น ในบางครั้ง ตม. อาจจะถามข้อมูลเพิ่มว่ามาพักกี่วัน มากับใคร มาทำอะไร พักที่ไหน ควรมีคำตอบเตรียมไว้ในใจ

ด่าน ตม. ส่วนมากจะแบ่งแถวสำหรับคนชาติตัวเอง (xxx Citizen) กับคนชาติอื่น (Visitor) คนไทยให้ให้เข้าแถว Visitor

เดินตามป้าย Arrivals

11. รับกระเป๋า

เสร็จจาก ตม. จะเป็นทางไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา ให้มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพาน หรือที่หน้าจอรวม แล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น หลังจากได้กระเป๋าแล้วให้สำรวจความถูกต้องของกระเป๋าเดินทางว่าเป็นของตัวเองหรือเปล่า ดูว่ากระเป๋ามีส่วนไหนแตกเสียหายหรือไม่ ในกรณีที่เสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามเงื่อนไขของสายการบิน แต่ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ก็เดินออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย

11.1 คนที่ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (Customs Nothing To Declare) ให้ออกทางช่องเขียว
11.2 คนที่มีสิ่งของต้องสำแดง (Customs Goods To Declare) เช่นนำเข้าสินค้าปริมาณมากในเชิงพานิชย์ ให้ออกทางช่องแดง

เป็นอันเสร็จขั้นตอนการเดินทาง

รอรับกระเป๋า

ออกจากอาคารผู้โดยสาร ผ่านช่องเขียว/แดงของศุลกากร

สิบเอ็ดขั้นตอนการเดินทางไปต่างประเทศนี้ น่าจะทำให้เข้าใจขั้นตอนการเดินทางมากขึ้น มันอาจจะงงบ้างในครั้งแรก แต่ครั้งต่อไปรับรองว่ามันเป็นเองโดยอัตโนมัติครับ

คำแนะนำอื่นๆ เพิ่มเติม

ห้ามรับฝากของจากคนอื่นมาโหลดใส่กระเป๋าเราโดยเด็ดขาด เราไม่มีทางรู้ว่าในนั้นเป็นของอะไร มันอาจจะเป็นยาเสพติด อาวุธ หรือสินค้าหนีภาษี หากเจ้าหน้าที่ตรวจเจอคนที่จะต้องรับโทษก็ต้องเป็นเรา

Post Views 289342

[NEW] ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ จนถึงผ่านด่าน ตม. แบบเข้าใจง่าย พร้อมรูปประกอบ | อะไร ที่ เอา ขึ้น เครื่องบิน ไม่ ได้ – Sonduongpaper

15.1k

SHARES

Share

Tweet

เค้าว่ากันว่าอะไรที่มันเป็นครั้งแรกมันจะดูยาก เพราะไม่เคยทำมาก่อน กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด ไม่เว้นแม้แต่การเดินทางไปต่างประเทศ ครั้งแรกอาจจะกลัวทำขั้นตอนไม่ถูก ตื่นเต้น กลัวตกเครื่อง ฯลฯ แต่ความกลัวทั้งหลายสามารถแก้ได้ด้วยการหาข้อมูลเยอะๆ เตรียมความพร้อมให้มากที่สุด พอรู้ขั้นตอนก็จะไม่กลัวแล้ว

ในรีวิวนี้จะบอก ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงผ่าน ตม. ประเทศปลายทาง เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเอง การขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศนั้นจะมีขั้นตอนที่มากกว่าการบินในประเทศ เพราะต้องมีเรื่องตรวจคนเข้าเมือง ปริมาณของที่พกติดตัว และความปลอดภัยที่เข้มงวด

ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศเป็นขั้นตอนสากลมีเหมือนกันทุกสนามบิน ทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง หรือสนามบินต่างๆ ทั่วโลก

สิ่งของต้องห้าม

การที่จะบอกถึงขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน ขอบอกสิ่งของต้องห้ามก่อน จะได้ไม่เผลอนำขึ้นเครื่องไปประเทศปลายทาง การนำสิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศนั้นอาจเป็นการทำผิดกฎหมาย อาจต้องรับโทษทั้งจำ หรือ ปรับ หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต

1. อาวุธปืน กระสุน ประเทศสิงคโปร์ถือว่าการมีอาวุธปืนในครอบครองมีโทษร้ายแรงมาก

2. ยาเสพติดให้โทษ ไม่ว่าจะเข้าประเทศไหน ก็ถือว่ามีความผิดร้ายแรง ยิ่งประเทศสิงคโปร์มีโทษถึงประหารชีวิต

3. เหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล บุหรี่ ในปริมาณที่เกินกว่าบริโภคเอง จัดเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมปริมาณการนำเข้า จะต้องถูกปรับ ในแต่ละประเทศจะมีปริมาณแตกต่างกันไป โปรดศึกษาข้อมูลก่อนที่จะนำสิ่งเหล่านั้นเข้าประเทศ

4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เสื้อผ้า กระเป๋าของก๊อป ของปลอม ในประเทศโซนยุโรปมีกฎหมายลิขสิทธิ์ การใช้กระเป๋าหลุยปลอม หรือสินค้าปลอมยี่ห้ออื่นๆ ก็มีโทษ แต่ประเทศในโซนเอเชียไม่มีกฎหมายนี้

5. สื่อลามกอนาจาร

6. Power bank ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดย Power bank ต้องมีขนาดไม่เกิน 32,000 mAh

สิบเอ็ดขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ จนถึงผ่านด่าน ตม. ของประเทศนั้น

1. เตรียมตัว

หลังจากที่เราได้จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบิน หรือ เอเจนซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เราพิมพ์ Itinerary หรือ E-Ticket ติดตัวไปขึ้นเครื่องด้วย ใบ Itinerary หรือ E-Ticket ยังไม่ใช่ตั๋วที่ขึ้นเครื่องได้เลย เราจะต้องผ่านกระบวนการเช็คอิน ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง สำหรับมือใหม่แนะนำว่าควรไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2-3 ชั่วโมง

ซ้าย. Air asia Travel Itinerary ขวา. E-Ticket จากเอเจนซี่รับจองตั๋วเครื่องบิน

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมก็มี Passport (มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนในวันเดินทาง) + Itinerary หรือ E-ticket ของสายการบิน ในกรณีที่ใช้บัตรเครดิตชำระค่าตั๋วเครื่องบิน ทางสายการบินอาจขอดูบัตรเครดิตใบนั้น จำเป็นต้องพกบัตรเครดิตใบนั้นไปด้วย และสุดท้ายอย่าลืมพกปากกาไปด้วย 2 ด้าม (สำรอง 1 ด้าม)

2. ตรวจสอบเที่ยวบิน

เมื่อถึงสนามบินให้เช็คดูจอมอนิเตอร์ว่าเที่ยวบินที่เรานั่งมีสถานะเป็นยังไง ออกตามเวลาหรือ Delay หรือไม่ เค้าน์เตอร์เช็คอินหมายเลขอะไร

ป้ายแสดงสถานะเที่ยวบิน สนามบินสุวรรณภูมิ

ป้ายแสดงสถานะเที่ยวบิน สนามบินดอนเมือง

3. เช็คอิน – โหลดกระเป๋า

ให้เดินไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินช่องผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อทำการเช็คอิน – โหลดกระเป๋า โดยจะต้องใช้ Itinerary + หนังสือเดินทาง (Passport) เสร็จจากขั้นตอนนี้เราจะได้ใบ Boarding Pass ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อ – นามสกุล ที่นั่ง เกต

ส่วนใบ ตม. ไทย ไม่ต้องกรอกเหมือนแต่ก่อนแล้ว (ยกเลิกใบ ตม. สำหรับคนไทย ตั้งแต่ 16 กันยายน 2560)

Counter check-in สนามบินสุวรรณภูมิ

ตัวอย่าง Boarding Pass

 

4. ตรวจหนังสือเดินทาง

เอกสารที่ต้องใช้ Passport เพียงอย่างเดียว

ทางเข้าที่ตรวจหนังสือเดินทาง สนามบินดอนเมือง

หลังจากเช็คอิน เสร็จเรียบร้อยแล้วให้เดินหาป้ายตรวจหนังสือเดินทาง (Passport Control) แล้วเดินไปตามป้ายเข้าประตูตรวจหนังสือเดินทาง ญาติ และ เพื่อนที่มาส่งจะส่งได้ถึงแค่ตรงนี้

ที่ตรวจหนังสือเดินทางจะแบ่งช่องสำหรับคนไทย และ สำหรับชาวต่างชาติ ให้มองดูป้าย เลือกเข้าให้ถูก

การออกนอกประเทศจะต้องให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตรวจประวัติว่าเป็นบุคคลที่สามารถออกนอกประเทศได้ ปัจจุบันมีการตรวจหนังสือเดินทางอยู่ 2 แบบ

4.1 ช่องตรวจอัตโนมัติ (Automatic Channel) เป็นช่องขนาดเล็กให้ผู้เดินทางเข้าไปได้ทีละคน ให้เราทำตามขั้นตอน (มีคนช่วยแนะนำ) เมื่อเสร็จแล้วประตูช่องจะเปิดให้เอง มีการบันทึกข้อมูลการออกนอกประเทศที่แถบบันทึกในเล่ม Passport แต่จะไม่มีตราประทับให้เห็น

4.2 ช่องตรวจโดยใช้เจ้าหน้าที่ ให้เข้าไปทีละคน ยื่น Passport ให้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะเช็คประวัติและลงตราประทับออกนอกประเทศลง Passport

หมายเหตุ. ถ้าใครเคยอ่านขั้นตอนขึ้นเครื่องบินในในช่วงปี 2006 ลงมาจะมีการไปชำระค่าภาษีสนามบิน (Airport Tax) ก่อนเข้า ตม. แต่ปัจจุบันไม่มีแบบนี้แล้ว ภาษีสนามบินได้ถูกรวมไปกับค่าโดยสารแล้ว ไม่ต้องไปจ่ายเพิ่ม สนามบินส่วนมากก็จะรวมค่าภาษีสนามบินเข้าไปในค่าโดยสาร ส่วนน้อยที่ยังต้องจ่ายแยกก็มีสนามบิน Denpasar (Ngurah Rai International Airport) บาหลี

5. สแกนสัมภาระ

หลังจากตรวจหนังสือเดินทางเสร็จ จะเป็นทางเดินเข้าช่องสแกนสัมภาระ ให้เอาสิ่งของในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง กระเป๋าสตางค์ ไปเก็บไว้ในกระเป๋าถือ เสื้อคลุมต้องถอดออก บางสนามบินที่เข้มงวดมากจะต้องถอดเข็มขัด และ รองเท้าด้วย ส่วนน้ำดื่มจะต้องทานให้หมดก่อนเข้าสแกนสัมภาระ หรือไม่ก็ต้องทิ้งลงถังขยะ

กระเป๋าถือ เป้ ให้วางลงในสายพานผ่านเครื่อง x-ray ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนตัวผู้โดยสารจะต้องเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ

6. รอขึ้นเครื่อง

หลังจากสแกนสัมภาระเสร็จ ให้หยิบกระเป๋าคืนกลับมา ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเครื่องออกมากกว่า 2 ชั่วโมงอาจจะกินข้าว แวะดูของ หรือชอปปิ้ง Duty free ได้ จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding Time ระหว่างรอขึ้นเครื่องให้สังเกตจอหน้าเกตว่าเป็น Flight ที่เราบินหรือเปล่า บางครั้งก็มีการเปลี่ยนเกตได้เหมือนกัน

Duty Free สนามบินดอนเมือง

เกตรอขึ้นเครื่อง สนามบินดอนเมือง

เกตรอขึ้นเครื่อง สนามบินสุวรรณภูมิ

7. ขึ้นเครื่องบิน

ก่อนเครื่องออก 30-40 นาที (Boarding Time) จะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง โดยจะเรียกผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วใน class แพงขึ้นก่อน เช่น First Class, Business class จากนั้นจึงตามด้วยผู้โดยสารที่เหลือ เจ้าหน้าที่จะขอดู Passport พร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา

การขึ้นเครื่องบินจะมี 2 แบบดังนี้

  • งวงช้าง

    เป็นทางเดินจากเกตเข้าสู่ตัวเครื่องบินได้เลย

  • บัสเกต

    ต้องนั่งรถบัสจากเกตไปยังลานจอดเครื่องบินที่อยู่ไกลออกไปจากอาคารผู้โดยสาร

เดินขึ้นเครื่อง

งวงช้างเดินขึ้นเครื่อง

บัสเกต

8. นั่งตามหมายเลข

เมื่อขึ้นไปอยู่บนเครื่องแล้วให้นั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้ หมายเลขที่นั่งจะติดอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระ หากหาไม่เจอ หรือมีคนมานั่งที่เรา ให้ขอความช่วยเหลือกับแอร์ฯ หรือ สจ๊วต บนเครื่อง สัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องสามารถเก็บไว้ในช่องด้านบนได้ ส่วนของมีค่าให้เก็บไว้กับตัว จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัย รูดสายให้กระชับพอดีตัว ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เปิดม่านบังแสง ปิดโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ดูสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน

หมายเลขที่นั่งบนเครื่อง

9. เดินทาง

ระหว่างเดินทางแนะนำให้คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอด บนเครื่องบินมีห้องน้ำสามารถใช้งานได้ในช่วงที่รักษาระดับการบินไว้ได้แล้ว ให้สังเกตจากไฟสถานะในห้องน้ำว่าสามารถใช้ได้หรือเปล่า หลังจากเครื่องบินขึ้นแล้วสามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Tablet, Smartphone (ใน Flight mode), กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ ฯลฯ

บนเครื่องบินเจ้าหน้าที่จะแจกใบ ตม. ของประเทศที่เรากำลังจะเดินทางไปถึง ในบางประเทศอาจจะมีใบศุลกากรให้กรอกเพิ่มอีก 1 ใบ เช่นญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ให้กรอกบนเครื่องให้เรียบร้อยก่อนถึงจุดหมายปลายทาง

ระหว่างเดินทาง

ห้องน้ำบนเครื่องบิน Air asia A320-200

กรอกใบ ตม. บนเครื่องบิน

10. ถึงที่หมาย

เดินตามป้าย Arrivals หรือ Immigration เตรียมเข้าด่าน ตม. ของประเทศนั้น ให้เตรียมเอกสารดังนี้ Passport + ใบ ตม. ของประเทศนั้น ในบางครั้ง ตม. อาจจะถามข้อมูลเพิ่มว่ามาพักกี่วัน มากับใคร มาทำอะไร พักที่ไหน ควรมีคำตอบเตรียมไว้ในใจ

ด่าน ตม. ส่วนมากจะแบ่งแถวสำหรับคนชาติตัวเอง (xxx Citizen) กับคนชาติอื่น (Visitor) คนไทยให้ให้เข้าแถว Visitor

เดินตามป้าย Arrivals

11. รับกระเป๋า

เสร็จจาก ตม. จะเป็นทางไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา ให้มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพาน หรือที่หน้าจอรวม แล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น หลังจากได้กระเป๋าแล้วให้สำรวจความถูกต้องของกระเป๋าเดินทางว่าเป็นของตัวเองหรือเปล่า ดูว่ากระเป๋ามีส่วนไหนแตกเสียหายหรือไม่ ในกรณีที่เสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามเงื่อนไขของสายการบิน แต่ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ก็เดินออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย

11.1 คนที่ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (Customs Nothing To Declare) ให้ออกทางช่องเขียว
11.2 คนที่มีสิ่งของต้องสำแดง (Customs Goods To Declare) เช่นนำเข้าสินค้าปริมาณมากในเชิงพานิชย์ ให้ออกทางช่องแดง

เป็นอันเสร็จขั้นตอนการเดินทาง

รอรับกระเป๋า

ออกจากอาคารผู้โดยสาร ผ่านช่องเขียว/แดงของศุลกากร

สิบเอ็ดขั้นตอนการเดินทางไปต่างประเทศนี้ น่าจะทำให้เข้าใจขั้นตอนการเดินทางมากขึ้น มันอาจจะงงบ้างในครั้งแรก แต่ครั้งต่อไปรับรองว่ามันเป็นเองโดยอัตโนมัติครับ

คำแนะนำอื่นๆ เพิ่มเติม

ห้ามรับฝากของจากคนอื่นมาโหลดใส่กระเป๋าเราโดยเด็ดขาด เราไม่มีทางรู้ว่าในนั้นเป็นของอะไร มันอาจจะเป็นยาเสพติด อาวุธ หรือสินค้าหนีภาษี หากเจ้าหน้าที่ตรวจเจอคนที่จะต้องรับโทษก็ต้องเป็นเรา

Post Views 289342


อัพเดท! ขึ้นเครื่องบินแอร์เอเชียช่วงโควิด สำคัญมาก ต้องดู!!!


❗5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนขึ้นเครื่องบินแอร์เอเชีย❗
1. ตรวจสอบมาตรการที่จังหวัดปลายทางกำหนดก่อนเดินทางทุกครั้งที่ www.moicovid.com/ข้อมูลสำคัญจังหวัด/
2. แสดงเอกสาร ณ จุดเช็คอิน (การได้รับวัคซีน หรือ ผลการตรวจโควิคที่ได้การรับรอง หรือ เอกสารยืนยันการเข้ารับการรักษาและหายจากโควิด19 ไม่เกิน 90 วัน อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามข้อกำหนดของปลายทาง)
3. แจ้งความจำเป็นการเดินทางผ่าน www.covid19.in.th
4. ผู้โดยสารจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง โดยสายการบินไม่อนุญาตให้สวมหน้ากากอนามัยชนิดที่มีวาล์วระบายอากาศ
5. ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารรับประทานอาหารและเครื่องดื่มตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน ยกเว้นกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น

แอร์เอเชีย ขึ้นเครื่องบิน airasiathailand

📍หมายเหตุ: ข้อความ รูปภาพ คลิป หรือเนื้อหาที่ได้แสดงนี้ เป็นการสื่อสารในที่สาธารณะแบบส่วนตัวเท่านั้น และไม่ได้นำเสนอในนามขององค์กร

ฝากติดตาม…
👉Facebook📕
https://facebook.com/Juniethehighflyer/
👉Instagram📷
https://www.instagram.com/junenatthima

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

อัพเดท! ขึ้นเครื่องบินแอร์เอเชียช่วงโควิด สำคัญมาก ต้องดู!!!

#เดี่ยวลุยคุยข่าว ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน


CH9 2014 10 30 064

#เดี่ยวลุยคุยข่าว ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน

VacaTalk Ep.9 : ของเหลวถือขึ้นเครื่อง 100ml แบบไหนได้ แบบไหนห้าม


เจาะลึกเรื่องการถือของเหลวขึ้นเครื่อง อะไรคือของเหลว เจล ของแข็ง Vacation Talk คลายข้อสงสัย ยาสีฟัน ลิปสติก สเปรย์ ถือเป็นของเหลวหรือไม่ และสามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 100ml รูปแบบอย่างไร ของฝากจาก Duty Free ถือขึ้นเครื่องได้ไหม แถมเรื่องของการแพ็คของเหลวขึ้นเครื่อง โดยเพาะการแพ็คเครื่องสำอางหิ้วติดกระเป๋าขึ้นบนเครื่องบิน
ของเหลวขึ้นเครื่องบิน ขึ้นเครื่องบิน ของต้องห้ามนำขึ้นเครื่อง
อย่าลืมกด SUBSCRIBE › Vacation On นะคะ
ฝากกด กระดิ่ง ด้วยน้าา จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ
➤ ช่องทางติดตามบน Facebook: https://www.facebook.com/VacationOn/
➤ ช่องทางติดตามบน Instagram:
https://www.instagram.com/vacaon/
➤ ติดต่องาน Sponsor ได้ที่
https://m.me/VacationOn/
Email: [email protected]
แล้วพบกัน! คลิปหน้า ขิงเย่ เวเคชั่นออน แล้วคุณจะ หลง…จนหลงรัก

VacaTalk Ep.9 : ของเหลวถือขึ้นเครื่อง 100ml แบบไหนได้ แบบไหนห้าม

ของที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบินไม่ได้มีอะไรบ้าง l PalmOLivre


วันนี้ปาล์มจะมาสรุปเรื่องของที่ไม่สามารถใส่กระเป๋าที่ติดตัวขึ้นเครื่องบินไปได้นะคะ ว่ามีอะไรบ้าง เพราะหลายๆท่านเวลาขึ้นเครื่องบินก็อยากประหยัดงบและเวลาในการเช็คอิน และอยากมีกระเป๋าเดินทางติดตัวขึ้นเครื่องสบายๆ แต่บางท่านอาจจะมีปัญหาตรงเครื่องเอ็กซเรย์ก่อนเข้าเกทด้านในเพราะมีของบางอย่างในกระเป๋าเราที่ขึ้นเครื่องไม่ได้ใช่มั้ยคะ ถ้าไม่อยากเจอกับปัญหานี้ลองมาฟังกันดูนะคะว่ามีอะไรที่เรานำติดตัวขึ้นเครื่องไปกับเราไม่ได้บ้าง
ติดตามข่าวสารจากช่องเราได้จากช่องทางตามนี้นะคะ
Facebook page: https://www.facebook.com/PalmOLivre/
Instagram: @palmolivre
palmolivre ขึ้นเครื่องบิน เตรียมตัวเที่ยว ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เครื่องบิน

ของที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบินไม่ได้มีอะไรบ้าง l PalmOLivre

ของที่ต้องระวัง ในการขึ้นเครื่องบิน ของเหลว อาหาร ถือขึ้นเครื่องได้มั้ย | GoNoGuide


ของที่ควรระวังในการถึงขึ้นเครื่องบิน
ของเหลว เจล สเปรย์ อาหารเหลว น้ำพริก ในบรรจุไม่เกิน 100 มล. รวมทุกอย่างไม่เกิน 1 ลิตร ใส่ถุงปิดสนิท (ไม่จำเป็นต้องเป็นถุงซิป)
อาหารขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องเป็นของแห้ง ปิดผนึก
ห้ามของมีคม อาวุธ มีด
(แต่เข็มเย็บผ้า เข็มกลัด กรรไกรตัดเล็บ นำขึ้นประจำก็ไม่มีปัญหานะ)
ของที่ได้รับการยกเว้น อาจมากกว่า 100 มล.ได้
ยาที่เป็นน้ำ อาจมากกว่ากำหนดได้ ควรมีฉลาก หรือเอกสารกำกับ ยกเว้นยาสามัญ
นมเด็ก ทารก อาหารที่จำเป็นของเด็ก หรือเพื่อทางการแพทย์
ของที่ซื้อจาก duty free
แนะนำ
ขวดเปล่าได้ แต่ขวดที่มีปริมาตรเกิน 100 มล. ต่อให้มีของเหลวไม่เกิน 100 มล. ก็ไม่ได้
100 มิลลิลิตร = 3.3 ออนซ์ = 100 กรัม
ใครมีประสบการณ์ช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ
อ้างอิงจาก
https://www.caat.or.th/th/archives/43274
📍➖➖➖📍
สนับสนุน GoNoGuide http://www.gonoguide.com/support/
📍➖➖➖📍
รวมลิงค์วิธีขอวีซ่า https://www.gonoguide.com/visa/
📍➖➖➖📍
🌍➖➖➖🌍
ติดตาม GoNoGuide
🌍➖➖➖🌍
Facebook 👉 https://www.facebook.com/gonoguide/
Website 👉 http://www.gonoguide.com/
IG 👉 https://www.instagram.com/gonoguide/
Youtube 1 👉 GoNoGuide http://bit.ly/subsyt
Youtube 2 👉 GoNoGuide Trips http://bit.ly/2N9xWJZ
ถามได้ทุกเรื่องที่ GoNoGuide Group 👉 http://bit.ly/gnggroup
กลุ่มเฉพาะแฟนต่างชาติ เยี่ยมเยียน GoNoGuide แฟนฝรั่ง 👉 https://bit.ly/2OPxocR
Twitter @GoNoGuide 👉 https://twitter.com/GoNoGuide
TikTok 👉 https://www.tiktok.com/@gonoguide
Podcast 👉 https://anchor.fm/gonoguide/support

GoNoGuide

ของที่ต้องระวัง ในการขึ้นเครื่องบิน ของเหลว อาหาร ถือขึ้นเครื่องได้มั้ย | GoNoGuide

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ อะไร ที่ เอา ขึ้น เครื่องบิน ไม่ ได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *